ไม่ ‘ยกเลิก’ ก็ ‘เลื่อน’ นี่แทบจะเป็นสถานการณ์ปกติภายใต้สถานการณ์ที่ไม่ปกติ นับตั้งแต่การระบาดของไวรัสโควิด-19 เริ่มขึ้น โดยเฉพาะช่วงแรกที่ไม่มีใครรับมือกับความเปลี่ยนแปลงทัน จึงสร้างผลกระทบให้กับธุรกิจอีเวนต์มหาศาล
แต่ก็นับว่ายังโชคดีที่หลายธุรกิจคุ้นเคยกับการนำ Digital Transformation มาเป็นเครื่องมือที่ช่วยปรับตัวสู่โลกอนาคตมาสักระยะ ธุรกิจอีเวนต์ก็นำเอาโซลูชันมาประยุกต์กับการจัดอีเวนต์ ไม่ว่าจะเป็น Virtual Exhibitor, 3D Booth, Online Business Matching, Webinar ระบบลงทะเบียนออนไลน์ สร้างแพลตฟอร์มเข้างานแค่สแกน QR Code และ Interactive Stage เช่น Live Vote ระบบโหวตออนไลน์ที่สามารถนับผลโหวตและแสดงผลแบบเรียลไทม์
ปาล์ม-เอกคณิต จันทร์สว่าง กรรมการผู้จัดการ บริษัท อีเว้นท์ไทย จำกัด และ บริษัท อีเว้นท์พาส (ประเทศไทย) จำกัด
ปาล์ม-เอกคณิต จันทร์สว่าง กรรมการผู้จัดการ บริษัท อีเว้นท์ไทย จำกัด และ บริษัท อีเว้นท์พาส (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ให้บริการสื่อออนไลน์และแพลตฟอร์มบริหารจัดงานอีเวนต์ที่ครบวงจรที่สุดในประเทศไทย บอกกับ THE STANDARD ว่า ถึงแม้ Eventpass จะมีอีเวนต์โซลูชันที่ครบวงจรทั้งออนไลน์และออฟไลน์อยู่แล้ว แต่หลังจากสถานการณ์โควิด-19 ก็มีโซลูชันออนไลน์ใหม่ๆ มากขึ้น
“เดิมทีเรามีสื่อออนไลน์ที่เน้นเรื่องอีเวนต์กับโปรโมชันให้แบรนด์ต่างๆ อยู่แล้ว คือเพจ ‘Eventpass’ และเพจ ‘รู้ยัง’ พอเกิดวิกฤต การเพิ่มโซลูชันออนไลน์ให้กับแบรนด์หรือผู้ประกอบจึงค่อนข้างไว และการมาถึงของ Virtual Event กลายเป็นทางรอดของธุรกิจ เราก็สร้าง Virtual Event Platform ขึ้นมาให้กลายเป็นตัวผสานโลกออนไลน์และออฟไลน์ ยิ่งตอกย้ำการเป็น Event Tech ที่ครบวงจรที่สุด”
Virtual Event จะปลุกธุรกิจอีเวนต์ให้ฟื้นคืนชีพได้หรือไม่ และจะมาแทนออฟไลน์อีเวนต์หรือเปล่า เอกคณิตให้คำตอบในมุมมองของผู้คว่ำหวอดในวงการอีเวนต์ว่า “ต่อให้โควิด-19 หมดไป ออนไลน์อีเวนต์ก็ยังคงอยู่ เพราะมันพิสูจน์แล้วว่าประหยัดงบกว่าเมื่อเทียบกับการจัดอีเวนต์แบบเดิมหลายเท่า ลดต้นทุนและลดความเสี่ยงให้กับผู้จัดงาน และยังเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการขนาดเล็กจัดอีเวนต์ได้ และเราอยู่ในยุคที่การเข้าถึงออนไลน์อีเวนต์เป็นเรื่องง่าย
“ส่วนออฟไลน์อีเวนต์ยังอยู่แน่นอน และเชื่อว่าจะกลับมาคึกคักหลังสถานการณ์คลี่คลาย แต่สิ่งที่น่าสนใจคือ ออนไลน์กับออฟไลน์จะกลายเป็นโลกคู่ขนานที่เชื่อมโยงกันจนกลายเป็นไฮบริดอีเวนต์ และเชื่อว่าสุดท้ายแทบจะไม่เหลืองานที่จัดออฟไลน์อย่างเดียว โดยเฉพาะ Virtual Event เติบโตแน่นอน ทั้งอีเวนต์แบบ B2B อันนี้ได้ประโยชน์ชัดเจนเรื่องความประหยัด คุณสามารถใช้งบน้อยกว่า เพื่อวางโซลูชันให้มีการเจรจาจับคู่ธุรกิจซื้อขายออนไลนได้เป็นพันคู่
“แต่รูปแบบงานแฟร์แบบ B2C ยังไม่มีใครทำ น่าจะเป็นเพราะคนจัดยังกล้าๆ กลัวๆ กับเทคโนโลยีและคอนเทนต์ที่จะใช้ เพราะถ้าคุณไม่ใส่คอนเทนต์ ใส่ความสนุกเข้าไป มันก็ไม่ต่างอะไรกับไลฟ์ขายของ นี่เป็นอุปสรรคหนึ่งในการทำ Virtual Event เพราะแบรนด์ยังมีความเข้าใจว่าออนไลน์อีเวนต์ไม่ต่างอะไรกับการขายของออนไลน์ สิ่งที่คุณจะได้จากการทำออนไลน์อีเวนต์ นอกจากได้ขายสินค้า คุณจะได้ข้อมูลเชิงลึกว่าคนที่มางานคุณคือใคร เขาชอบอะไร เขามี Journey ในงานอีเวนต์อย่างไร ซึ่งเรามีโซลูชันที่รองรับทั้งหมด ตั้งแต่ระบบ Event Management, ระบบ Eventpass Shop ไว้บริหารจัดการสินค้าเพื่อขายของ, ระบบหน้าร้านเสมือนจริง (Virtual Popup Store) รวมถึงระบบ Analytic เก็บข้อมูลเชิงลึกเพื่อให้คุณรู้จักลูกค้าของคุณ
“อีกหนึ่งความท้าทายของการทำ Virtual Event สำหรับเราคือ สังเกตได้ว่าปีที่แล้วคำว่าออนไลน์อีเวนต์ฟังดูตื่นเต้นนะ พอผ่านไปครึ่งปีความตื่นเต้นมันแผ่ว เพราะประสบการณ์ที่คนทั่วไปสัมผัสมันแห้ง แทบจะสัมผัสไม่ได้ถึง Human Touch คนดูคอนเสิร์ตออนไลน์ก็รู้สึกว่าไม่ต่างอะไรกับดู YouTube ในเมื่อ Eventpass มีบริการด้านอีเวนต์และโซลูชันที่ครบวงจร เราก็อยากจะจัดงานที่มีชีวิตชีวา มอบประสบการณ์ให้เหมือนเดินงานอีเวนต์จริงๆ”
นั่นจึงเป็นที่มาของการจัดงาน TRAMS Virtual Festival (แทรมส์ เวอร์ชวล เฟสติวัล) ที่เอกคณิตบอกว่าต้องการให้งานนี้ทำหน้าที่เป็น Online Event Showcase โชว์ทุกความเป็นไปได้ในการทำ Virtual Event จัดเต็มโซลูชันให้แบรนด์และผู้ประกอบการได้ทดลองสัมผัสจริง และถือเป็นมิติใหม่ของงาน Virtual Festival ครั้งแรกในเมืองไทยที่มีครบทุกความบันเทิง ทั้งคอนเสิร์ต ช้อปปิ้ง ท่องเที่ยว พิพิธภัณฑ์ และกิจกรรมอีกมากมาย มอบประสบการณ์เที่ยวงานเฟสติวัลแบบใหม่ไร้พรมแดนได้ง่ายๆ ที่ www.tramsvirtualfest.com
“คอนเซปต์ของงานคือ อยากรวมบรรยากาศและกิจกรรมหลายๆ อย่างไว้ในงานเดียว ได้แก่ ‘Travel-Recreation-Art-Music-Shopping’ จึงกลายเป็นคำว่า TRAMS ที่แปลว่ารถราง ซึ่งแต่ละตัวอักษรยังมีความหมายที่บอกเล่าทุกอย่างในงาน พอเป็นรถราง เราจึงดีไซน์ประสบการณ์ให้เหมือนคุณเดินทางไปเที่ยวจริงๆ พาทุกคนเข้าสู่งานผ่าน Event Map มีกิมมิกในการนำเสนอที่เป็นภาพเมืองแบบไอโซเมตริก โดยจำลองเอาเมืองที่น่าสนใจมาเป็นโซนต่างๆ ของงาน เพื่อสร้างความประทับใจให้กับผู้มางาน แบ่งเป็น 5 สเตชัน ซึ่งคุณไม่มีทางเดาได้ว่าจะเจออะไรบ้างในแต่ละเมือง เหมือนกำลังเล่นเกม ให้เขารู้สึกว่ามา Virtual Event แล้วสนุกเหมือนมาอีเวนต์จริงๆ”
“5 สเตชันที่ว่าประกอบไปด้วย Phuket Station พาคุณฟินกับไปกิจกรรมริมทะเล, Lanna Station แอ่วเหนือแบบชิคๆ, Tokyo Station เยือนแดนอาทิตย์อุทัย ท่องวัฒนธรรมป๊อปคัลเจอร์, LA Station แสงสีจัดเต็มกับเทศกาลดนตรี และ Paris Station สายแฟตัวแม่ต้องห้ามพลาด โดยแต่ละสเตชันหยิบเอาสถานที่สำคัญๆ มาตกแต่งให้เหมือนได้เดินทางไปเที่ยวจริงๆ เอาใจนักเดินทางที่โหยหาบรรยากาศและความสวยงามของเมืองนั้นๆ”
LA Station
“แต่ละสเตชันคอนเซปต์ก็ต่างกัน อย่างที่ LA Station จะเป็นมิวสิกเฟสติวัล เข้าไปก็จะเห็นลานดนตรี ใครมีตั๋วคอนเสิร์ตแล้วสามารถมาดูได้ที่สเตชันนี้ มีประกวดวงดนตรี Show Song A-Long Do ของน้องๆ นักเรียนนักศึกษากว่า 20 วง ชิงเงินรางวัลสูงสุด 10,000 บาท รวมถึงพาร์ทตเนอร์สายดนตรีก็จะมารวมตัวกันที่ LA Station”
Tokyo Station
Store Icon ของ Matchbox
“มันคือการเดินทางที่คุณจะได้ประสบการณ์แปลกใหม่ เหมือนกำลังเล่นเกมผ่านด่านต่างๆ เช่น เวลาคลิกไปตามไอคอนแต่ละแบรนด์จะแสดง Virtual Pop-up Store ขึ้นมา แต่ละแบรนด์ตกแต่งไม่เหมือนกัน หลักๆ เราจะมีดีไซน์แต่ละหมวดสินค้า เช่น แฟชั่น เครื่องสำอาง ไอที แล้วค่อยไป Customize ให้กับตรง CI ของแต่ละแบรนด์ และมี MC Live ประจำร้านที่มีคาแรกเตอร์แตกต่างกัน”
Virtual Pop-up Store ของ Matchbox
เอกคณิตขยายประเด็นที่น่าสนใจเกี่ยวกับ Virtual Pop-up Store โซลูชันที่จะช่วยให้ แบรนด์สามารถซื้อขายได้จริง “ก้าวแรกที่คุณคลิกเข้าไปยัง Virtual Pop-up Store คุณจะได้ยิน MC ทักทายด้วยชื่อของคุณ ให้คำแนะนำ บอกโปรโมชัน และปิดการขายได้เหมือนมีพนักงานมาบริการ ยิ่งไปกว่านั้น Virtual Popup Store สามารถใส่อินเตอร์แอ็กทีฟไอเท็มได้ คลิกป้ายหน้าร้านก็จะโชว์ป๊อปอัพ โฆษณา หรือคลิกที่ตัวร้านจะใส่วิดีโอทีเซอร์ของแบรนด์ แม้กระทั่งแสดงภาพโปรดักต์แบบ 360 องศาก็ได้ ทั้งหมดที่จะได้เห็นเป็นแพลตฟอร์มที่เราพร้อมให้บริการแล้ว”
ที่สำคัญแบรนด์และผู้ประกอบการที่เข้าร่วมงาน TRAMS ในครั้งนี้ แบรนด์ไหนต้องการทำออนไลน์อีเวนต์ครั้งต่อไป สามารถใช้แพลตฟอร์มได้ทันที “จะนำไปไว้บนเว็บไซต์ของแบรนด์ หรือทำอีเวนต์ออนไลน์อื่นๆ ก็ได้ เรียกว่าแทบจะจัดอีเวนต์ได้ทุกเดือน” เอกคณิตกล่าวเสริม
ส่วนไฮไลต์ที่พลาดไม่ได้คือ Virtual Concert จาก 10 ศิลปินชั้นนำ ได้แก่ Nont Tanont, STAMP, Ink Waruntorn, The Parkinson, Polycat, Zom Marie, Tattoo Colour, Safeplanet, Bowkylion, Mean และ Polycat รับประกันความบันเทิงครบทุกอรรถรส โปรดักชันจัดเต็มทั้งภาพ แสง สี เสียง ผสานเทคนิคสุดล้ำให้คุณได้ใกล้ชิดติดขอบเวที พร้อมความพิเศษที่คอนเสิร์ตทั่วไปให้ไม่ได้
“เวลาคุณไปดูคอนเสิร์ตถ้าซื้อบัตรแถวหลัง ศิลปินแทบจะไม่เห็นคุณเลย แต่ Virtual Concert ครั้งนี้เราจะทำให้ศิลปินได้เห็นหน้าคุณบนจอ LED บนเวทีคอนเสิร์ต ศิลปินจะได้เห็นแววตาที่คุณส่งให้ และเรายังเตรียมเซอร์ไพรส์ ลุ้นสิทธิ์ได้เป็น Fans Talk แบบเอ็กซ์คลูซีฟกับศิลปินสุดโปรดอีกด้วย”
อรรถรสในงาน TRAMS Virtual Festival ยังไม่หมดเท่านั้น เชิญกระโดดขึ้นรถรางเพื่อแวะชมนิทรรศการจากพิพิธภัณฑ์กว่า 16 แห่ง จากพาร์ตเนอร์มากมาย เช่น พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร, หอศิลปวัฒนธรรมเมืองเชียงใหม่ และพิพิธภัณฑ์คนรักรถ จากบริษัท สื่อสากล จำกัด มาจัดแสดงในงานนี้ หรือจะโดดลงสถานที่ไปด้วยเกมสนุกๆ ไม่ว่าจะเป็นเกมเศรษฐีหนีเที่ยว, เกมตอบคำถาม ชนะได้พอยต์สะสมไว้ไปลุ้นรับของรางวัลได้อีก
สายมูเตรียมดูไลฟ์กันให้ดี ปีนี้ดวงใครปัง คนโสดเที่ยวที่ไหนจะได้ปิ๊ง หรือถ้าอยากเช็กดวงแบบเอ็กซ์คลูซีฟกว่านั้น เชิญแวะบูธหมอดูที่มาพร้อมแพ็กเกจดูหมอราคาพิเศษเฉพาะในงานเพียง 99 บาทเท่านั้น! ส่วนนักช้อปสาย F เตรียมช้อปกันแบบ Non-stop 24 ชั่วโมง กับมหกรรมไลฟ์ช้อปปิ้งกว่า 100 แบรนด์ดังและร้านค้าออนไลน์ที่เข้าร่วมขบวนลด แจก แถม อีกเพียบ
“Showcase ครั้งนี้น่าจะบอกเล่าทุกอย่างได้ดีที่สุด” เอกคณิตกล่าวสรุป “เราใส่ทุกโซลูชันให้คนร่วมงาน แบรนด์ และผู้ประกอบการได้ใช้งานจริง ซึ่งเขาจะเห็นภาพได้ชัดว่า จริงๆ แล้วการจัด Virtual Event สามารถทำอย่างไรได้บ้าง และเรามีโซลูชันใดๆ บริการบ้าง ตอนนี้เรามีแม่ค้าออนไลน์กว่า 100 บูธ และแบรนด์ชั้นนำกว่า 80 แบรนด์ จะมีอีเวนต์ไหนไหมที่แบรนด์ดังตามศูนย์การค้าและแม่ค้าออนไลน์มาขายของร่วมกันบนโลกออนไลน์ นี่จะเป็นงานแรกและเป็นงานที่ใหญ่ที่สุดงานแรกของปีนี้
“ยิ่งไปกว่านั้น แบรนด์และผู้ประกอบการจะได้เห็นเทคโนโลยีใหม่ๆ ตั้งแต่ระบบลงทะเบียนแจกคูปองนำไปช้อปปิ้งในร้าน เพื่อให้เห็นประสบการณ์การช้อปปิ้งออนไลน์ก็สนุกได้ มีระบบ Live Shopping ขายผ่านระบบไลฟ์ของเรา สามารถซื้อของและใช้คูปองได้ทันที เรามีโมบายล์แอปฯ ให้แบรนด์เมเนจหน้าร้านออนไลน์โดยไม่ต้องเฝ้าหน้าจอ และที่ต้องพูดถึงคือ Virtual Map ที่ตั้งใจสร้างสรรค์และลงดีเทลละเอียดมาก ตั้งใจให้เป็นอีกหนึ่งช่องทางที่แบรนด์สามารถนำไปต่อยอดสร้างประสบการณ์แปลกใหม่ให้กับลูกค้าได้”
หากโชว์เคสครั้งนี้ประสบความสำเร็จตามที่หวัง นอกเหนือจากการสร้าง Brand Awareness และรายได้จากการขายสินค้า เอกคณิตเชื่อว่าแบรนด์จะมองเห็นความเป็นไปได้ของ Virtual Event ที่จะนำไปใช้ได้ในทุกๆ มีเดีย เป็น New Media ซึ่งในอนาคตจะทำอะไรกับลูกค้าได้มากกว่า และสื่อสารได้เยอะกว่า แต่ยังรักษา Human Touch ที่โลกออฟไลน์มีให้อยู่
ก่อนอื่นคุณควรไปสัมผัสประสบการณ์ทั้งหมดที่เล่ามาด้วยตัวเองในงาน TRAMS Virtual Festival วันที่ 26-31 มีนาคม 2564 มาสนุกแบบไม่มีอะไรกั้น ฟรีตลอดงาน ยกเว้น Virtual Concert จำหน่ายบัตรราคา 499 บาท และสามารถดูคอนเสิร์ตได้ทั้ง 2 วัน ซื้อบัตรได้แล้วตั้งแต่วันนี้ – 28 มีนาคม 2564 ที่ www.tramsvirtualfest.com
รายละเอียดเพิ่มเติม
Facebook: https://www.facebook.com/TRAMSFEST
IG / Twitter: TRAMS FEST
YouTube: evpss.co/tramsofficial
#TRAMSVirtualFestival #TRAMSfest #แทรมส์เฟส #Virtual #Festival
พิสูจน์อักษร: วรรษมล สิงหโกมล