วันนี้ (15 พฤษภาคม) มีรายงานว่า วานนี้ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 7 ได้อ่านคำพิพากษาชั้นไต่สวนมูลฟ้องในคดีที่ พ.ต.ท. คริษฐ์ ปริยะเกตุ ผู้ใต้บังคับบัญชาของ พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นโจทก์ฟ้อง พ.ต.อ. กฤตัชญ์ บำรุงรัตนยศ กับพวกรวม 10 ราย ซึ่งเป็นเจ้าพนักงานตำรวจชุดตรวจค้นจับกุมว่า ปฏิบัติหน้าที่หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ใช้อำนาจในตำแหน่งโดยมิชอบ ข่มขืนใจหรือจูงใจเพื่อให้บุคคลใดมอบให้หรือหามาให้ซึ่งทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดแก่ตนเองหรือผู้อื่น ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 148 และ 157
พ.ต.ท. คริษฐ์ กล่าวฟ้องว่า ได้ถูกจำเลยทั้ง 10 คน ซึ่งเป็นเจ้าพนักงานตำรวจศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ร่วมกันจับกุมโจทก์ตามหมายจับของศาลอาญากรุงเทพใต้ ที่ 896/2566 ลงวันที่ 22 กันยายน 2566 และเข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 35 หมู่ 11 ตำบลมาบแค อำเภอเมืองนครปฐม จังหวัดนครปฐม ตามหมายค้นของศาลอาญา ที่ 1151/2566 ลงวันที่ 24 กันยายน 2566 กล่าวหาว่า โจทก์สมคบโดยตกลงกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงินและได้กระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้สมคบกันและร่วมกันฟอกเงิน
แต่จำเลยทั้ง 10 คนได้ตรวจค้นจับกุมโจทก์พร้อมตรวจยึดทรัพย์สิน โดยโจทก์ได้โต้แย้งและคัดค้านว่าทรัพย์สินบางรายการไม่ได้เกี่ยวข้องตามข้อหาแต่อย่างใด และทรัพย์สินบางรายการก็เป็นของใช้ส่วนตัวของโจทก์ และบางรายการก็เป็นของ พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ แต่จำเลยทั้ง 10 คนกลับกระทำการบังคับ ขู่เข็ญ ให้โจทก์จำยอม และบังคับยึดทรัพย์ต่างๆ ไปโดยมิชอบ ก่อให้เกิดความเสียหายแก่โจทก์และบุคคลอื่น
โดยศาลอาญาคดีทุจริตฯ ได้พิเคราะห์พยานหลักฐานโจทก์ ประกอบข้อเท็จจริงตามรายงานของเจ้าพนักงานคดีแล้ว เห็นว่าคดีมีข้อเท็จจริงที่สามารถวินิจฉัยได้ จึงมีคำสั่งให้งดกระบวนพิจารณาที่จะมีต่อไป และยกเลิกนัดกำหนดแนวทางไต่สวนมูลฟ้อง โดยวินิจฉัยว่าจำเลยทั้ง 10 คนได้ปฏิบัติหน้าที่โดยชอบแล้ว การกระทำไม่เป็นความผิด พิพากษายกฟ้อง
มีรายงานว่าก่อนหน้านี้ชุดตำรวจที่ปรากฏชื่อว่าเกี่ยวข้องกับคดีเว็บการพนันและถูกจับกุม ซึ่งเป็นลูกน้องของ พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ ได้ยื่นฟ้องชุดพนักงานสอบสวนและชุดจับกุมหลายคดีเกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่ในศาลอาญาคดีทุจริตฯ ซึ่งศาลได้มีคำพิพากษายกฟ้องมาโดยตลอด
