22 มกราคม 2561 พลตำรวจเอก อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้ประกาศวาระการพัฒนากรุงเทพมหานคร ประจำการ พ.ศ. 2561 ภายใต้นโยบาย NOW ‘ทำจริง เห็นผลจริง’ โดยตั้งกรอบเวลาแบ่งช่วงการทำงานออกเป็น 4 ช่วงคือ 100 วัน, 200 วัน, 300 วัน และ 1 ปี
อย่างไรก็ตาม ประเด็นที่น่าจับตาไม่ใช่ตัวนโยบาย แต่เป็นท่าทีของพลตำรวจเอก อัศวิน ต่อการเตรียมตัวลงสู้ศึกเลือกตั้งผู้ว่า กทม.
พลตำรวจเอก อัศวิน กล่าวว่า “ผมเป็นคนต่างจังหวัด แต่อยากช่วยคนกรุงเทพฯ ส่วนจะลงเลือกตั้งหรือไม่ ให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ดีกว่า เรื่องลงเลือกตั้งหรือไม่ ผมไม่ปิดปากตัวเอง”
พลตำรวจเอก อัศวิน ยอมรับว่ามีคนมาทาบทามให้ลงเลือกตั้งผู้ว่า กทม. แต่ไม่บอกว่าเป็นทหารหรือพรรคการเมือง บอกเพียงว่าเป็นผู้ใหญ่คนกรุงเทพฯ
นักข่าวถามย้ำว่าจะลงเลือกตั้งแบบสังกัดพรรคการเมืองหรือลงสมัครอิสระ
พลตำรวจเอก อัศวิน แย้มว่าอาจลงแบบวันแมนโชว์
สำหรับนโยบาย NOW ทำจริง เห็นผลจริง กรอบเวลา 100 วันแรก เป้าหมายเน้นการเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการประชาชน เช่น การตั้งศูนย์ประสานโครงการจิตอาสาพระราชทานฯ กทม. ทั้ง 50 เขต, โครงการนัดหมอล่วงหน้า รักษาเร็วขึ้น, โครงการทิ้งเป็นที่ เก็บเป็นเวลา ทั้งบนบกและในน้ำทั้ง 855 จุด, โครงการ กทม. เมืองสว่าง ไฟติดทุกดวงในสวนสาธารณะและตรอกซอยรวมกว่า 6,065 จุด
ช่วง 200 วัน เน้นพัฒนาศักยภาพโรงเรียนสังกัด กทม. เช่น เพิ่มห้องเรียนภาษาอังกฤษภาคฤดูร้อน, จัดสรรทุนครูปีละ 100 ทุน เป็นเวลา 5 ปี แก้ปัญหาขาดแคลนครูในสังกัด และชักชวนเด็กหลังห้องที่อาจจะเรียนไม่ค่อยเก่ง นำมาฝึกอาชีพ สร้างแรงบันดาลใจ
ช่วง 300 วัน คือการปรับปรุงภูมิทัศน์ถนน 2 สาย (ถนนเชียงใหม่ตลอดสาย และถนนสุขุมวิท 65 ถึงสถานีรถไฟฟ้าบางจาก) เพิ่มต้นไม้สวยงามย่านกาญจนาภิเษกตัดพรานนก-พุทธมณฑล สาย 4 และพัฒนาระบบนัดหมายออนไลน์เพื่ออำนวยความสะดวกในงานติดต่อทะเบียนและขออนุญาตต่างๆ
สำหรับกรอบระยะเวลา 1 ปี ทุกโครงการจะจับต้องได้ รวมถึงสร้างสถานีดับเพลิงย่อย 5 สถานี ประกอบด้วย ดอนเมือง, พหลโยธิน, ร่มเกล้า, ลาดพร้าว และประเวศ ให้แล้วเสร็จภายใน 1 ปี เพิ่มจำนวนโรงพยาบาล 2 แห่ง ก่อสร้างโรงพยาบาลคลองสามวา และโรงพยาบาลบางนา รวมถึงธนาคารน้ำใต้ดิน 5 จุด เพื่อใช้เป็นแก้มลิงป้องกันน้ำท่วม
“ถ้าทำไม่ได้ตามกรอบเวลานี้ ผมลาออกเลย” ผู้ว่า กทม. กล่าวกับนักข่าว
