วันนี้ (13 กันยายน) ที่สถานีสูบน้ำพระโขนง สำนักการระบายน้ำ กรุงเทพมหานคร วราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ส่งมอบเครื่องสูบน้ำของกรมทรัพยากรน้ำ จำนวน 6 เครื่อง ให้ ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร นำไปบริหารจัดการแก้ปัญหาการระบายน้ำในพื้นที่กรุงเทพมหานคร
วราวุธกล่าวว่า ขอบคุณผู้ว่าฯ กทม. ที่ให้โอกาสกรมทรัพยากรน้ำ มาช่วยประชาชนในสถานการณ์นี้ โดยทางกรมฯ ได้นำเอาเครื่องสูบน้ำขนาด 30 นิ้ว จำนวน 6 เครื่องมาสนับสนุน
ขณะนี้ติดตั้งอยู่แล้ว 1 เครื่องที่ถนนศรีนครินทร์ เขตบางนา และภายใน 24 ชั่วโมง จะสามารถเดินเครื่องได้ ส่วนอีก 4 เครื่องอยู่ที่สถานีสูบน้ำพระโขนง ส่วนอีก 1 เครื่องจะนำมามอบให้ กทม. วันที่ 19 กันยายนนี้ และทาง ทส. ยังมีกำลังพลของกรมอุทยานฯ รวมถึงความสามารถในการกำจัดผักตบชวา อนาคตหาก กทม. ต้องการให้มาสนับสนุนก็ยินดีเข้ามาดำเนินการช่วยเหลือ
ด้านชัชชาติกล่าวว่า ขอบคุณรัฐมนตรีที่สนับสนุนความร่วมมือ เพราะ กทม. ยังขาดเครื่องสูบน้ำอยู่ ซึ่งฝนตกหนัก และการกระจายเครื่องสูบน้ำเป็นสิ่งจำเป็นที่จะช่วยเร่งระบายน้ำออกสู่แม่น้ำเจ้าพระยาให้กับกรุงเทพมหานคร นอกจากนี้ ยังได้ความร่วมมือจัดหาเครื่องสูบน้ำจากหลายหน่วยงานที่น่าจะช่วยบรรเทาให้กับประชาชนได้
นอกจากนี้ ยังมีเรือผลักดันน้ำจากภาคเอกชนอีก 12 ลำ ซึ่งก็เริ่มผลักดันน้ำแล้ว ซึ่งหัวใจของ กทม. ขณะนี้คือพื้นที่ลาดกระบังที่จะต้องเร่งดึงน้ำออก โดยเฉพาะฝั่งพระโขนงที่ระยะทางไกลมาก จึงต้องช่วยกันเร่งดันน้ำมาออกแม่น้ำเจ้าพระยา
ชัชชาติกล่าวอีกว่า สำหรับเครื่องสูบน้ำวันนี้ จะติดตั้งเพิ่ม 5 ตัว เพื่อช่วยดึงน้ำเข้ามา เพราะเดิมประตูระบายน้ำพระโขนงเครื่องจุดนี้ เดินหน้ามาต่อเนื่อง 2 สัปดาห์ ก็อาจจะต้องพักและสลับกันบ้าง โดยกำลังของเครื่องสูบน้ำที่พระโขนง ตรงอุโมงค์ 60 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที และอีกฝั่งของกรมชลประทาน 155 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที
ส่วนตัวยังกังวลในพื้นที่เขตลาดกระบัง น้ำจากฝนจะไปเติมในคลองประเวศบุรีรมย์ ต้องดูแลอย่างต่อเนื่อง ส่วนกรณีที่ สามารถ ราชพลสิทธิ์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และอดีตรองผู้ว่าฯ กทม. ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่าอย่าให้ความสำคัญเฉพาะส่วนของเส้นเลือดฝอยจนลืมเส้นเลือดใหญ่นั้น
ชัชชาติกล่าวว่า กรณีเส้นเลือดใหญ่ก็ดำเนินการอยู่ แต่อาจจะไม่ได้เห็นผลภายใน 1-2 เดือน ส่วนของเส้นเลือดใหญ่ เช่น อุโมงค์ระบายน้ำ ตอนนี้ทุกตัวทำงานเต็มที่หมด แต่มองว่าปัญหาไม่ใช่เส้นเลือดใหญ่ แต่คือเส้นเลือดฝอย ที่การดูแลไปไม่ถึง ถ้าดูแต่เส้นเลือดใหญ่อย่างเดียวก็จะหนักกว่านี้อีก และเชื่อว่าที่น้ำไม่ท่วมหลายๆ พื้นที่เพราะเส้นเลือดฝอยดีขึ้น
“การกล่าวแบบนี้ไม่ได้เป็นการแก้ตัว แต่อธิบายให้ฟังว่า เส้นเลือดใหญ่กับเส้นเลือดฝอยต้องไปด้วยกัน ที่ผ่านมาทุ่มเส้นเลือดใหญ่มากไป ซึ่งแนวคิดไม่ได้ทำแต่เส้นเลือดฝอย แต่ต้องทำให้สมดุลกัน และหลังจากนี้ก็ต้องปรับปรุงทำให้ดีขึ้นในระยะยาว” ชัชชาติกล่าว
ชัชชาติกล่าวด้วยว่า น้อมรับคำติทุกคำ และนำมาปรับปรุงให้ดีขึ้น ขอบคุณทุกคำติชม มีใครเสนออะไรมาก็ต้องส่งให้ผู้เชี่ยวชาญที่รับผิดชอบในการตรวจสอบต่อไป
