ห้วยกุ๊บกั๊บ Hidden Gem เมืองเชียงใหม่ นอนโฮมสเตย์ สัมผัสทะเลหมอกแบบพาโนรามา

‘ห้วยกุ๊บกั๊บ’ เชื่อว่าหลายคนคงสงสัยและอาจยังไม่เคยได้ยินชื่อนี้มาก่อน หมู่บ้านชาวลาหู่ในแถบอำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ ที่เปิดให้บริการด้านการท่องเที่ยวมานานแล้วหลายปี แต่คนไทยยังไม่ค่อยรู้จักเท่าที่ควร 

 

ชื่อของห้วยกุ๊บกั๊บนั้นมาจากเสียงของม้าที่ใช้เป็นพาหนะในการสัญจรไปมาในสมัยก่อน เนื่องจากเส้นทางเข้าหมู่บ้านนั้นค่อนข้างทุรกันดารและห่างไกลความเจริญ การเดินทางด้วยม้าจึงเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด

 

ที่นี่มีโฮมสเตย์ไว้ให้บริการแก่นักท่องเที่ยวได้ขึ้นมาพักผ่อนกันหลายแห่ง และทุกๆ ที่ก็จะมีสิ่งที่เหมือนกัน นั่นก็คือวิวสวยๆ จากหน้าห้องพัก สามารถมองเห็นวิวขุนเขาทอดยาวสลับซับซ้อนกันไปมาได้แบบพาโนรามา เป็นวิวธรรมชาติที่ดูจะธรรมดาสำหรับชาวบ้านที่พักอาศัยอยู่ที่นี่ แต่นี่คือความพิเศษสำหรับคนเมืองอย่างเรา 

 

ทริปนี้เราพักยัง ‘Anarahoo ม่อนกุ๊บกั๊บ’ โฮมสเตย์จากน้ำพักน้ำแรงชาวบ้านจัดการและจัดสรรเอง ไร้ซึ่งการแทรกแซงจากนายทุน ทำให้ยังคงไว้ซึ่งความดั้งเดิมที่มีเสน่ห์ตามแบบฉบับชาวเขาเผ่าลาหู่บ้านห้วยกุ๊บกั๊บ 

 

 

#การเดินทาง

สำหรับการเดินทางขึ้นไปสู่ที่พักนั้น เริ่มต้นจากตัวเมืองจะต้องขับรถมาที่โฮมสเตย์บ้านแก่ง แถวๆ แก่งกื้ด อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ จากสนามบินสามารถปักหมุดตาม GPS ว่าโฮมสเตย์บ้านแก่ง

 

 

เมื่อมาถึงโฮมสเตย์บ้านแก่งแล้วเราจะต้องฝากรถไว้ที่นี่ เพราะทางขึ้นห้วยกุ๊บกั๊บนั้นจะต้องใช้บริการรถของหมู่บ้านในการขึ้นเพื่อความปลอดภัย เนื่องจากถนนลูกรังค่อนข้างเละมากในหน้าฝน ค่าบริการฝากรถที่โฮมสเตย์บ้านแก่ง รถยนต์ 50 บาท และมอเตอร์ไซค์ 30 บาท

 

จากแถวแก่งกื้ดใช้เวลาเดินทางขึ้นสู่ Anarahoo โฮมสเตย์ ประมาณ 40 นาที – 1 ชั่วโมง แล้วแต่สภาพของถนน บางช่วงคนขับต้องเอาโซ่มาพันล้อรถเพื่อให้รถกระบะวิ่งขึ้นเนินให้ไหว เรียกได้ว่าตื่นเต้นเรียกเสียงฮือฮากันได้ตั้งแต่ขาขึ้นเลยทีเดียว

 

 

#ที่พักเรียบง่ายและวิวระดับล้าน

แต่เมื่อเดินทางมาถึงที่พักแล้วต้องบอกเลยว่าแค่เห็นวิวข้างหน้าก็คุ้มเกินคุ้มแล้วสำหรับการฝ่าฟันเดินทางขึ้นมาร่วมชั่วโมงนี้ เพราะเราจะได้เห็นวิวของขุนเขาแบบเต็มตาจากหน้าระเบียงของที่พัก มองไปได้ไกลสุดลูกหูลูกตา พบเห็นแต่ความเขียวขจีของธรรมชาติจนลืมความเหนื่อยล้าจากการเดินทางไปอย่างหมดสิ้น พ่วงด้วยทะเลหมอกบางๆ ในยามเย็นหลังฝนตก โชว์ต้อนรับจากธรรมชาติที่สร้างความประทับใจให้แก่ผู้มาเยือนอย่างสมบูรณ์แบบจริงๆ

 

 

โฮมสเตย์ Anarahoo มีที่พักให้บริการสองแบบคือแบบเต็นท์และบ้านพัก โดยใครชอบสไตล์ไหนก็สามารถเลือกพักกันได้ตามใจชอบเลย สิ่งที่เหมือนกันก็คือวิวสวยที่สามารถมองเห็นได้ทั้งจากหน้าเต็นท์และจากหน้าระเบียงบ้านเช่นกัน เอาเป็นว่ามาพักที่นี่ตื่นมาได้เจอกับ Magic Hour แน่นอน

 

 

ในส่วนมุมที่เป็นไฮไลต์ของที่พักนั้นจะเป็นโซนส่วนกลางของโฮมสเตย์ ที่สร้างเป็นระเบียงไม้ไผ่ขนาดใหญ่ให้ลูกค้าได้มานั่งเล่นชมบรรยากาศกัน ในยามเช้าที่ทะเลหมอกมาตามนัดราวกับมีใครปล่อยคิวนั้น มุมระเบียงไม้ไผ่นี้ถือเป็นจุดชมทะเลหมอกที่งดงามสุดๆ 

 

วิวทะเลหมอกจากลานบ้าน

 

มีแค่ต้นไม้ เรา และหมอกยามเช้า

 

เด็กชาวบ้านท้องถิ่นเข้ามาคุยด้วยตลอดเวลา น่ารักมาก

 

มองทางไหนก็ทะเลหมอกเต็มไปหมด

 

 

ใครที่คาดหวังกับการชมทะเลหมอกที่เชียงใหม่มาที่นี่รับรองว่าไม่ผิดหวังแน่นอน แถมยังสวยอลังการแบบไม่แพ้ที่ไหนจริงๆ ด้วยความที่มุมมองของวิวจากบ้านพักนั้นทำให้เราชมทะเลหมอกได้จากหน้าระเบียงบ้าน