Genesis แพลตฟอร์มคริปโต ประกาศระงับการถอนเงินของลูกค้าชั่วคราว หลังการล่มสลายของ FTX ผลักดันให้สถาบันการเงินเร่งปรับกฎระเบียบกำกับยกระดับให้รัดกุม สกัดวิกฤตที่อาจตามมา
คืนวันพุธที่ผ่านมา (16 พฤศจิกายน) เดราร์ อิซลิม รักษาการประธานบริหารของ Genesis แพลตฟอร์มคริปโตแบบครบวงจร ได้ประกาศว่ามีการระงับการถอนเงินและการออกสินเชื่อใหม่ของลูกค้า ในหน่วยธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการกู้ยืมบนโลกคริปโต Genesis Global Capital แบบชั่วคราวแล้ว หลังการล่มสลายของ FTX
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- สรุปการล่มสลายของ FTX ที่อาจจุดชนวนวิกฤตในตลาดคริปโต
- Sam Bankman-Fried ลาออกจากซีอีโอ FTX พร้อมยื่นล้มละลายอย่างเป็นทางการ
- ขนหน้าแข้งไม่ร่วง! ‘Sequoia Capital’ เผยบันทึกมูลค่าการลงทุนทางบัญชีกว่า 7 พันล้านบาทใน FTX เป็น ‘0’ แล้ว
เนื่องจากการล่มสลายของ FTX และ Alameda Research ทำให้เกิดการส่งคำร้องขอถอนเงินออกจากแพลตฟอร์มของ Genesis พุ่งขึ้นเกินกว่าสภาพคล่องที่มีอยู่ของบริษัท
ซึ่งในหน่วยธุรกิจของ Genesis Global Capital ให้บริการแก่ลูกค้าสถาบันในการปล่อยสินเชื่อ ณ สิ้นไตรมาส 3 ของปี 2022 มีสินเชื่อมูลค่ากว่า 2.8 พันล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 9.8 หมื่นล้านบาท
ในขณะที่อิซลิมออกมายืนยันว่า ในหน่วยธุรกิจอื่นๆ อย่าง Genesis Trading หรือ Genesis Custody ก็ยังให้บริการตามปกติ เนื่องจากมีการบริหารงานแบบแยกส่วนกัน
อย่างไรก็ตาม อิซลิมยอมรับว่า ณ ขณะนี้ Genesis กำลังหาทางแก้ปัญหาสำหรับ หน่วยธุรกิจการกู้ยืม ซึ่งรวมไปถึงการหาสภาพคล่องเข้ามาเสริมความแข็งแกร่งของหน่วยธุรกิจดังกล่าว ซึ่งจะมีการอธิบายรายละเอียดเพิ่มเติมให้แก่ลูกค้าภายในสัปดาห์หน้า
อแมนดา โควี รองประธานด้านการสื่อสารและการตลาดของ Digital Currency Group (DCG) บริษัทแม่ของ Genesis รวมไปถึงสำนักข่าวออนไลน์ CoinDesk ได้เผยว่า “ในวันนี้ Genesis Global Capital หน่วยธุรกิจด้านการกู้ยืมของ Genesis ได้ตัดสินใจเลือกทางที่ยากอย่างการระงับการถอนเงินไป รวมไปถึงระงับการออกสินเชื่อใหม่เพิ่ม เพื่อสนองกับภาวะการปั่นป่วนของตลาด และการเสียความเชื่อมั่นในอุตสาหกรรมของนักลงทุน ซึ่งเป็นผลจากการล้มของ FTX”
ซึ่งในสัปดาห์ก่อนหน้า ทาง Genesis เคยเปิดเผยว่ามีหน่วยธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับอนุพันธ์นั้นมีเงินที่ฝากไว้กับบัญชีซื้อขายของ FTX มูลค่ากว่า 175 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 6 พันล้านบาท ซึ่งทาง DCG ตัดสินใจเติมสภาพคล่องให้แก่ Genesis ในรูปของการเพิ่มทุนกว่า 140 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 4.9 พันล้านบาท
นอกจากนี้ยังมีรายงานออกมาจากพาร์ตเนอร์ของ Genesis อย่าง Gemini แพลตฟอร์มกระดานเทรดคริปโต และคัสโตดี้ ว่ากำลังทำงานร่วมกันเพื่อให้ลูกค้าสามารถถอนเงินคืนจาก Earn Program ให้เร็วที่สุด ซึ่งทาง Gemini ออกมาแสดงความผิดหวังว่า Earn Program อาจจะไม่สำเร็จดังที่ตั้งใจไว้แต่แรก อย่างไรก็ตาม Gemini มีความมั่นใจว่า Genesis และ DCG จะสามารถทำอย่างเต็มที่เพื่อชดเชยให้แก่ลูกค้าภายใต้สัญญาได้
นอกจากนี้ Genesis ยังเคยได้รับผลกระทบจากการเข้าลงทุนกับเฮดจ์ฟันด์อย่าง Three Arrows Capital (3AC) ในช่วงกลางปีนี้อีกด้วย
การตัดสินใจดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงสัญญาณของการล้มเป็นโดมิโน โดยในวันก่อนหน้ายังมีรายงานว่าทาง BlockFi แพลตฟอร์มกู้ยืมคริปโตที่เตรียมยื่นฟ้องล้มละลายตามรายงานของ The Wall Street Journal ซึ่งขณะนี้ในส่วนของบริการการปล่อยกู้คริปโตเคอร์เรนซี ผู้ให้กู้ทั้งหลายรวมถึง BlockFi ได้สั่งระงับการถอนเงินฝากของลูกค้าแล้ว และยอมรับว่ามีความเสี่ยงที่สำคัญ ซึ่งเป็นผลกระทบจาก FTX และบริษัทการค้าในเครือ Alameda Research
จึงทำให้ ฉางเผิง จ้าว หรือ ‘CZ’ ผู้บริหารระดับสูงของ Binance Exchange ออกมาเรียกร้องให้มีกฎระเบียบใหม่สำหรับอุตสาหกรรมที่ชัดเจนและมั่นคง สำหรับการพัฒนาและผู้เข้าร่วม ว่ากฎระเบียบย่อมช่วยในการกำกับดูแลตลาด รวมถึงลดความเสี่ยง แต่ก็เตือนว่ากฎระเบียบไม่ใช่สิ่งที่สามารถแก้ไขปัญหาได้ทุกอย่างได้ ต้องมีการปรับปรุงอุตสาหกรรมคริปโตโดยรวมควบคู่กันไปด้วย
อ้างอิง:
