วันนี้เป็นวันครบรอบ 4 ปีของ Call Me by Your Name ภาพยนตร์แนวโรแมนติก Coming of Age กรุ่นกลิ่นดรามาเรื่องโปรดใครหลายคน ซึ่งเข้าฉายอย่างเป็นทางการครั้งแรกเมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน 2017 คือภาพยนตร์ LGBTQ+ ที่ถ่ายทอดเรื่องราวความรักของคนเพศเดียวกันออกมาได้อย่าง ‘กลมกล่อม’ และ ‘ละมุนละไม’ มากที่สุดเรื่องหนึ่งในฮอลลีวูด
Call Me by Your Name กำกับโดย Luca Guadagnino ผู้กำกับมากฝีมือชาวอิตาเลียน เจ้าของผลงานอย่าง I Am Love (2009), A Bigger Splash (2015) และ Suspiria (2018) ส่วนบทภาพยนตร์ดัดแปลงจากนิยายขายดีชื่อเดียวกันของ André Aciman เขียนโดย James Ivory ซึ่งตอนแรกมีความยาวเกือบ 4 ชั่วโมงก่อนที่ท้ายสุดจะถูกหั่นเหลือ 132 นาที
ด้านเนื้อหาบอกเล่าเรื่องราวความรักที่เกิดขึ้นระหว่าง เอลิโอ (รับบทโดย Timothée Chalamet) หนุ่มน้อยวัย 17 และ โอลิเวอร์ (รับบทโดย Armie Hammer) บัณฑิตหนุ่มวัย 24 ผู้มาอาศัยอยู่กับครอบครัวเอลิโอในเมืองเล็กๆ แห่งหนึ่งทางตอนเหนือของประเทศอิตาลี ช่วงซัมเมอร์ปี 1983 เพื่อช่วยพ่อของเอลิโอซึ่งเป็นศาสตราจารย์ด้านโบราณคดีทำงานวิจัย
แม้จะไม่ได้ทำเงินอะไรมากมาย กวาดรายได้ตลอดโปรแกรมฉายไปเพียง 41.9 ล้านดอลลาร์สหรัฐ แต่ Call Me by Your Name ก็ขึ้นแท่นกลายเป็นภาพยนตร์ขวัญใจนักวิจารณ์รวมถึงนักดูหนังทั่วโลก พร้อมชนะรางวัลออสการ์สาขา Best Adapted Screenplay ได้รับคำชื่นชมท่วมท้นทั้งในแง่เนื้อหาที่ทำให้เรารู้สึกอินตามและเติบโตไปพร้อมๆ กับตัวละคร, บรรยากาศที่อบอวลไปด้วยความอบอุ่นนุ่มนวล, การกำกับอันยอดเยี่ยมของ Luca Guadagnino, การแสดงที่เข้าถึงบทบาทของ Timothée Chalamet และ Armie Hammer ไปจนถึงองค์ประกอบศิลป์ต่างๆ ตั้งแต่ฉาก คอสตูม และเพลงประกอบ โดยเฉพาะ Mystery of Love ของ Sufjan Stevens
ภาพ: Sony Pictures Classics
