“Rah, rah-ah-ah-ah. Roma, roma-ma. Gaga, ooh-la-la. Want your bad romance”
แม้เวลาจะผ่านไปถึง 12 ปีแล้วนับตั้งแต่ Bad Romance ถูกปล่อยออกมาในวันที่ 19 ตุลาคม และปล่อยให้ดาวน์โหลดวันที่ 26 ตุลาคม 2009 แต่เราเชื่อว่าปัจจุบันก็ยังเป็นเพลงที่ไม่ว่าจะเปิดฟังอีกกี่ครั้งเหล่า Little Monsters ก็พร้อมลุกขึ้นมากระโดดโลดเต้น และเนื้อเพลงท่อนด้านบนก็ยังคงติดหูใครหลายคนมาจนวันนี้
Bad Romance คือซิงเกิลนำจากอีพีอัลบั้มชุด The Fame Monster (2009) ที่ Lady Gaga แต่งขึ้นร่วมกับ RedOne โปรดิวเซอร์คู่ใจ ส่วนเนื้อหาพูดถึงการตกหลุมรักเพื่อนสนิทซึ่ง Gaga ได้แรงบันดาลใจจากเรื่องราวความรักที่ไม่เคยไปได้สวยของตัวเอง รวมถึงประสบการณ์ที่เธอมักเห็นภาพหลอนในรูปแบบต่างๆ ระหว่างออกทัวร์ด้วย
ด้านดนตรี Bad Romance มาในแนวอิเล็กทรอนิกส์ป๊อปอันเต็มไปด้วยซาวด์และบีตเวียร์ดๆ มีการผสมผสานงานศิลปะเข้าไปอย่างแยบคาย เช่น ท่อนบริดจ์ที่ร้องเป็นภาษาฝรั่งเศสว่า “J’veux ton amour, et je veux ta revanche”
“ฉันอยู่ที่รัสเซีย แล้วไปต่อที่เยอรมนี ตามด้วยใช้เวลาส่วนใหญ่ในทวีปยุโรปแถบตะวันออก ฉันได้พบกับดนตรีเฮาส์เทคโนอันน่าทึ่งของเยอรมนี ซึ่งมันทำให้ฉันอยากทดลองสิ่งต่างๆ ในเพลงตัวเองที่มีกลิ่นอายยุค 80 บวกเมโลดีแบบยุค 90 นั่นคือแรงบันดาลใจของ Bad Romance ฉันดื่มวิสกี้ไปด้วยขณะที่เขียนมัน มันเป็นเพลงที่เกี่ยวกับการหลงรักเพื่อน” Lady Gaga เล่าถึงที่มาที่ไปของเพลงนี้
ด้านความสำเร็จ Bad Romance สามารถไต่ขึ้นอันดับ 2 บนชาร์ต Billboard Hot 100 และอันดับ 1 บนชาร์ตเพลงหลายประเทศ ทำยอดขายไป 12 ล้านก๊อบปี้ทั่วโลก พร้อมคว้ารางวัล Grammy Awards สาขา Best Female Pop Vocal Performance และ Best Short Form Music Video ในปี 2010
โดยแม้มันจะถูกนำไปเปรียบเทียบกับซิงเกิลก่อนหน้าอย่าง Poker Face แต่นักวิจารณ์จากสื่อดนตรีหลายคนก็ยกให้ Bad Romance เป็นหนึ่งในบทเพลงที่ดีที่สุดของ Gaga ขณะเดียวกันตัวมิวสิกวิดีโอก็ได้รับคำชื่นชมมากมายทั้งในแง่ของความเป็นศิลปะและสัญญะต่างๆ จนท้ายสุดก็กวาดรางวัลจากงาน MTV Video Music Awards ไปถึง 7 รางวัล และถูก Billboard จัดให้เป็นมิวสิกวิดีโอที่ยอดเยี่ยมที่สุดแห่งศตวรรษ 21
ภาพ: Lady Gaga
