ชญาวดี ชัยอนันต์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายเศรษฐกิจมหภาค ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า เศรษฐกิจไทยในเดือนตุลาคม 2563 หดตัวในอัตราสูงขึ้นเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า สาเหตุเพราะปัจจัยชั่วคราววันหยุดพิเศษที่หมดลง และฐานสูงในปีก่อน ซึ่งมีมาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายของภาครัฐ
ด้านมูลค่าการส่งออกสินค้าไม่รวมทองคำหดตัว 5.0% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ถือว่าหดตัวสูงขึ้นจากเดือนก่อน ในบางหมวดสินค้าที่มูลค่าเคลื่อนไหวตามราคาน้ำมัน สินค้าเกษตร และสินค้าเกษตรแปรรูปที่มีผลของฐานสูงในปีก่อน
ขณะที่มูลค่าการนำเข้าสินค้าไม่รวมการนำเข้าทองคำหดตัว 9.9% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยหดตัวเกือบทุกหมวดสินค้าสอดคล้องกับการใช้จ่ายภายในประเทศที่หดตัว
ทั้งนี้ การบริโภคภาคเอกชนกลับมาหดตัว 1.1% จากเดือนก่อนหน้าที่กลับมาเป็นบวกราว 0.4% โดยการใช้จ่ายปรับตัวลดลงเกือบทุกหมวด ทั้งหมวดสินค้าไม่คงทนและหมวดบริการที่หดตัวสูงขึ้น โดยรวม ธปท. มองว่าการบริโภคเอกชนอยู่ในทิศทางฟื้นตัวสอดคล้องกับมาตรการรัฐที่ออกมา
อย่างไรก็ตาม จำนวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศหดตัวสูงต่อเนื่องจากระยะเดียวกันปีก่อน เพราะมีมาตรการจำกัดการเดินทางระหว่างประเทศของไทย แม้จะมีการอนุญาตให้นักท่องเที่ยวประเภทพิเศษ (Special Tourist Visa: STV) เดินทางเข้าไทยได้ แต่ยังมีจำนวนน้อย
ด้านการลงทุนภาคเอกชนหดตัวสูงขึ้นจากเดือนก่อนในหมวดเครื่องจักรและอุปกรณ์ และหมวดก่อสร้าง ส่วนการใช้จ่ายของภาครัฐ (ไม่รวมเงินโอน) ยังกลับมาหดตัวเป็นผลจากการเบิกจ่ายรายจ่ายประจำที่ล่าช้า แต่การลงทุนของทั้งรัฐบาลกลางและรัฐวิสาหกิจยังมีบทบาทสำคัญในการพยุงการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ
ส่วนเสถียรภาพเศรษฐกิจ อัตราเงินเฟ้อทั่วไปติดลบน้อยลงจากราคาพลังงานที่เพิ่มขึ้นเป็นสำคัญ ด้านตลาดแรงงานในภาพรวมปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง แต่ยังเปราะบางและกระทบต่อการจ้างงานและรายได้ สำหรับดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุลลดลงเล็กน้อยตามดุลบริการ รายได้ และเงินโอนที่ขาดดุลเพิ่มขึ้น
นอกจากนี้ทาง ธปท. เตรียม Media Briefing เพื่อทำความเข้าใจมาตรการเพื่อดูแลอัตราแลกเปลี่ยน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนโครงการ F/X Ecosystem เพิ่มเติม จากที่เคยมีแพ็กเกจการดูแลค่าเงินทั้งระยะสั้นและระยะยาวแล้ว
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์
