×

InnovestX จับตา 3 ปัจจัยสำคัญกระทบการลงทุนยาวอีก 4 ปี พร้อมแนะกลยุทธ์จัดพอร์ตใช้ลดหย่อนภาษี

23.10.2024
  • LOADING...
InnovestX

InnovestX ประเมินผลการเลือกตั้งสหรัฐฯ ที่ออกมา ไม่ว่าจะเป็น คามาลา แฮร์ริส หรือ โดนัลด์ ทรัมป์ ที่ชนะการเลือกตั้งได้เป็นประธานาธิบดีคนใหม่ของสหรัฐฯ ก็จะยังมีบทบาทบนเวทีโลกเช่นเดิม

 

วิศกรณ์ คีรีวรรณ CFA ผู้อำนวยการ Investment Strategist ฝ่าย Wealth Products & Strategy บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด (InnovestX) ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการ Morning Wealth ว่า กลยุทธ์ในการจัดพอร์ตเพื่อลดหย่อนภาษีจะมีความแตกต่างจากภาพการลงทุนรายปีทั่วไป โดยการจัดพอร์ตเพื่อลดหย่อนภาษีควรมองภาพในระยะยาวกว่า

 

จับตา 3 ปัจจัยกระทบการลงทุนยาวอีก 4 ปี

 

สำหรับมุมมองการลงทุนในช่วงไตรมาส 4 ปีนี้ สามารถใช้จัดพอร์ตการลงทุนได้ต่อเนื่องในปี 2568 และยาวต่อเนื่องไปอีก 4 ปีข้างหน้าจาก 3 ปัจจัยดังนี้ 

 

  1. อัตราดอกเบี้ยของโลกที่เริ่มเข้าสู่ขาลง นำโดยธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ที่เริ่มปรับลดดอกเบี้ยลงในเดือนกันยายนปีนี้ ขณะที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เริ่มทยอยปรับลดดอกเบี้ยลงตาม

 

  1. ปัจจัยทางการเมืองของสหรัฐฯ หลังทราบผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ซึ่งจะจัดการเลือกตั้งขึ้นในวันที่ 5 พฤศจิกายนนี้ 

 

ทั้งนี้ ผลการเลือกตั้งสหรัฐฯ ที่ออกมา ไม่ว่าจะเป็น คามาลา แฮร์ริส ตัวแทนพรรคเดโมแครต หรือ โดนัลด์ ทรัมป์ ตัวแทนพรรครีพับลิกัน ชนะการเลือกตั้งได้เป็นประธานาธิบดีคนใหม่ของสหรัฐฯ สหรัฐฯ ก็จะยังมีบทบาทบนเวทีโลกเช่นเดิม ดังนั้นการจัดพอร์ตการลงทุนเพื่อลดหย่อนภาษี ทั้งในรูปแบบกองทุนรวมเพื่อส่งเสริมการออมระยะยาว (SSF) และกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) จะต้องมีสินทรัพย์ลงทุนของสหรัฐฯ อยู่ในพอร์ตการลงทุน

 

  1. การกระจายการลงทุนถือว่ามีความสำคัญและจำเป็นต้องมี เพื่อสร้างความมั่งคั่งสำหรับระยะยาวหรือการลดหย่อนภาษี

 

ดังนั้นพอร์ตในระยะยาวจึงต้องพิจารณาการลงทุนว่ามีการลงทุนในสินทรัพย์ประเภทใดกระจุกตัวมากเป็นพิเศษ หรือยังมีสินทรัพย์ลงทุนใดที่น้อยเกินไปที่ควรจะลงทุนเพิ่มเติม

 

ทั้งนี้ หากดูข้อมูลย้อนหลังในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา ดัชนี S&P 500 มีการเติบโตเฉลี่ยประมาณ 9.8% ต่อปี สามารถชำระตลาดได้เล็กน้อย แต่หากมีการลงทุนในตราสารหนี้ (Fixed Income) อย่างเดียวก็มีความเสี่ยงที่จะขาดทุนได้

 

ผลวิจัยพบ นักลงทุนจับจังหวะตลาดถูกสัดส่วน 56%

 

อีกทั้งจากผลการวิจัยพบว่า ในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา นักลงทุนสามารถจับจังหวะตลาดถูกในสัดส่วนระยะยาวเพียง 56% เท่านั้น อีกทั้งหากข้อมูลย้อนหลังในช่วง 10-20 ปีที่ผ่านมา การลงทุนในหุ้นถือเป็นสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนได้ค่อนข้างดี ซึ่งหากมีการจัดพอร์ตการลงทุนโดยลงทุนในตลาดหุ้นสัดส่วน 60% และอีกสัดส่วน 40% ลงทุนในตราสารหนี้ ยังสามารถให้ผลตอบแทนได้ในระดับที่ดี

 

แนะวิธีการจัดพอร์ตซื้อกองทุนใช้ลดหย่อนภาษี

 

สำหรับการลงทุนเพื่อประหยัดภาษีจะเป็นภาพการลงทุนระยะยาว 10 ปีในส่วนของกองทุน SSF รวมทั้งกองทุน RMF ที่ลงทุนถือครองจนถึงอายุ 55 ปี

 

วิศกรณ์แนะนำว่า การจัดพอร์ตลงทุนทั้งแบบ Core Portfolio มีสัดส่วนประมาณ 80% เพื่อความปลอดภัย ส่วนอีก 20% แนะนำให้จัดพอร์ตแบบ Satellite Portfolio เพื่อใช้เทรดดิ้ง โดยส่วนนี้มีความเสี่ยงที่จะขาดทุน 

 

ซึ่งแนวคิดในการจัด Core Portfolio ให้เป็นพอร์ตเพื่อการลดหย่อนภาษีในระยะยาว โดยมีการลงทุนเพื่อถือระยะยาวในรูปแบบ DCA จะช่วยลดปัญหาการเข้าผิดจังหวะ อีกทั้งจากสถิติย้อนหลังในช่วง 10 ปีที่ผ่านมาจากการลงทุนในรูปแบบ Dollar-Cost Averaging (DCA) ยังให้ผลตอบแทนที่ดีกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับการลงทุนโดยใช้เงินลงทุนทั้งจำนวนในครั้งเดียว ซึ่งสอดคล้องกับคอนเซปต์ของของการลงทุนในรูปแบบของ Core Portfolio ที่เน้นการลงทุนในระยะยาว รวมถึงมีการจัดสรรเงินลงทุนในรูปแบบทยอยลงทุนเพื่อสร้างการเติบโต

 

อีกทั้งการลงทุนในรูปแบบ Core Portfolio จึงมีความสำคัญด้วยสำหรับพอร์ตลงทุนรองรับการลดหย่อนภาษี โดยสินทรัพย์ที่มีความจำเป็นต้องอยู่ในพอร์ตคือตลาดหุ้นโลก (Global Equity) โดยสามารถซื้อทั้งกองทุน SSF และ RMF ซึ่งสามารถเริ่มทยอยซื้อลงทุนได้

 

ส่วนกลุ่มผู้ที่มีการเสียภาษีในอัตราสูงและต้องการใช้สิทธิลดหย่อนภาษีเพิ่มเติม สามารถลงทุนเพิ่มในกองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืน (ThaiESG) เพื่อรับสิทธิลดหย่อนภาษีเพิ่มเติมได้ โดยนโยบายการลงทุนของ ThaiESG จะเน้นลงทุนในหุ้นและตราสารหนี้ของไทย ดังนั้นนักลงทุนจึงเปรียบเทียบน้ำหนักผลประโยชน์ทางภาษีกับความเสี่ยงที่รับได้ให้เหมาะสมกับความเสี่ยงของแต่ละบุคคล

 

อย่างไรก็ดี สำหรับผู้ที่เริ่มต้นลงทุนแนะนำให้ลงทุนในกองทุน SSF ซึ่งมีข้อดีที่กำหนดให้ถือครอง 10 ปี แต่ไม่ได้กำหนดให้มีการลงทุนต่อเนื่อง ส่วนนักลงทุนที่มีประสบการณ์ในการลงทุนมาแล้ว แนะนำให้ลงทุนในกองทุน RMF เป็นการลงทุนต่อเนื่อง 5 ปี และไถ่ถอนได้เมื่อมีอายุครบ 55 ปี

 

นอกจากนี้แนะนำให้เลือกใช้สิทธิลงทุนในกองทุน SSF ก่อน เพราะมีข้อดีคือ มีตัวเลือกการลงทุนจำนวนมาก อีกทั้งมีข้อจำกัดการลงทุนน้อย จากนั้นจึงค่อยลงทุนเพิ่มในกองทุน RMF และหากต้องการสิทธิลดหย่อนภาษีเพิ่มก็ให้ไปลงทุนในกองทุน ThaiESG โดยนักลงทุนสามารถเลือกซื้อกองทุนและศึกษาข้อมูลได้ผ่าน แอปพลิเคชัน InnovestX

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising
X