หลังการประชุมที่กรมปศุสัตว์วันนี้ (22 มี.ค.) ทางกรมฯ นำโดย นายสัตวแพทย์บุรินทร์ สรสิทธิสุขสกุล ผอ.กองสารวัตรและกักกัน ได้ให้คำมั่นกับมูลนิธิเพื่อสุนัขในซอยว่าจะไม่มีนโยบาย Set Zero หรือการฆ่าล้างสุนัขจรจัดทั่วประเทศอย่างแน่นอน
โดยการประชุมครั้งนี้จัดขึ้นหลังจากมีกระแสหวาดผวาต่อการระบาดของโรคพิษสุนัขบ้าในสื่อสังคมออนไลน์ ซึ่งส่งผลให้บางกลุ่มถามหานโยบาย Set Zero ขึ้นมา โดยเสนอให้มีการกำจัดสุนัขจรจัดทั้งหมดกว่า 8 ล้านตัวทั่วประเทศ
ทั้งนี้ ในระหว่างการประชุมกับ วราภรณ์ จิตตานนท์ ตัวแทนมูลนิธิฯ นายสัตวแพทย์บุรินทร์ได้เน้นย้ำว่า ทางกรมปศุสัตว์มีอำนาจทางกฎหมายในการฆ่าสุนัขที่เชื่อได้ว่าติดเชื้อพิษสุนัขบ้า อย่างไรก็ตาม ทางกรมฯ จะแต่งตั้งคณะกรรมการมาทำหน้าที่ตัดสินใจในเรื่องดังกล่าว เรื่องการควบคุมโรคพิษสุนัขบ้า และจะมีการเชิญให้ตัวแทนจากสาธารณะและองค์กรอิสระต่างๆ เข้ามามีส่วนร่วมกับคณะกรรมการด้วย
นอกจากนี้ นายสัตวแพทย์บุรินทร์ยังกล่าวด้วยว่า จะจัดประชุมเร่งด่วนกับสำนักงานปศุสัตว์จังหวัดต่างๆ เพื่อพิจารณาและทบทวนวิธีการในการควบคุมโรคพิษสุนัขบ้า เมื่อผลการตรวจยืนยันว่ามีสัตว์ติดเชื้อพิษสุนัขบ้าในพื้นที่ใดพื้นที่หนึ่ง จะต้องมีการประกาศพื้นที่นั้นเป็นเขตโรคระบาด เจ้าหน้าที่จากกรมฯ และเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นจะลงพื้นที่ดังกล่าวเพื่อฉีดวัคซีนโดยไม่มีค่าใช้จ่ายให้กับสุนัขทุกตัวในพื้นที่ โดยจะมีการขอความร่วมมือจากองค์กรอิสระในเรื่องนี้ด้วย
สุนัขและแมวที่ไม่มีเจ้าของและอาศัยอยู่รอบจุดเกิดโรคในรัศมี 1 กิโลเมตร จะต้องถูกกักบริเวณเพื่อสังเกตอาการอย่างน้อย 1 เดือน สุนัขและแมวตัวอื่นๆ ที่อยู่ในรัศมี 3-5 กิโลเมตร จะได้รับการฉีดวัคซีนและเฝ้าดูอาการอย่างน้อย 1 เดือน ส่วนสุนัขและแมวที่มีเจ้าของและเคยได้รับวัคซีนแล้ว จะต้องได้รับวัคซีนซ้ำและต้องมีการเลี้ยงแบบปิดไปตลอดอย่างน้อย 1 เดือน
เมื่อสุนัขและแมวที่ถูกกักบริเวณได้รับการตรวจสอบและผลปรากฏว่าไม่มีการติดเชื้อ สุนัขและแมวเหล่านี้จะได้รับการทำหมัน และอาจส่งต่อให้กับผู้ที่ให้อาหารอยู่ในพื้นที่เดิม หรือผู้ที่สนใจรับเลี้ยง
นายสัตวแพทย์บุรินทร์ได้ร้องขอผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องและองค์กรอิสระให้ร่วมมือกันกำจัดโรคพิษสุนัขบ้าให้หมดไปภายในปี พ.ศ. 2566 นอกจากนี้ยังกล่าวต่อว่า กรมปศุสัตว์จะรับฟังความคิดเห็นจากรอบข้างมากกว่าเดิม และประชาชนไม่ควรตื่นตระหนกเรื่องพิษสุนัขบ้า
“เข้าใจว่าสื่อสังคมออนไลน์นั้นมีอิทธิพลสูงมากในปัจจุบัน แต่ได้ขอร้องให้ทบทวนและศึกษาข้อมูลให้ดีก่อนจะแชร์เนื้อหาใดๆ โดยทางกรมฯ จะจัดทำข้อมูลการติดต่อสำนักงานปศุสัตว์จังหวัดต่างๆ ให้เข้าถึงได้ง่ายขึ้น เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงข้อมูลที่ถูกต้องแม่นยำได้ ทั้งนี้สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดนั้น ตั้งอยู่ในพื้นที่จังหวัดต่างๆ ทุกจังหวัด ครอบคลุม 878 อำเภอทั่วประเทศ สามารถเข้าชมเว็บไซต์ได้ทาง www.dld.go.th/th/index.php/th หรือเว็บไซต์ของสำนักงานปศุสัตว์จังหวัดแต่ละจังหวัด”
