ใกล้เข้ามาทุกขณะกับศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่จะมีขึ้นในวันที่ 5 พฤศจิกายนนี้ เป็นการชิงชัยระหว่างรองประธานาธิบดี คามาลา แฮร์ริส จากพรรคเดโมแครต กับอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จากพรรครีพับลิกัน โดยทั้งสองฝ่ายยังมีคะแนนนิยมสูสีจนยากจะคาดเดาว่าใครจะเป็นฝ่ายคว้าชัยชนะ
ซึ่งระบบการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ผู้สมัครจะต้องได้จำนวนคณะผู้เลือกตั้ง (Electoral College) จาก 50 รัฐ และเมืองหลวงรวมอย่างน้อย 270 คน จากทั้งหมด 538 คน เพื่อที่ตัวแทนเหล่านี้จะไปโหวตเลือกประธานาธิบดีอย่างเป็นทางการอีกต่อหนึ่ง
ในมุมมองนักวิเคราะห์ของ THE STANDARD ซึ่งสอดคล้องกับโพลหลายสำนักนั้น ทั้งแฮร์ริสและทรัมป์ต่างมีโอกาสกวาดคะแนนเสียงในรัฐสีเข้มที่เป็นป้อมปราการของเดโมแครตและรีพับลิกันได้ไม่ยาก ส่วนรัฐสีอ่อนคือมีแนวโน้มที่ประชาชนจะเลือกพรรคนั้น โดยอิงจากฐานเสียงเดิมที่ยังเหนียวแน่นและโพลสำรวจล่าสุด
ส่วนรัฐที่ต้องชิงดำคือบรรดารัฐสีม่วง หรือ Battleground State ที่ผลยังออกได้สองหน้า และมีจำนวน Electoral College ให้ช่วงชิงถึง 93 คะแนน ซึ่งรัฐเหล่านี้จะตัดสินว่าใครคือผู้ชนะ
โดยหากยึดตามโพลต่างๆ และความน่าจะเป็นว่าทั้งแฮร์ริสและทรัมป์ต่างชนะในรัฐสีเข้มและสีอ่อน จะทำให้แฮร์ริสและทรัมป์น่าจะมีคะแนนเสียงจาก Electoral College ในมือจำนวน 226 และ 219 เสียงตามลำดับ ซึ่งแฮร์ริสจะต้องการคะแนนเพิ่มอีกอย่างน้อย 44 คะแนนจากรัฐ Swing State ขณะที่ทรัมป์ต้องการอีก 51 คะแนน ผลจะเป็นอย่างไร อีกไม่นานเราจะได้ทราบกัน
ภาพประกอบ: พุทธิพงศ์ โรจน์ศตพงค์
อ้างอิง:
