“หม่อง ทองดี ใช้เวลา 19 วินาทีในการสร้างชื่อเสียงให้ประเทศไทย แต่ใช้เวลาถึง 20 ปีกว่าจะบรรลุความฝัน!”
ย้อนกลับไปเมื่อ 10 ปีก่อน ชื่อของ หม่อง ทองดี กลายเป็นที่รู้จักทั่วประเทศเพียงชั่วข้ามคืน เมื่อสื่อต่างพร้อมใจกันนำเสนอข่าวเด็กชายวัย 11 ขวบ ผู้มีความสามารถในการโยนเครื่องบินกระดาษ แต่เขาเกือบไร้โอกาสได้ทำตามความฝันของตัวเอง เนื่องจากเป็นคนไร้สัญชาติ
และในปีนี้เรื่องราวของเขาจะถูกนำกลับมาบอกเล่าอีกครั้งผ่านภาพยนตร์เรื่อง A Time To Fly บินล่าฝัน ซึ่งกำลังจะเข้าฉายในโรงภาพยนตร์วันที่ 14 กันยายนนี้
A Time To Fly บินล่าฝัน ได้รับการสนับสนุนจากกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ ร่วมด้วยอิเมจิแมกซ์ (Imagimax) พร้อมได้ยูเจ็ดสอง สตูดิโอ มาเป็นผู้ดูแลการจัดจำหน่ายภาพยนตร์เรื่องนี้
อีกทั้งยังได้ โส่ย-ศักดิ์ศิริ คชพัชรินทร์ ผู้กำกับแอนิเมชันที่เคยฝากฝีไม้ลายมือในภาพยนตร์เรื่อง คุณทองแดง ตอน หมาวัด มาเป็นคนดูแลและบอกเล่าเรื่องราวในครั้งนี้ ผ่านนักแสดงอย่าง โบกี้-ศุภัช ท้าวสกุล, เอ๋-มณีรัตน์ คำอ้วน และ แมน-ธฤษณุ สรนันท์ ที่จะมาร่วมกันพาผู้ชมไปดูการต่อสู้เพื่อให้ได้มาซึ่งความฝันและความเป็นคนไทยของหม่อง
โดยผู้กำกับอย่าง โส่ย ศักดิ์ศิริ ได้เผยถึงแรงบันดาลใจในการสร้างภาพยนตร์ว่า “จุดเริ่มต้นเรื่องนี้มาจากข่าวเด็ก 13 หมูป่าติดถ้ำ ซึ่งในกลุ่มนี้มีน้องๆ บางคนเป็นเด็กไร้สัญชาติ ผมจึงนึกย้อนกลับไปถึงเรื่องที่เคยเป็นข่าวฮือฮาเมื่อ 10 ปีก่อน ที่มี ด.ช.หม่อง ทองดี เด็กไร้สัญชาติที่แข่งเครื่องบินกระดาษจนเป็นตัวแทนไปแข่งที่ประเทศญี่ปุ่น ผมจำได้ว่าอย่างแรกที่ผมรับรู้คือ การปาเครื่องบินกระดาษเป็นกีฬาด้วยเหรอ
“แต่สิ่งที่น่าสนใจลึกลงไปกว่านั้นคือ ความช่วยเหลือจากสื่อต่างๆ, นักกฎหมาย และคุณครูของเขา ที่พยายามผลักดันให้ฝันของหม่องเป็นจริง ผมแบ่งภาพยนตร์เรื่องนี้เป็น 2 ประเด็น คือ Outside Story เป็นเรื่องของเด็กไปแข่งเครื่องบินกระดาษ ส่วน Inside Story เป็นเรื่องของเด็กคนหนึ่งที่ต่อสู้เพื่อให้ได้มาซึ่งสิทธิขั้นพื้นฐาน
“ด้วยความที่เรื่องราวของภาพยนตร์ได้รับแรงบันดาลใจจากชีวิตจริง มันจะส่งผลกระทบต่อคนหรือหน่วยงานไหมบ้างไหม ผมมีการวางเส้นเรื่องที่ชัดเจนคือ เราไม่ได้วางให้ใครเป็นผู้ร้าย เราพูดถึงเรื่องอุปสรรคที่เข้ามาในชีวิต อย่างเช่น อุปสรรคของหม่องคือ เขาเป็นเด็กไร้สัญชาติ
“นอกจากนี้ผมก็เน้นไปที่ความร่วมมือร่วมใจของคนไทยในหลายๆ ส่วน ที่พยายามช่วยเหลือให้ฝันของเด็กคนหนึ่งได้เป็นจริง เจตนาของผมคืออยากให้ภาพยนตร์เรื่องนี้สร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้ชม จากกระดาษราคาไม่ถึง 25 สตางค์ แต่กลับเปลี่ยนชีวิตคนคนหนึ่งได้ เป็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ เหมือนเราทุกคนที่มีอุปสรรคต่างๆ เข้ามาในชีวิต แต่เราจะทำอย่างไรที่จะก้าวข้ามอุปสรรคเหล่านี้ แล้วทำความฝันให้สำเร็จได้ นี่คือสิ่งที่ผมอยากพูดถึงมากกว่าครับ”
สำหรับ A Time To Fly จะว่าด้วยเรื่องราวของ ด.ช.หม่อง ทองดี (โบกี้-ศุภัช ท้าวสกุล) เด็กไร้สัญชาติอายุ 11 ปี ซึ่งบังเอิญได้มีโอกาสไปคัดเลือกและชนะการแข่งขันเครื่องบินกระดาษพับ จนได้เป็นตัวแทนระดับประเทศไปแข่งขันชิงแชมป์เครื่องบินกระดาษพับ ณ ประเทศญี่ปุ่น แต่เมื่อการแข่งขันเริ่มใกล้เข้ามา รัฐบาลไทยได้ปฏิเสธการออกเอกสารการเดินทางให้กับเด็กไร้สัญชาติ เนื่องจากมิชอบด้วยกฎหมาย ทำให้บรรดาคุณครู, อาจารย์, นักกฎหมาย, นักข่าว และประชาชนทั่วไป รวมตัวกันเพื่อเรียกร้องจากทางภาครัฐ ให้เขาได้มีโอกาสเดินตามความฝัน แม้สุดท้ายจะคว้าแชมป์กลับมา แต่หม่องก็ต้องใช้เวลานานถึง 20 ปีเพื่อที่จะได้เป็นคนไทยโดยสมบูรณ์
รับชมตัวอย่าง A Time To Fly บินล่าฝัน ได้ที่