ทันทีที่ทำเนียบขาวเผยรายชื่อเมนูอาหารกลางวันมื้อประวัติศาสตร์ที่นำสองผู้นำ โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีของสหรัฐอเมริกา และคิมจองอึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือ มาร่วมโต๊ะสนทนากัน ทั่วโลกต่างก็ถกถึงจานเด็ดที่มีส่วนพลิกหน้าประวัติศาสตร์นี้
พร้อมตั้งคำถามว่าทำไมต้อง ‘ฮาเก้น-ดาส’ (Häagen-Dazs)
ก่อนอื่นเราขอเกริ่นถึงตัวเลือกอาหารที่นำมาสานสัมพันธ์ของผู้นำหัวร้อนสองประเทศที่ฮึ่มๆ กันจนทั่วโลกหวาดจะเกิดสงครามนิวเคลียร์ขึ้น โดยอาหารที่นำมาเสิร์ฟนั้นเป็นอาหารสไตล์ฝรั่งเศสผสมเอเชียที่เป็นตัวแทนของทั้งเกาหลีและสิงคโปร์อันเป็นประเทศที่มีวัฒนธรรมอาหารของทั้งจีนและมาเลย์ผสมกัน โดยมี 3 คอร์ส มีให้เลือกทั้งหมด 9 จานด้วยกัน
อาหารเรียกน้ำย่อย
จานเรียกน้ำย่อยมีให้เลือกระหว่างค็อกเทลกุ้ง เมนูอุ่นเครื่องที่เป็นที่รู้จักและโหลที่สุดทั่วโลก โดยเสิร์ฟพร้อมกับสลัดอะโวคาโด สลัดมะม่วงดิบที่ใส่ปลาหมึก ปรุงรสเปรี้ยวหวานด้วยมะนาวและน้ำผึ้ง หรือสามารถเลือกรสชาติแบบเกาหลีด้วย ‘Oiseon’ แตงกว่ายัดไส้สไตล์เกาหลีที่มีชื่อเรียกอื่นๆ อย่าง Hobakseon หรือ Seon
อาหารจานหลัก
ในขณะที่จานหลักเสนอเมนูอิ่มท้องให้ผู้นำโลกได้เลือกทั้ง *กงฟีเนื้อซี่โครง เสิร์ฟเคียงด้วยมันฝรั่งอบสไตล์ฝรั่งเศส และบร็อกโคลีราดซอสไวน์แดงที่ฉาบด้วยความหรูหราสักหน่อย ในขณะที่ฝั่งเอเชียคือข้าวผัดหยางโจวแบบจีนที่ผัดออกรสจัดด้วยซอส XO เผ็ดๆ สูตรโฮมเมด ซึ่งซอส XO ในอาหารจีนนั้นถือเป็นเมนูบ่งบอกถึงสถานะทางสังคมได้ไม่เบาจากวัตถุดิบในการทำและหมักที่เรียกได้ว่า ‘แพงหูฉี่’ จานนี้มาพร้อมหมูผัดเปรี้ยวหวาน และตัวเลือกที่สามคือ ‘Daegu Jorim’ ปลาค็อดเคี่ยวกับซอสถั่วเหลืองใส่หัวไชเท้าอันเป็นอาหารดั้งเดิมของเกาหลี (หากนึกไม่ออก โปรดจินตนาการถึงปลากะพงนึ่งซีอิ๊วตามได้) ซึ่งแม้จะเป็นอาหารดั้งเดิม จานนี้ก็โด่งดังและสามารถหารับประทานได้ในร้านอาหารเกาหลีในอเมริกา
ขนมหวาน
เมนูขนมหวานเชื่อมสัมพันธไมตรีของทั้งสองนั้นคือทาร์ตดาร์กช็อกโกแลตกานาช (Ganache) หรือสามารถเลือกไอศกรีมฮาเก้น-ดาสรสวานิลลาราดซอสเชอร์รี หรือปิดท้ายแบบฝรั่งเศสๆ ทาร์ต โทรเปเซียนน์ (Tarte Tropézienne) ขนมบริยอช (Brioche) ในรูปที่มองไกลๆ คล้ายกับมาการอง (Macaron) ชิ้นใหญ่สอดไส้ ซึ่งเป็นขนมที่ถูกสร้างสรรค์ขึ้นเมื่อปี 1955 โดยตั้งชื่อตามเซ็กซ์ซิมโบลชาวฝรั่งเศสอย่าง บริจิตต์ บาร์โดต์ (Brigitte Bardot) นั่นเอง
ทำไมต้องฮาเก้น-ดาส
เมนูขนมหวานที่นำมาเสิร์ฟในมื้อกลางวันอย่างไอศกรีมฮาเก้น-ดาสรสวานิลลาสำเร็จรูปทำให้ใครหลายคนสงสัยว่า เพราะเหตุอันใดทีมครัวจึงไม่ได้แสดงฝีมือทำไอศกรีมวานิลลาสดใหม่ขึ้นมาเอง จากการคาดเดาของ THE STANDARD นี่น่าจะมาจากความชอบส่วนตัวของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ดังที่เขาเคยให้สัมภาษณ์กับ ไมเคิล โวลฟ์ (Michael Wolff) ในนิตยสาร Hollywood Reporter ซึ่งให้สัมภาษณ์ที่แมนชันหรูในเบเวอร์ลีฮิลส์ พร้อมกับถือกระปุกไอศกรีมฮาเก้น-ดาสรสวานิลลาในมือและพูดถึงตัวเขาเอง
“เขายื่นขวดน้ำเปล่าให้จากตู้เย็น (ตู้เย็นนั้นมีแต่น้ำเปล่าและไอศกรีมเป็นโหล) เขายังคงใส่สูทกับเนกไทที่หลวมเล็กน้อย ในมือถือไอศกรีมฮาเก้น-ดาส โดนัลด์ ทรัมป์ นั่งสบายใจอยู่บนโซฟาในห้องนั่งเล่น (เขาบอกผมว่ากรุณาอย่าวางขวดน้ำลงบนผ้าปูออตโตมัน)
“หลังจากกินไอศกรีมจนหมดถ้วยใหญ่ เขาเอ่ยชมถึงแคมเปญหาเสียงของตัวเองอีกครั้ง”
จะว่าไปในความหวานแบบสำเร็จรูป ‘ฮาเก้น-ดาส’ เป็นไอศกรีมสัญชาติอเมริกันที่โด่งดังไปทั่วโลก โดยถือกำเนิดขึ้นตั้งแต่ปี 1961 โดยรูเบน (Reuben) และโรส แมตทัส (Rose Mattus) ในกรุงนิวยอร์ก ซึ่งเป็นบ้านเกิดของโดนัลด์ ทรัมป์ จึงมีความเป็นไปได้ว่านี่อาจเป็นไอศกรีมรสโปรดอันคุ้นเคยของเขาตั้งแต่เด็ก
เท็ด อาห์น เจ้าของกิจการร้านอาหารเกาหลีเม็กซิกันในกรุงเทพฯ
คนในวงการอาหารคิดอย่างไรกับเมนูพิเศษนี้
หลังจากรายชื่อมื้ออาหารกระชับมิตรเผยออกมา เชฟขนมหวาน ปักก็อกเคียง (Pak Kok Keong) จากร้าน Antoinette ในสิงคโปร์ ให้ความเห็นกับหนังสือพิมพ์ The Strait Times ของสิงคโปร์ว่า “นี่เป็นรสชาติควบระหว่างฝรั่งเศส จีน และเกาหลีเสียมากกว่า” เขายังเผยอีกว่าไม่ได้เห็นความเป็นอเมริกันออกมาจากเมนูดังกล่าวสักนิด และในส่วนของขนมหวานอย่างไอศกรีมฮาเก้น-ดาสและโทรเปเซียนน์สไตล์ฝรั่งเศสนั้น เชฟเสริมว่า “ไม่เข้าใจความหมายของเมนูนี้นัก”
เท็ด อาห์น (Ted Ahn) เชฟชาวเกาหลีและเจ้าของร้าน Changwon Express อาหารเกาหลีสไตล์เม็กซิกันที่อยู่ในกรุงเทพฯ บอกกับ THE STANDARD ว่า “แปลกใจที่มื้อนี้มีความเป็นเกาหลีมาก ทั้งๆ ที่ผมจำได้ว่าทรัมป์เคยพูดว่าเขาตั้งตาคอยที่จะได้กินแฮมเบอร์เกอร์กับคิมจองอึนจะแย่ ผมเลยคาดหวังว่าจะมีอิทธิพลอาหารแบบอเมริกันอยู่ในมื้อนี้ด้วย ส่วนตัวแล้วมองว่านี่อาจบอกเป็นนัยถึงเจตนาดีของอเมริกาที่พร้อมจะต่อรอง”
เขายังเสริมต่ออีกว่า “สลัดมะม่วงดิบที่ใส่ปลาหมึกสดนั้นใส่ความเป็นเกาหลีลงไปมาก เพราะคนเกาหลีนิยมกินปลาหมึกตัวเป็นๆ ผมมองว่าเชฟพยายามใส่รสชาติความเป็นเกาหลีลงไปในจานนี้ เนื่องจากปลาหมึกดิบๆ หรือสดๆ นั้นไม่ใช่สิ่งที่คนอเมริกันนิยมกินกัน
“Oiseon เป็นเมนูอาหารบ้านๆ ของเกาหลีที่กินง่ายและสดชื่น ไม่ใส่อาหารทะเลหรือพริกไทย นี่ไม่ใช่จานหรูหราอะไรเลย แต่ทำให้กินง่ายสำหรับทั้งทรัมป์และคิมจองอึน แถมยังทำให้รู้สึกสดชื่นขึ้นด้วย” เขาเสริมถึงเมนูแตงกวายัดไส้สไตล์แดนโสม ส่วน Daegu Jorim ปลาค็อดเคี่ยวกับซอสถั่วเหลือง “เป็นเมนูพื้นบ้านของเกาหลีที่เผ็ดและมีกลิ่นฉุน น่าสนใจตรงที่พ่อครัวไม่ได้เลือกบิบิมบับหรือเมนูที่คนอเมริกันคุ้นเคย ผมอยากรู้ว่าเขาจะนำเสนอออกมาให้มีความเป็นอเมริกันอย่างไร
“แต่ในฐานะคนเกาหลี ผมมองว่าเป็นมื้อหรูที่ไม่น่าจะอร่อย เพราะคงปรับให้จืดลงเยอะเพื่อให้เข้ากับลิ้นคนอเมริกัน”
อ้างอิง:
- www.koreanbapsang.com/daegu-jorim-soy-braised-cod-fish-with
- www.straitstimes.com/singapore/from-beef-confit-to-daegu-jorim-soy-braised-codfish-whats-on-the-menu-at-the-trump-kim
- ww.chicagotribune.com/dining/recipes/sc-food-0206-xo-sauce-20150203-story.html
- www.eater.com/2017/7/13/15968928/donald-trump-paris-dinner-macron-alain-ducasse-jules-verne
- en.wikipedia.org/wiki/H%C3%A4agen-Dazs
- www.vox.com/2016/6/1/11828166/donald-trump-the-hollywood-reporter
- archive.is/20161119013536/www.deathandtaxesmag.com/292359/donald-trump-eats-so-much-ice-cream/#selection-693.0-729.79
- *กงฟี (confit) คือเทคนิคการทำอาหารสไตล์ฝรั่งเศสที่นำเนื้อสัตว์ไปตุ๋นหรือแช่ในน้ำมันของตัวมันเอง