ในช่วงวันพุธที่ผ่านมา (22 พฤศจิกายน) หลังจากที่ ‘CZ’ ผู้ร่วมก่อตั้งและอดีตประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Binance แพลตฟอร์มเทรดคริปโตเบอร์ต้นของโลก วางมือ ‘Richard Teng’ ก็ได้ก้าวขึ้นมาเป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหารคนใหม่ของบริษัท พร้อมออกมาตอกย้ำผ่านบัญชีส่วนตัวบนแพลตฟอร์ม X (Twitter) ถึงความแข็งแกร่งของกิจการ เพื่อเรียกความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าและนักลงทุน
เนื่องจากการที่ ‘CZ’ ต้องวางมือจากแพลตฟอร์ม พร้อมกับค่าใช้จ่ายในคดีความที่กำลังจะเกิดขึ้นอาจมีมูลค่าทะลุ 4 พันล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 1.2 แสนล้านบาท ทำให้ความเชื่อมั่นของนักลงทุนและลูกค้าต่างพากันสั่นคลอนว่า Binance อาจมีเงินสำรองไม่พอ จนมากระทบต่อเงินลงทุนและเงินฝากของลูกค้า และอาจทำให้ต้องปิดแพลตฟอร์มไปในที่สุดหรือไม่
ซึ่ง ‘Teng’ ก็ได้ชี้แจงผ่าน X (Twitter) ว่า พื้นฐานกิจการของบริษัทเรา (Binance) ยังแข็งแกร่ง เพราะบริษัทเรายังสามารถสร้างรายได้และกำไรในระดับที่เข้มแข็ง แม้จะมีการคิดค่าธรรมเนียมที่ค่อนข้างต่ำก็ตาม พร้อมทั้งยังได้แชร์โพสต์การวิเคราะห์เกี่ยวกับ Binance ของ ‘Conor Grogan’ ผู้อำนวยการของ Coinbase ไว้อีกเช่นกัน
โดยในโพสต์ของ ‘Conor Grogan’ ประเมินว่า Binance น่าจะสามารถรับผิดชอบค่าใช้จ่ายปริมาณมหาศาลจากคำร้องของกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ (DOJ) ดังกล่าวได้ โดยไม่จำเป็นต้องเทขายสินทรัพย์คริปโตใดๆ ออกไปเลย
‘Teng’ ยังย้ำว่า ด้วยพื้นฐานกิจการของ Binance ในตอนนี้ ถือว่าอยู่ในจุดที่เข้มแข็งและแข็งแรงมากที่สุดตั้งแต่เคยเป็นมา และการเข้ามารับไม้ต่อในครั้งนี้จะโฟกัสไปที่ 3 ส่วนของธุรกิจเป็นหลัก ได้แก่ การเรียกความเชื่อมั่นของนักลงทุนกลับมา การร่วมมือกับฝ่ายกำกับดูแล และการขับเคลื่อนด้าน Web 3.0
ไม่เพียงเท่านั้น ‘CZ’ ยังได้โพสต์ข้อความผ่าน X (Twitter) ในวันเดียวกันว่า ภายใต้การบริหารของ ‘Teng’ และทีมงานทั้งหมด ผมมั่นใจว่า Binance และวงการคริปโตกำลังมีช่วงเวลาที่ดีที่สุดรออยู่ข้างหน้า
และ ‘CZ’ ยังยืนยันว่าจะยังคงเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของ Binance และพร้อมให้คำปรึกษากับทีมงานเมื่อต้องการเสมอ ให้สอดคล้องกับกรอบทางความคิดที่ระบุไว้ในแนวทางการดำเนินงานของหน่วยงานสหรัฐฯ
‘CZ’ ยังเผยว่า เขารู้สึกสนใจกับการเป็น ‘เมนเทอร์’ ให้กับผู้ประกอบการของเหล่าสตาร์ทอัพ และสนใจในการสร้างโครงการต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับ ‘DeFi’ อีกด้วยเช่นกัน
อ้างอิง:
