ระหว่างที่ตอนนี้ผู้เขียนกำลังใช้เวลาอยู่ในไทม์โซนของกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส แม้ว่าตัวจะยังอยู่ ณ กรุงเทพมหานคร ประเทศไทย เพื่อเกาะติดโอลิมปิกเกมส์ 2024 มารายงานสู่สายตาแฟนๆ THE STANDARD การหาอ่านข่าวก็เป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของนักข่าวเช่นกัน
โดยวานนี้ (28 กรกฎาคม) เป็นค่ำคืนที่นักกีฬาไทยแข่งขันจบเร็วกว่าปกติคือราวตีหนึ่งของวันใหม่ตามเวลาไทย ในตอนนี้ไม่มีนักกีฬาคนไหนที่จะลงแข่งขันหลังจากนี้แล้ว ทำให้ผู้เขียนมีเวลาติดตามข่าวสารตามเว็บไซต์ต่างๆ เพิ่มขึ้นอีกเล็กน้อย
ระหว่างติดตามข่าวสารเหมือนทุกวัน สายตาก็เลื่อนไปเจอบทความหนึ่งใน BBC Sport ที่พาดหัวแรงผิดกับธรรมชาติของเว็บไซต์นี้ โดยพาดหัวข่าวนั้นแปลเป็นไทยได้ว่า ‘นักข่มขืนเด็กชาวเนเธอร์แลนด์ ซึ่งถูกตัดสินว่ามีความผิด ได้รับเสียงโห่ในเกมเปิดกีฬาโอลิมปิก’
ด้วยความสนใจจึงคลิกเข้าไปอ่านเนื้อหา และเมื่อติดตามข่าวสารเพิ่มเติมจากเว็บไซต์อื่นๆ ทำให้รู้เรื่องราวของชายที่ชื่อ Steven van de Velde มากขึ้น
Steven van de Velde เป็นนักกีฬาวอลเลย์บอลชายหาดทีมชาติเนเธอร์แลนด์ เขาเคยต้องโทษคดีข่มขืนเมื่อปี 2016 สมัยที่เขาอายุได้ 21 ปี หลังไปล่วงละเมิดทางเพศเยาวชนอายุเพียงแค่ 12 ปี
จุดเริ่มต้นของเหตุการณ์นี้เริ่มในตอนที่นักวอลเลย์บอลชายหาดคนนี้อายุได้เพียง 19 ปี และเด็กสาววัย 12 ปีดังกล่าว เริ่มพูดคุยกันทางอินเทอร์เน็ต หลังจากนั้น Steven van de Velde ก็ตัดสินใจบินจากเนเธอร์แลนด์ไปยังอังกฤษ เพื่อพบกับเด็กสาวคนนั้นและมีเซ็กซ์กันหลายครั้งในช่วงฤดูร้อนปี 2014
ในปี 2016 เขาถูกตัดสินจำคุก 4 ปี หลังจากสารภาพว่าเคยล่วงละเมิดทางเพศเด็กสาววัย 12 คนนั้นจริง เขาถูกจำคุก 1 ปีในอังกฤษ จากนั้นจึงถูกย้ายไปยังเนเธอร์แลนด์ ซึ่งโทษสำหรับความผิดดังกล่าวไม่รุนแรงนัก เขาถูกตัดสินโทษใหม่ โดยลดโทษลงก่อนได้รับการปล่อยตัวในปี 2017 หลังจากรับโทษจำคุกได้เพียง 13 เดือน แต่ตอนนั้นเขาถูกตั้งทัณฑ์บนและต้องอยู่ภายใต้การควบคุมอย่างใกล้ชิด
ในไม่ช้า Steven van de Velde ก็กลับมาเล่นวอลเลย์บอลอาชีพอีกครั้ง โดยผ่านเข้ามาแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ครั้งแรกในช่วงต้นฤดูใบไม้ผลิที่ผ่านมา ซึ่งทางคณะกรรมการโอลิมปิกของเนเธอร์แลนด์มองว่าเขาควรได้รับโอกาสที่ 2 และให้โอกาสเขาอีกครั้ง
ไม่มีใครไม่ว่าจะเป็นองค์กรกำกับดูแลวอลเลย์บอลระดับโลกอย่าง FIVB หรือคณะกรรมการโอลิมปิกสากล หรือ IOC ออกมาห้ามหรือแบนเขาจากการเป็นนักวอลเลย์บอลอาชีพ แม้จะมีกระแสต่อต้านที่เรียกร้องให้ IOC ออกคำสั่งห้ามไม่ให้เขาเล่น แต่นั่นก็ไม่เป็นผล
และสุดท้ายเขาก็มาปรากฏตัวในโอลิมปิกเกมส์ 2024 ที่กรุงปารีสในครั้งนี้ แน่นอนว่ามีเสียงต่อต้านเขาในสนามแบบที่ BBC พาดหัวจริง แต่หากไปดูคลิปย้อนหลังดีๆ ในมุมหนึ่งเขาก็ได้รับเสียงเชียร์เช่นกัน
กลับมาที่จุดประสงค์ของบทความนี้ เราไม่ได้เพียงแค่จะมาเล่าว่าเกิดอะไรขึ้นกับเขาหรือเขาไปทำอะไรมาเท่านั้น แต่อยากจะชวนพูดคุยและแลกเปลี่ยนความเห็นกันว่า นักกีฬาคนหนึ่งซึ่งเคยทำความผิด โดยเฉพาะกับเด็กที่อายุเพียงแค่ 12 ปี สมควรได้รับโอกาสแก้ตัวใหม่หรือไม่ เพราะนั่นเป็นข้อถกเถียงที่น่าสนใจซึ่งเกิดขึ้นระหว่างที่นั่งหาข้อมูลเกี่ยวกับเขา
แน่นอนว่าความผิดของ Steven van de Velde เกิดขึ้นจริง เพราะเขาเองก็ยอมรับความผิดต่อศาลในขณะที่มีการไต่สวนคดีความเกิดขึ้น แตกต่างจากกรณีที่เกิดขึ้นกับนักกีฬาชื่อดังส่วนมาก ที่ถูกกล่าวหาว่าข่มขืนหรือมีความสัมพันธ์กับหญิงสาว แต่สุดท้ายก็หาข้อพิสูจน์ไม่ได้
ตัวอย่างที่ใกล้เคียงแต่ก็ไม่ถึงกับเหมือนกันคือกรณีของ Mike Tyson ที่สามารถกลับมาชกมวยอาชีพอีกครั้ง หลังจากถูกตัดสินว่ามีความผิดฐานข่มขืนในปี 1992
Mike Tyson ถูกจับกุมในปี 1991 ด้วยข้อหาข่มขืน Desiree Washington เด็กสาววัย 18 ปี หนึ่งในผู้เข้าประกวด Miss Rhode Island ในโรงแรมที่พัก และเขาถูกปล่อยตัวออกมาหลังจากจำคุกไปแล้ว 3 ปี โดยมฤตยูดำก็ยังโลดแล่นในการเป็นนักกีฬาอาชีพต่อจากนั้น
แม้จะคล้ายกัน แต่นั่นคือหญิงสาววัย 18 ปี ทว่าคดีของ Steven van de Velde เกิดขึ้นกับเด็กอายุ 12 ปี ทำให้นอกจากเขาจะกลายเป็นนักโทษคดีข่มขืนแล้ว เขายังถูกมองว่าเป็นพวก ‘เปโด’ ซึ่งเป็นคำที่ใช้เรียกพวกใคร่เด็ก หรือ Pedophile ด้วย
แน่นอนว่าในมุมของสื่ออังกฤษส่วนมากและคนที่ไม่เห็นด้วยกับโอกาสที่ Steven van de Velde ควรได้รับต่างก็ออกมาจวกและโจมตีเขา แต่ในอีกมุมหนึ่งก็มองว่า การที่เขามีเพศสัมพันธ์กับเหยื่อได้หลายครั้งอาจเกิดขึ้นจากความยินยอม (แต่ต้องอย่าลืมว่า การตัดสินใจดังกล่าวมาจากเด็กวัย 12 ปี ซึ่งอาจยังไม่มีวุฒิภาวะมากพอ) และเจ้าตัวก็ได้ชดใช้ความผิดไปแล้ว
ในมุมของเพื่อนร่วมทีมอย่าง Matthew Immers เปิดเผยหลังการแข่งขันว่า “เราผิดหวังที่เรื่องราวมันใหญ่โตขนาดนี้” ขณะที่ Steven van de Velde ถูกกันออกจากการให้สัมภาษณ์หลังเกม เพราะเนเธอร์แลนด์พยายามปกป้องเขาอย่างเต็มที่
“เขารับโทษไปแล้ว ผู้คนสมควรได้รับโอกาสครั้งที่ 2” Janine van Slooten กองเชียร์เนเธอร์แลนด์ กล่าว
ขณะที่แฟนกีฬาชาวอังกฤษคนหนึ่งกล่าวผ่าน BBC Sport ว่า “เขาตรงไปตรงมาและซื่อสัตย์เกี่ยวกับเรื่องที่เขาได้ทำลงไป เขาพ้นผิดไปแล้ว แต่โดยส่วนตัวแล้วเราคิดว่าพวกเขาสามารถเลือกทางเลือกอื่นได้
“พวกเขาสามารถเลือกคนอื่นได้ หลีกเลี่ยงความขัดแย้งทั้งหมดที่เกิดขึ้นนี้ได้ และถ้าเขาเป็นคนอังกฤษ เราคงไม่ดีใจที่เขาอยู่ในทีมของเรา”
อย่างที่กล่าวไปแล้วก่อนหน้านี้ว่า ในบทความนี้เราจะไม่มาสรุปหรือตัดสินว่าการที่ Steven van de Velde ได้โอกาสกลับมาสู่วงการกีฬาอีกครั้งเป็นเรื่องที่เหมาะสมหรือสมควรเกิดขึ้นหรือไม่
แต่บทความนี้อยากจะทำหน้าที่แค่ชวนคิด ชวนคุย และตั้งคำถาม กับโอกาสที่ 2 ของมนุษย์คนหนึ่งที่ทำผิดพลาดลงไป ว่าเขาควรได้รับมันหรือไม่และเพราะอะไร
อ้างอิง:
