ดัชนี Cboe Volatility Index หรือ VIX ซึ่งเป็นตัวชี้วัดความผันผวนของตลาดหุ้น เข้าสู่พื้นที่ ‘Death Cross’ เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (9 ธันวาคม) เป็นครั้งแรกตั้งแต่เดือนสิงหาคม นับเป็นสัญญาณดีสำหรับตลาดหุ้นสหรัฐฯ ซึ่งรวมถึง S&P 500
ทั้งนี้ VIX ถือเป็นมาตรวัดความกังวลของ Wall Street และเป็นตัววัดความคาดหวังของตลาดเกี่ยวกับความผันผวนในช่วง 30 วัน และสามารถใช้เป็นตัวบ่งชี้สำคัญว่านักลงทุนรู้สึกอย่างไร
โดยแพตเทิร์นที่เรียกว่า Death Cross จะปรากฏขึ้นเมื่อดัชนี VIX ระยะสั้นเฉลี่ย 50 วันเคลื่อนไหวต่ำกว่าระดับเฉลี่ย 200 วัน แตกต่างกับหุ้นหรือดัชนีรายตัวที่เมื่อเข้าสู่พื้นที่ Death Cross ก็มักถูกพิจารณาว่าเป็นขาลง (Bearish) ดังนั้นเมื่อ VIX เข้าสู่ Death Cross จึงอาจเป็นสัญญาณดีสำหรับตลาดหุ้น
ด้าน Jeffrey Hirsch บรรณาธิการ และ Christopher Mistal ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยของ Stock Trader’s Almanac ระบุว่า เนื่องจาก VIX ได้รับการออกแบบมาเพื่อวัดความผันผวนของตลาดในระยะสั้น ยิ่งค่าดังกล่าวต่ำลงเท่าไร S&P 500 ก็มักจะทำงานได้ดีขึ้นเท่านั้น ดังนั้น Death Cross ของ VIX จึงเป็นสัญญาณบ่งชี้ที่ดี
ตามข้อมูลจาก Stock Trader’s Almanac ตั้งแต่ปี 1990 ดัชนี VIX เข้าสู่ Death Cross ไปแล้วถึง 35 ครั้ง นอกจากนี้โดยเฉลี่ย S&P 500 ก็ไต่ขึ้น 0.5% ในสัปดาห์แรก และ 0.6% สัปดาห์ที่ 2 หลังเกิดปรากฏการณ์ Death Cross
เมื่อเร็วๆ นี้ความผันผวนในตลาดหุ้นผ่อนคลายลงอย่างมาก โดยในช่วงต้นเดือนธันวาคมนี้ VIX ลดลงต่ำกว่าระดับ 20 หลังจากพุ่งขึ้นสูงถึงระดับ 34.53 ในวันที่ 12 ตุลาคม
อย่างไรก็ตาม ในวันจันทร์ (12 ธันวาคม) ดัชนีได้ปรับตัวขึ้นเหนือระดับ 24 เนื่องจากนักลงทุนเตรียมพร้อมสำหรับการรายงานตัวเลขอัตราเงินเฟ้อผู้บริโภคสหรัฐฯ ตามด้วยการตัดสินใจเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ในวันพุธ (14 ธันวาคม) ตามเวลาสหรัฐฯ โดยเหตุการณ์สำคัญเหล่านี้มีแนวโน้มที่จะกำหนดอนาคตของตลาดหุ้นในปีหน้า
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ไขคำตอบ…ทำไม หุ้นเวียดนาม ดิ่งเกือบจะหนักสุดของโลก ล้างภาพดาวรุ่งแห่งเอเชีย
- จับตา! หุ้นฮ่องกง ดีดกลับจริงหรือแค่ชั่วคราว หลังผู้นำจีนส่งสัญญาณหนุนตลาดหุ้นอีกครั้ง
- ส่อง 9 ตลาดหุ้นเอเชีย ‘อินโดนีเซีย’ แชมป์เงินไหลเข้ามากสุด และเป็นตลาดหนึ่งเดียวที่ยืนบวก
อ้างอิง: