สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ตง อิ่ง-กิต ชายวัย 24 ปี ซึ่งเป็นบุคคลแรกที่ถูกตั้งข้อหาภายใต้กฎหมายความมั่นคงฉบับใหม่ของฮ่องกง ถูกตัดสินให้มีความผิดฐานยุยงให้เกิดการแบ่งแยกดินแดนและการก่อการร้าย เขาถูกจับกุมตัวเมื่อเดือนกรกฎาคมปีที่แล้วหลังจากขี่รถจักรยานยนต์พุ่งเข้าใส่กลุ่มเจ้าหน้าที่ตำรวจบนถนน และในขณะนั้นเขาก็ถือธงประท้วงสีดำที่มีข้อความว่า ‘ปลดปล่อยฮ่องกง การปฏิวัติในยุคของเรา’
สื่อท้องถิ่นอย่าง HKFP รายงานว่า ระหว่างการพิจารณาคดี ผู้พิพากษาระบุว่าข้อความดังกล่าวสามารถยุยงให้ผู้อื่นกระทำการแบ่งแยกดินแดน และตงเข้าใจว่าสโลแกนดังกล่าวมีความหมายในเชิงการแบ่งแยกดินแดน ซึ่งหมายถึงการแบ่งแยกฮ่องกงออกจากจีนแผ่นดินใหญ่
ศาลยังตัดสินว่า การที่เขาไม่หยุดที่ด่านตรวจของตำรวจและในที่สุดก็พุ่งชนเจ้าหน้าที่นั้นถือเป็น ‘การท้าทายโดยเจตนาต่อตำรวจ’ สื่อท้องถิ่นระบุ
“จำเลยกระทำการดังกล่าวโดยมีจุดประสงค์เพื่อสร้างความหวาดกลัวแก่สาธารณะ เพื่อที่จะบรรลุวาระทางการเมืองของเขา” ผู้พิพากษากล่าว
ส่วนทนายของเขาระบุว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะพิสูจน์ว่าตงมีส่วนปลุกระดมให้เกิดการแบ่งแยกดินแดนเพียงเพราะว่าเขาใช้สโลแกนดังกล่าว และไม่มีหลักฐานว่าเขากระทำการโดยเจตนา ซึ่งเขาได้พยายามเลี่ยงการพุ่งชนเจ้าหน้าที่และการกระทำของเขาไม่ถือว่าเป็นการก่อการร้าย เนื่องจากไม่มีความรุนแรงหรืออันตรายที่ร้ายแรงต่อสังคม
เขาถูกตัดสินในการพิจารณาคดีดังกล่าวโดยไม่มีคณะลูกขุน ซึ่งต่างไปจากธรรมเนียมในระบบกฎหมายจารีตประเพณีของฮ่องกง ภายใต้เหตุผลที่ว่าความปลอดภัยของลูกขุนอาจตกอยู่ในความเสี่ยงจากบรรยากาศทางการเมืองที่ละเอียดอ่อนของฮ่องกง
มีนักข่าวและประชาชนทั่วไปหลายสิบคนอัดแน่นอยู่ในห้องพิจารณาคดีเล็กๆ เพื่อฟังคำตัดสิน ผู้สื่อข่าวของ BBC ซึ่งอยู่ที่ศาลขณะมีการฟังคำตัดสินระบุว่า มีความเงียบสนิทเกิดขึ้นระหว่างที่คำตัดสินถูกอ่าน ตงมีท่าทีสงบอย่างยิ่งและโบกมือให้ผู้สนับสนุนก่อนจะถูกนำตัวออกจากพื้นที่ของจำเลย
ผลการตัดสินเมื่อวันอังคารซึ่งเป็นจุดสิ้นสุดของการพิจารณาคดี 15 วัน ทำให้เขาอาจต้องเผชิญกับโทษจำคุกตลอดชีวิต ซึ่งกำหนดรับฟังคำตัดสินโทษอย่างเป็นทางการจะมีขึ้นในภายหลัง และคำตัดสินนี้จะเป็นแนวทางว่าคดีอื่นๆ ภายใต้กฎหมายฉบับนี้อาจจะถูกตีความอย่างไร ด้าน ยามินี มิชรา ผู้อำนวยการแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชันแนล เอเชีย-แปซิฟิก ซึ่งเป็นองค์กรด้านสิทธิมนุษยชนระบุในแถลงการณ์ว่า การตัดสินความผิดของตงนับเป็นช่วงเวลาที่มีนัยสำคัญและเป็นลางร้ายสำหรับสิทธิมนุษยชนในฮ่องกง
“คำตัดสินของวันนี้เน้นย้ำถึงข้อเท็จจริงที่จริงจังว่าการแสดงความคิดเห็นทางการเมืองบางอย่างในเมืองนี้ถือเป็นอาชญากรรมอย่างเป็นทางการ ซึ่งอาจได้รับโทษจำคุกตลอดชีวิต” แถลงการณ์ของผู้อำนวยการแอมเนสตี้ฯ ระบุ
เมื่อเดือนมิถุนายนปีที่แล้ว จีนผ่านกฎหมายความมั่นคงแห่งชาติฉบับนี้ ซึ่งนักกฎหมายและผู้เชี่ยวชาญระบุว่าจะเปลี่ยนแปลงระบบกฎหมายของฮ่องกงอย่างสำคัญ เนื้อหาบางประการภายใต้กฎหมายฉบับนี้ เช่น การพิจารณาคดีสามารถดำเนินการโดยลับและไม่มีคณะลูกขุน และผู้พิพากษาสามารถได้รับการคัดเลือกโดยผู้บริหารสูงสุดของฮ่องกง ซึ่งเป็นผู้รายงานโดยตรงต่อจีน นับตั้งแต่มีการบังคับใช้กฎหมายฉบับนี้ก็มีผู้ที่ถูกจับกุมภายใต้บทบัญญัติของกฎหมายนี้ไปแล้วกว่า 100 คน ซึ่งมีทั้งผู้ประท้วง นักการเมืองที่สนับสนุนประชาธิปไตย และสื่อมวลชน แต่จีนและรัฐบาลฮ่องกงยืนยันว่ากฎหมายฉบับนี้ซึ่งถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางและถูกนำมาใช้หลังการประท้วงสนับสนุนประชาธิปไตยในปี 2019 นั้นมีความจำเป็นต่อการนำเสถียรภาพกลับคืนสู่เขตปกครองพิเศษแห่งนี้ และยืนยันว่าสิทธิและเสรีภาพที่สัญญาไว้เมื่อฮ่องกงกลับคืนสู่การปกครองของจีนในปี 1997 ยังคงไม่เปลี่ยนแปลง
ภาพ: Anthony Kwan / Getty Images
อ้างอิง: