วันนี้ (16 เมษายน) เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ใช้วันหยุดราชการในช่วงเทศกาลสงกรานต์ เข้าพบ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่บ้านจันทร์ส่องหล้า เพื่อรดน้ำขอพร พร้อมมอบพวงมาลัยในช่วงเทศกาลสงกรานต์
โดยนายกฯ เปิดเผยภายหลังการเข้าพบทักษิณกว่า 1 ชั่วโมง 17 นาที ว่า มาตามประเพณีไทย มาสวัสดีปีใหม่และรดน้ำอวยพร เอาพวงมาลัยมาไหว้และกราบท่าน ซึ่งทักษิณอวยพรให้สุขภาพแข็งแรง และเป็นกำลังใจในการบริหารบ้านเมือง
นายกฯ กล่าวว่า ที่มาพบทักษิณวันนี้เป็นการพูดคุยเกี่ยวกับปัญหาบ้านเมืองธรรมดา ปัญหาเรื่องข้าวโพด ปัญหาเรื่องการเผาป่า ในเรื่องของความสะอาดของบ้านเมือง เป็นเรื่องธรรมดา รวมทั้งเรื่องของเมียนมา และแชร์ข้อมูลกันว่าสมัยท่านมีอะไรบ้าง สมัยนี้มีอะไรบ้าง โลกเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร และท่านก็เป็นกำลังใจให้ เพราะถือว่าท่านเป็นผู้ใหญ่ในบ้านเมือง ถ้าต้องการความช่วยเหลืออะไรจากอดีตนายกฯ ท่านบอกว่าสามารถโทรศัพท์มาหาได้ทุกเมื่อ พร้อมให้คำแนะนำ
นายกฯ กล่าวว่า ส่วนตัวคิดว่าอย่าไปคิดอะไรมากเลยกับการที่ตนมาเยี่ยมทักษิณวันนี้ เพราะท่านเองเป็นผู้ก่อตั้งพรรคไทยรักไทย เป็นผู้ใหญ่ที่ทุกคนในบ้านเมืองให้ความเคารพ เป็นคนที่มีความรู้ จึงเป็นธรรมดาที่ตนในฐานะนายกรัฐมนตรีหน้าใหม่ ก็ต้องมาขอคำแนะนำและพูดคุยถึงปัญหาบ้านเมือง ตนเจอกับผู้ใหญ่หลายคนในบ้านเมืองก็ขอคำปรึกษาอยู่แล้ว
ส่วนกระแสข่าวการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) เศรษฐา 2 นายกฯ กล่าวว่า “ตอนนี้ยังไม่มีครับ สื่อไปพูดกันเอง แต่อย่างไรก็ตามมันก็ต้องปรับในวันหนึ่ง และถ้าเผื่อจะปรับก็จะทราบกันเอง ไม่อยากให้รัฐมนตรีที่มีรายชื่อออกมาขณะนี้หวั่นไหว ผมคิดว่าควรเร่งทำงานกันดีกว่า เพราะทุกๆ วันมีค่า แทนที่จะวิ่งเต้นมาหาท่านนั้นท่านนี้”
เมื่อถามว่า จะต้องมีการพูดคุยหรือเคลียร์กับรัฐมนตรีที่มีรายชื่อว่าจะถูกปรับที่มีการวิเคราะห์กันหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า “ไม่เคลียร์ครับ เพราะผมไม่ได้เป็นคนเขียน ผมไม่เคลียร์อยู่แล้ว”
แนะภูมิคุ้มกันปรับ ครม. ที่ดีที่สุดคือการทำงาน
เมื่อถามว่า แสดงว่าอยากให้รัฐมนตรีทุกคนตั้งใจทำงานมากกว่าใช่หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ตนพูดมาตลอดเวลาและช่วง 1 เดือนที่มีข่าวการปรับ ครม. ว่าภูมิคุ้มกันที่ดีที่สุดคือการทำงาน การทำงานที่ถูกต้องดำเนินงานตามนโยบายของรัฐบาล และของแต่ละกระทรวงก็มีนโยบายเรือธงอยู่แล้ว ซึ่งทุกท่านก็ทราบอยู่แล้วว่าต้องทำอะไรบ้าง ส่วนพรรคร่วมรัฐบาลเป็นสิทธิของเขา แต่ตนคงไม่โทรไปถามว่าอยากจะปรับใครบ้าง เช่น พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ยังมีเก้าอี้เหลือ 1 ตัว แต่ยังไม่มีการส่งสัญญาณอะไรมาถึงตน และยังไม่มีการพูดคุย
ผู้สื่อข่าวถามว่า ตั้งข้อสังเกตหรือไม่ ทำไมมีกระแสข่าวว่านายกฯ จะไปนั่งควบเก้าอี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม นายกฯ กล่าวว่า เรื่องนี้ไม่ทราบเลย แต่คงเป็นเรื่องที่ตนได้ไปเยี่ยมทหารและบ้านพักของข้าราชการทหาร รวมทั้งเรื่องที่ตนมีความสนิทสนมส่วนตัวกับ ผบ.ทบ. และ ผบ.ทสส. มีการยกหูพูดคุยกันได้ แต่ตรงนี้ก็ไม่จำเป็นจะต้องมาเป็นผู้บังคับบัญชาโดยตรง หรือตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เพราะสถาบันทหารเองทุกคนก็มีความเป็นมืออาชีพ มีวินัย
นายกฯ กล่าวว่า ส่วนตัวคิดว่าไม่ใช่เรื่องที่จะต้องมาพูดคุยหรือมโนภาพ ว่าจะต้องเป็นอะไรตรงนั้นตรงนี้ เพราะที่ผ่านมาก็เป็นเรื่องธรรมดาในการพูดคุย ตนก็พูดคุยกับบรรดารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ปลัดกระทรวง หรืออธิบดีในกระทรวงพาณิชย์ แล้วทำไมถึงไม่บอกกันว่าตนจะไปรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์บ้าง
ไม่ติดใจคนชอบทักษิณมากกว่า มอง รมว. แห่พบ รู้จักกันมานาน
เมื่อถามว่า ที่กระแสการเปรียบเทียบภาพถ่ายนายกฯ ที่อยู่กับครอบครัว ที่อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และภาพถ่ายของรัฐมนตรีที่เดินทางเข้าพบกับทักษิณ โดยนายกฯ ย้อนถามกลับสื่อมวลชนว่า “ท่านต้องเป็นคนบอกผมว่าท่านมองอย่างไร ต้องถามมาตรงๆ ผมจะได้ตอบได้”
นายกฯ กล่าวว่า รัฐมนตรีรู้จักกับทักษิณมานานกว่าตน และทักษิณก็เป็นผู้ก่อตั้งพรรคไทยรักไทย ไม่ว่าจะเป็น สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม, เสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม, สมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี, นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข, สุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ซึ่งตนคงไม่ต้องเอ่ยชื่อทุกคน เพราะรัฐมนตรีทุกคนรู้จักทักษิณมานานกว่าตน และให้การเคารพกันมาอย่างยาวนาน ซึ่งทักษิณเองก็อายุมากกว่ารัฐมนตรีทุกคนอยู่แล้ว จึงเป็นเรื่องธรรมดา
“ผมก็ไม่ได้คิดอะไร และเคยให้สัมภาษณ์ก่อนหน้านี้ หากพยายามจะบอกว่าทักษิณได้รับความนิยมชมชอบมากกว่าผมก็ไม่ติดอะไร และรับได้อยู่แล้ว ไม่ได้มีอะไร ส่วนวันสงกรานต์ถือเป็นวันครอบครัว และจังหวัดเชียงใหม่ก็เป็นจังหวัดที่น่าเที่ยว การรดน้ำดำหัวถือเป็นประเพณีพื้นฐานอยู่แล้ว ทักษิณก็เป็นคนที่คนในพรรคให้ความเคารพ” นายกฯ กล่าว
