Shaktikanta Das ผู้ว่าการธนาคารกลางอินเดีย ออกโรงเตือนถึงความอันตรายของคริปโตเคอร์เรนซี ที่อาจจะร้ายแรงจนเป็นเหตุให้เกิดวิกฤตการเงินโลกครั้งต่อไป โดยส่วนตัวของ Das นั้นมองว่าคริปโตไม่มีมูลค่าอ้างอิง ส่งผลให้เกิดการเก็งกำไรได้ง่าย
สำนักข่าว CNBC รายงานว่า Shaktikanta Das ผู้ว่าการธนาคารกลางอินเดีย ได้เตือนว่า วิกฤตการเงินโลกครั้งต่อไปจะมีสาเหตุมาจากการปล่อยให้บรรดาคริปโตของภาคเอกชนขยายตัวเติบโตต่อไป โดยปราศจากการกฎระเบียบกำกับอย่างเข้มงวด รอบคอบ และรัดกุม
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- มูลค่าการค้าระหว่าง ‘จีนและอินเดีย’ พุ่งขึ้นแตะระดับ 1.15 แสนล้านดอลลาร์ สูงขึ้น 34% จากปีก่อนหน้า แม้มีมาตรการกีดกัน
- โกตัม อดานี (Gautam Adani) ขึ้นสู่มหาเศรษฐีเบอร์ 3 ของโลกด้วยธุรกิจพลังงานที่มูลค่าหุ้นเพิ่มขึ้นอย่างบ้าคลั่ง จนมี P/E กว่า 700 เท่า
- ‘จีน’ ผนึก ‘รัสเซีย’ ดันสกุลเงินกลุ่ม BRICS เป็นทางเลือกชำระเงิน หวังคานอำนาจดอลลาร์สหรัฐ
ผู้ว่าการแบงก์ชาติอินเดียกล่าวว่า สกุลเงินดิจิทัลมีความเสี่ยงโดยธรรมชาติอย่างมากต่อเศรษฐกิจมหภาคและเสถียรภาพทางการเงิน ก่อนยกตัวอย่างกรณีล่มสลายของ FTX ที่เกิดขึ้นล่าสุด
Das กล่าวว่า ข้อกังวลหลักของตนคือการที่เงินดิจิทัลหรือคริปโตไม่มีมูลค่าอ้างอิง ทำให้ง่ายต่อ ‘การเก็งกำไร’ ก่อนเสริมว่า ในมุมมองส่วนตัวคริปโตควรถูกแบน โดยหากปล่อยพยายามเข้าไปจัดการ และยินยอมให้มีการเติบโต Das ฟันธงว่าวิกฤตการเงินครั้งต่อไปจะมาจากคริปโตของเอกชนแน่นอน
โดยนิยามของคริปโตเอกชน หมายถึง เหรียญดิจิทัลที่มีอยู่ในตลาดทั้งหลายอย่าง Bitcoin, ETH
ทั้งนี้ ความคิดเห็นของ Das เกิดขึ้นในขณะที่ธนาคารกลางอินเดียกำลังเดินหน้าผลักดันให้มีการเปิดตัวรูปีอินเดียในรูปแบบดิจิทัลของตนเอง โดยทางธนาคารกลางอินเดียเริ่มโครงการนำร่องสำหรับเงินรูปีดิจิทัลเมื่อวันที่ 1 ธันวาคมที่ผ่านมา สำหรับการขายปลีกในบางเมืองที่ผู้ใช้บางรายสามารถทำธุรกรรมโดยใช้เงินรูปีดิจิทัลผ่านแอปพลิเคชันและกระเป๋าเงินมือถือ
รูปีดิจิทัลถือเป็นสกุลเงินดิจิทัลของธนาคารกลาง (CBDC) ประเภทหนึ่ง ที่บรรดาธนาคารกลางหลายแห่งทั่วโลกกำลังมองหาการออกสกุลเงินดิจิทัลของตนเอง
Das กล่าวว่า CBDC สามารถเร่งการโอนเงินระหว่างประเทศ และลดความจำเป็นด้านโลจิสติกส์
ทั้งนี้ กฎระเบียบเกี่ยวกับสกุลเงินดิจิทัลได้รับความสนใจมากขึ้นในปีนี้ หลังจากการล่มสลายของตลาดคริปโตมูลค่า 1.3 ล้านล้านดอลลาร์ และการล่มสลายของแพลตฟอร์มซื้อขายแลกเปลี่ยนคริปโตชั้นนำอย่าง FTX โดยในกรณีของอินเดีย มีรายงานว่าทางรัฐบาลอินเดียกำลังดำเนินการเกี่ยวกับกฎหมายคริปโตซีที่อาจห้ามกิจกรรมบางอย่างเกี่ยวกับสกุลเงินดิจิทัล ในขณะที่สร้างกรอบทางกฎหมายสำหรับสกุลเงินดิจิทัลของธนาคารกลาง
บรรดาธนาคารกลางทั่วโลกยอมรับว่าคริปโตทั้งหลายจะไม่ก่อให้เกิดความเสี่ยงที่สำคัญต่อเศรษฐกิจ ในกรณีที่พวกมันเป็นตัวแทนของประเภทสินทรัพย์ที่มีขนาดเล็ก แต่หากไม่ได้รับการควบคุมและปล่อยให้ขยายตัวเติบโตอย่างไร้ระเบียบแบบแผน ธนาคารกลางหลายแห่งเห็นตรงกันว่าคริปโตอาจส่งผลกระทบกับเศรษฐกิจมหภาคได้
สอดคล้องกับความคิดเห็นของกระทรวงการคลังสหรัฐอเมริกา ที่เตือนไว้เมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมาว่า กิจกรรมสินทรัพย์ดิจิทัลอาจก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อเสถียรภาพของระบบการเงินของสหรัฐฯ พร้อมเน้นย้ำถึงความจำเป็นในการควบคุม
อ้างอิง:
