ดูเหมือนว่า ‘Metaverse’ จะเข้ามามีบทบาทต่อชีวิตประจำวัน วิธีการทำงาน การทำธุรกิจจริง อย่างที่รายงานฉบับล่าสุด ‘Accenture Technology Vision 2022’ หัวข้อ ‘Meet Me in the Metaverse’ ที่จัดทำขึ้นโดย ‘Accenture’ บริษัทที่ปรึกษาธุรกิจและเทคโนโลยีชั้นนำระดับโลก เผยว่า ‘Metaverse Continuum’ จะก่อให้เกิดแนวทางการทำงานและแนวทางการดำเนินธุรกิจใหม่ๆ รวมถึงผลิตภัณฑ์และบริการที่นำเสนอ ไปจนถึงการมีปฏิสัมพันธ์กับลูกค้า ส่งผลให้ธุรกิจแข่งขันกันเพื่อมุ่งสู่อนาคตที่ต่างไปจากเดิม

 

 

กว่า 20 ปี ที่ ‘Accenture’ วิเคราะห์สภาพแวดล้อมขององค์กรต่างๆ อย่างเป็นระบบ เพื่อค้นหาแนวโน้มเด่นด้านเทคโนโลยีที่จะเข้ามามีบทบาทเปลี่ยนโลกธุรกิจและอุตสาหกรรม ในงานแถลงข่าวที่จัดขึ้นเมื่อปลายเดือนพฤษภาคม ปฐมา จันทรักษ์ กรรมการผู้จัดการ เอคเซนเชอร์ ประเทศไทย ได้สรุปใจความสำคัญของรายงาน ‘Accenture Technology Vision 2022’ ที่เปรียบเสมือนคู่มือสำหรับองค์กรต่างๆ เพื่อให้มองเห็นเทรนด์ด้านเทคโนโลยีที่กำลังจะเกิดขึ้นในปี 2022

 

โดยนำผลสำรวจความคิดเห็นใน 35 ประเทศ รวมทั้งประเทศไทย ของผู้บริโภคจากทั่วโลกกว่า 24,000 คน และผู้บริหารระดับ C-Level กว่า 4,650 คน จาก 23 อุตสาหกรรม เพื่อเจาะลึกความเห็นและแผนกลยุทธ์ขององค์กรต่างๆ และความพร้อมขององค์กรกับเทคโนโลยี Metaverse

 

 ปฐมา จันทรักษ์ กรรมการผู้จัดการ เอคเซนเชอร์ ประเทศไทย

 

กว่า 98% ของผู้บริหารจากทั่วโลกเชื่อมั่นว่า ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีให้ความน่าเชื่อถือมากกว่าปัจจัยอื่นใดในการบ่งชี้ทิศทางกลยุทธ์ระยะยาว และมากถึง 71% มองว่า Metaverse จะส่งผลในเชิงบวกต่อองค์กร ขณะเดียวกันกว่า 42% เชื่อว่า Metaverse จะมีบทบาทต่อความความก้าวหน้าหรือการเปลี่ยนแปลงขนานใหญ่  

 

“เป็นที่น่าสังเกตว่า ผลสำรวจของผู้บริหารในประเทศไทยส่วนใหญ่มีความเห็นสอดคล้องไปกับผลสำรวจจากผู้บริหารทั่วโลก แต่ก็มีความแตกต่างอยู่บ้างในประเด็นที่ว่า ผู้บริหารไทยยังคงมีความไม่มั่นใจเรื่องความปลอดภัยของข้อมูล ซึ่งอาจมีผลต่อการนำเทคโนโลยีใหม่ๆ มาปรับใช้กับธุรกิจขององค์กร” ปฐมากล่าว 

 

แต่หากมองภาพรวมช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ปฐมาเห็นถึงแนวโน้มที่ดีจากหลายองค์กรก็เริ่มปรับแนวทางการดำเนินธุรกิจเพื่อมุ่งสู่เป้าหมายที่ท้าทายขึ้น ด้วยความเชื่อที่ว่า เทคโนโลยีใหม่ๆ เช่น บล็อกเชน ดิจิทัล ทวิน และเอดจ์คอมพิวติ้ง จะช่วยขับเคลื่อนวิสัยทัศน์ขององค์กร และเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานมากขึ้น เข้าถึงลูกค้าได้ไกลและกว้างขึ้นจากฐานลูกค้าเดิม 

 

 

Meet Me in the Metaverse: การผสานกันระหว่างโลกจริงและโลกเสมือน สร้างสรรค์ธุรกิจแห่งประสบการณ์แนวใหม่

ที่แน่ๆ คือ Accenture กระโดดเข้าไปสู่ Metaverse เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ปฐมาเล่าว่า เมื่อปี 2021 พนักงานกว่า 150,000 คนของ Accenture เข้าไปอยู่ใน Metaverse ตั้งแต่การประชุม ช่วยลดข้อจำกัดในการเดินทาง พร้อมทั้งยกตัวอย่างหลายบริษัททั่วโลกจากหลายอุตสาหกรรมที่เข้ามามีบทบาทในโลกเสมือนแล้วเช่นกัน เช่น J.P. Morgan ผู้นำด้าน Financial Service เปิดเลาจน์ใน Decentraland หรือ CVS ยักษ์ใหญ่ในวงการยา ก็เปิดบริการดาวน์โหลดสินค้าเสมือนจริงและเหรียญคริปโต ให้ผู้ใช้งานรับบริการสินค้าได้จากการใช้บนโลกออนไลน์และในโลกเสมือนจริง

 

ชัดเจนแล้วว่า Metaverse เข้ามาเปลี่ยนภาพของการทำธุรกิจให้แตกต่างไปจากเดิมแล้ว ปฐมาเสริมว่า “หน้าที่สำคัญของผู้บริหารองค์กรคือ พยายามเชื่อม Business Model และ Business Operation จากโลกสมัยเก่าและสมัยใหม่ให้เข้ามาหากัน และพยายามใช้เทคโนโลยีให้เกิดประโยชน์สูงสุดให้ได้ รวมถึงต้องตอบให้ได้ว่า หากเราจะสร้างประสบการณ์ในโลกใหม่นี้ให้กับผู้บริโภค ต้องมองอะไรบ้าง” 

 

เจาะ ‘4 เทรนด์เทคโนโลยีสำคัญในปี 2022’ ที่ทุกธุรกิจต้องจับตาให้ดีและปรับตัวให้ทัน

หากวันนี้องค์กรต้องการนำเทคโนโลยีมาใช้ นี่คือ 4 เทรนด์เทคโนโลยีสำคัญในปี 2022 ที่องค์กรธุรกิจควรตระหนัก 

 

 

WebMe: โลกเมตาเวิร์ส

Metaverse กำลังขับเคลื่อนผู้ใช้งานให้สามารถก้าวข้ามการท่องเว็บธรรมดาไปสู่การมีประสบการณ์ในโลกเสมือนจริงได้มากขึ้น เห็นได้จากความพยายามขององค์กรในการผลักดันให้ลูกค้าของตนเข้าไปสู่โลกเสมือนจริง สอดคล้องกับผลสำรวจของผู้บริหารทั่วโลก 42% เชื่อว่า Metaverse จะมีบทบาทต่อความก้าวหน้า และมีอิทธิพลอย่างมากในระยะยาวต่อองค์กร เทียบกับผู้บริหารในไทย มีเพียง 26% ที่เชื่อเช่นนั้น ชี้ให้เห็นว่าผู้บริหารในไทยยังมองเทคโนโลยีนี้เป็นเรื่องไกลตัว  

 

ตอนนี้ Metaverse และ Web3 มีความพร้อมในการกำหนดทิศทางใหม่ของอินเทอร์เน็ต แทนที่จะเป็นเพียงคลังรวมเว็บไซต์และแอปหลากหลายประเภท แต่มองไกลด้วยการเป็น Metaverse ที่นำไปสู่การสร้างสภาพแวดล้อม 3 มิติต่อเนื่อง ทำให้การย้ายจาก ‘ที่หนึ่ง’ ไปอีก ‘ที่หนึ่ง’ ง่ายเหมือนเดินออกจากห้องหนึ่งไปอีกห้องหนึ่ง ด้วยเหตุนี้เองกว่า 95% ของผู้บริหารทั่วโลกจึงเชื่อว่า แพลตฟอร์มดิจิทัลในอนาคตควรนำเสนอประสบการณ์ที่เป็นเอกภาพ และทำให้ข้อมูลของลูกค้าในแพลตฟอร์มและพื้นที่ต่างๆ ทำงานร่วมกันได้อย่างไร้รอยต่อ 

 

กรณีตัวอย่าง ‘Nike’ บริษัทผู้ผลิตและจำหน่ายอุปกรณ์กีฬาชื่อดังของโลก จับมือกับ Roblox เนรมิตโลกเสมือนจริง NIKELAND ให้ผู้บริโภคชมและช้อปสินค้าได้จริง หรือ ‘BlockApps’ ผู้ให้บริการโซลูชันบล็อกเชน ส่ง TraceHarvest ใช้เทคโนโลยีบล็อกเชนติดตามตั้งแต่การเลือกเมล็ดพันธุ์ตลอดจนวงจรการผลิต สร้างประสบการณ์ใหม่และความเชื่อมั่นในคุณภาพให้กับผู้บริโภค และสุดท้าย BMW บริษัทยานยนต์จากเยอรมนี จับมือกับ NVIDIA สร้าง Virtual Factories ทั้งหมด 31 แห่ง ให้ผู้บริโภคเยี่ยมชมโรงงานและสัมผัสประสบการณ์จริงทุกขั้นตอนการผลิต 

 

 

Programmable World: โลกที่กำหนดและปรับแต่งได้

เราอยู่บนโลกที่มีเทคโนโลยีใหม่ๆ อย่าง 5G, Ambient Computing, AR และอุปกรณ์อัจฉริยะต่างๆ ทำให้การโปรแกรม ปรับแต่ง และควบคุมโลกในแบบที่เราต้องการได้เหมือนกับประสบการณ์เสมือนจริงที่ผู้บริโภคคุ้นเคย เรียกได้ว่าเป็นการนำประสบการณ์ดิจิทัลมาสู่โลกทางกายภาพ นำ Data ที่อยู่ใกล้ตัวมาใช้ประโยชน์ เมื่อเทียบผลสำรวจจากผู้บริหารในไทยกว่า 95% เชื่อว่าการนำเอาเทคโนโลยีนี้มาใช้จะช่วยเพิ่มความสามารถในการแข่งขันได้ 46% มั่นใจว่า AR จะเข้ามาดิสรัปต์อุตสาหกรรมในอีก 3 ปีข้างหน้า และมากถึง 74% เชื่อว่า Smart Materials จะมีศักยภาพในการสร้างโอกาสทางธุรกิจและความสามารถใหม่ๆ 

 

ตัวอย่างธุรกิจที่นำเทรนด์ดังกล่าวไปใช้ เช่น Amazon Sidewalk หรือระบบชุมชนอัจฉริยะ ซึ่งเป็นเทคโนโลยีจาก Amazon ที่สร้างเครือข่ายสัญญาณให้อุปกรณ์ IoT เชื่อมต่อ โดยไม่จำเป็นต้องพึ่งสัญญาณอินเทอร์เน็ตหรือ WiFi ตลอดเวลา และแชร์ข้อมูลต่างๆ เพื่อเป็นประโยชน์กับคนที่อยู่ในชุมชนเดียวกัน ด้านองค์กรจากจีนอย่าง INMO ที่ผลิต INMO AR Glasses แว่นตาที่สามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นระบบนำทาง การรับสายโทรศัพท์ โทรผ่านวิดีโอ การแจ้งเตือนข้อความต่างๆ และยังมีฟีเจอร์ AI อัจฉริยะที่สามารถสแกนใบหน้า วัตถุ และแปลภาษาได้

 

 

The Unreal: โลกที่ไม่แท้จริง 

จะเกิดอะไรขึ้นในโลกอนาคต เมื่อข้อมูลบนโลกดิจิทัลมีทั้งข้อมูลที่เป็นทั้ง Authentic (ความแท้) และ Synthetic (สิ่งเทียม) กลายเป็นความท้าทายสำหรับองค์กรรวมถึงผู้ใช้งานเองในการแยกข้อมูลทั้งสองประเภทนี้ อีกทั้งองค์กรและผู้บริโภคมีมุมมองเปลี่ยนไป จากที่เคยเทียบของจริงกับของปลอม กลายเป็นการมองที่ Authentic ที่ไม่ใช่แค่ความแท้จากเนื้อหาและอัลกอริทึมขององค์กร แต่รวมถึงตัวแบรนด์ทั้งหมดด้วย เมื่อโลกไม่แท้จริงจะกลายมาเป็นโลกจริง ธุรกิจจึงต้องเตรียมตัวให้พร้อม โดยเฉพาะองค์กรจะต้องหาทางนำข้อมูลที่ Unreal แต่มีคุณภาพ เพื่อให้ AI สามารถนำข้อมูลเหล่านี้มาปรับและประยุกต์ใช้ 

 

96% ของผู้บริหารระบุว่า องค์กรของตนมุ่งมั่นที่จะพิสูจน์ต้นทางข้อมูลและการใช้ AI ให้เกิดประโยชน์อย่างแท้จริง เพราะมองว่าหากไม่มีกฎกติกามาครอบ AI อาจสร้างปัญหาตามมา กรณีศึกษาที่น่าสนใจ เช่น SK-II แบรนด์เครื่องสำอางระดับโลก เลือกใช้ Meet Yumi Influencer ซึ่งเป็น Animated Digital Influencer ทำหน้าที่แนะนำ ตอบคำถามลูกค้า ความฉลาดของ Yumi คือสามารถสแกนใบหน้าลูกค้าเพื่อวิเคราะห์ปัญหาผิวหน้าและแนะนำผลิตภัณฑ์ได้ รวมถึงอัปเดตเทรนด์ต่างๆ ได้ 

 

ตัวอย่างต่อมา Project Origin เป็นความร่วมมือระหว่าง Microsoft, BBC, CBS และ The New York Times มาใช้แก้ปัญหาการเกิดขึ้นของ Fake News มากมายบนโลกออนไลน์ ไปจนถึงการบิดเบือนข้อมูล โดยเฉพาะในการรายงานข่าว โดยใช้เทคโนโลยี Distributed Technology ให้ผู้ผลิตและผู้บริโภคสามารถตรวจสอบแหล่งที่มาและความน่าเชื่อถือของข่าวได้ ตัวอย่างสุดท้ายยกให้ฝั่งจีน ที่สร้างผู้ประกาศข่าว AI คนแรกของโลก ที่พร้อมประกาศข่าว Breaking News ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

 

 

Computing the Impossible: ประมวลผลได้แม้สิ่งที่เป็นไปไม่ได้ 

ความก้าวหน้าของอุปกรณ์ เทคโนโลยี เช่น Quantum Computing และการใช้ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ที่มีประสิทธิภาพสูง กำลังทำให้สิ่งที่เป็นไปไม่ได้ เป็นไปได้ อีกไม่นานเทคโนโลยีเหล่านี้จะมีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมมากขึ้น องค์กรสามารถขยายขีดจำกัดเดิมๆ ที่มี จนอาจเปลี่ยนแปลงวิธีการแข่งขันใหม่ๆ และการสร้างความร่วมมือระหว่างองค์กร มุมมองที่ว่านี้ผู้บริหารทั่วโลกกว่า 94% เห็นตรงกันว่า ความสำเร็จในระยะยาวจะขึ้นอยู่กับการใช้เทคโนโลยีประมวลผลยุคใหม่ที่เข้ามาช่วยแก้ปัญหาที่อาจจะเกินการควบคุมได้ และแทบไม่มีใครคัดค้านในประเด็นที่ว่า เทคโนโลยีการประมวลผลรุ่นต่อไปจะมีศักยภาพในการช่วยแก้ปัญหาที่แต่ก่อนไม่สามารถแก้ได้อย่างแน่นอน กรณีศึกษาในเทรนด์นี้ เช่น โปรเจ็กต์ Cambridge-1 Supercomputer ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ที่ทรงพลังที่สุดในอังกฤษตอนนี้ โดย NVIDIA จับมือกับพันธมิตรหลายราย พัฒนาเพื่อใช้งานร่วมกัน เช่น โครงการวิจัยยาของ AstraZeneca, โครงการวิเคราะห์สมองของ King’s College ร่วมกับ NHS, โครงการวิจัยยีนของ Oxford Nanopore เป็นต้น 

 

ปฐมาทิ้งท้ายหลังขยายประเด็น 4 เทรนด์เทคโนโลยีสำคัญในปี 2022 สำหรับองค์กรที่อยากเริ่มต้น ไม่ว่าคุณจะเป็นธุรกิจขนาดเล็กหรือองค์กรขนาดใหญ่ “อย่ากลัวกับเทคโนโลยีที่กำลังจะมา แต่จงเตรียมพร้อมตั้งรับด้วยแนวคิด ‘Think BIG. START Small. Scale FAST – คิดให้ใหญ่ เริ่มต้นเล็ก แต่ขยายได้เร็ว’”