“ทุกคนหนีเร็ว เกิดเรื่องใหญ่แล้ว มีโจรสลัดบุกเข้ามาในหมู่บ้าน”
ถ้าเดาจากชื่อ ‘อุซป’ ที่ผสมมาจากคำว่า ‘อีสป’ นักเล่านิทานชาวกรีก กับคำว่า อุโซะ (嘘) ที่แปลว่า โกหก และจมูกที่ยื่นยาวเหมือนพินอคคิโอ ก็พอจะเดาได้ไม่ยากว่านี่คือการโกหกคำโตที่ไม่มีคนสนใจ ของเด็กหนุ่มผมหยิก หน้ารูปไข่ แห่งหมู่บ้านไซรัป จากเรื่อง One Piece
อุซปจะตื่นขึ้นมาก่อนใคร ตะโกนประโยคเดิมซ้ำๆ ออกวิ่งไปทั่วหมู่บ้านจนเป็นกิจวัตร ถึงแม้จะยังมีคนตกใจ เชื่อว่าสิ่งที่เขาพูดเป็นความจริงอยู่บ้าง แต่คนส่วนใหญ่เริ่มชินชา มองว่าคำโกหกของอุซปเป็นเหมือนนาฬิกาหรือเสียงไก่ขัน ที่ช่วยปลุกหรือเตือนให้พวกเขาเตรียมตัวออกไปทำงาน ออกไปใช้ชีวิตในทุกๆ วัน
รวมทั้ง คายะ คุณหนูที่ป่วยหนักหลังจากสูญเสียพ่อแม่ ก็มีอุซปที่คอยหา ‘เรื่องเล่า’ เกี่ยวกับสัตว์ประหลาด การผจญภัยสุดแฟนตาซีมาเล่าให้ฟังเพื่อคลายเหงา
ถึงแม้คนในหมู่บ้านจะโกรธ เกลียด เบื่อหน่ายหรือเย็นชา แต่คำโกหกของอุซป เรียกรอยยิ้ม เสียงหัวเราะ เยียวยาหัวใจเหี่ยวเฉาให้คายะอยากมีชีวิตต่อไปได้เสมอ
อุซปติดนิสัยเจ้าเล่ห์ โกหกได้ทุกเรื่อง ยกเว้นเพียงอย่างเดียวที่เขาจะไม่มีวันโกหก คือความภูมิใจที่ได้เกิดมาเป็นลูกชายของยาซป ‘โจรสลัด’ ที่เป็นต้นแบบของ ‘นักรบแห่งท้องทะเลผู้ห้าวหาญ’ ให้กับเขา
เมื่อถูก คุระ ฮาโดล คนดูแลของคายะ ดูถูกว่ายาซปเป็นคนบ้าสมบัติที่ทิ้งหมู่บ้านและครอบครัว เด็กหนุ่มจมูกยาวที่ปกติเอาแต่วิ่งหนีก็อดทนไม่ไหว ชกเข้าที่หน้าของพ่อบ้านจอมเข้มงวดที่มีเบื้องหลังน่ากลัวเข้าอย่างจัง
“ฉันอาจชอบพูดจาโกหกพกลมแบบที่นายพูด แต่ความรู้สึกภูมิใจที่ได้มีสายเลือดโจรสลัดเท่านั้น ที่ฉันไม่มีวันโกหกหรือปกปิดใคร ฉันคือลูกชายของโจรสลัด”
แต่ถึงอย่างนั้น คนโกหกก็ยังคงเป็นคนโกหกในสายตาคนอื่น เมื่ออุซปรับรู้ความจริงที่ว่า คุระ ฮาโดล คือ คุโระ จอมร้อยเล่ห์ อดีตหัวหน้ากลุ่มโจรสลัดแมวดำ ที่แฝงตัวมาดูแลคายะเพราะหวังสมบัติ และเตรียมสั่งให้ลูกน้องโจรสลัดบุกมาฆ่าทุกคนในเช้าวันรุ่งขึ้น
“ทุกคนหนีเร็ว เกิดเรื่องใหญ่แล้ว มีโจรสลัดบุกเข้ามาในหมู่บ้าน”
อุซปรีบวิ่งกลับไปตะโกนประโยคเดิม และก็ไม่มีชาวบ้านคนไหนเชื่อเขาเหมือนเดิม แต่สิ่งต่างไปในคือ นี่เป็นเรื่องจริง!
แม้กระทั่งคายะที่ชอบคำโกหกของอุซปมาตลอด ก็ยังคิดว่านี่คือการแก้แค้นของอุซปที่โดน คุระ ฮาโดล ดูถูก เครดิตของจอมโกหก ลูกโจรสลัด กับพ่อบ้านที่ดูซื่อสัตย์น่าเชื่อถือ แตกต่างกันราวฟ้ากับเหว และเมื่อพูดให้ทุกคนเชื่อไม่ได้ ทางเดียวที่เขาทำได้คือ ทำให้เรื่องนั้นเป็นคำโกหกขึ้นมาจริงๆ
อุซป ตัดสินใจยืนหยัดสู้อยู่ที่ชายหาด เพื่อหยุดกลุ่มโจรสลัดแมวดำไม่ให้บุกเข้าไปทำร้ายคนในหมู่บ้าน แล้วให้ทุกคนคิดว่าเหตุการณ์ทุกอย่างในวันพรุ่งนี้สงบสุข ไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ความหวังดีต่อคายะ ความรักพวกพ้อง บ้าบิ่น (ดูเหมือน) ไม่กลัวตาย และภูมิใจในสายเลือดโจรสลัด ทำให้พวกลูฟี่ตัดสินใจต่อสู้ร่วมกับอุซป (ถึงแม้จะหลงทางกันอยู่หลายครั้งก็ตาม) ถึงแม้จะถูกทุบจนปางตาย แต่อุซปก็กัดฟันไม่ยอมแพ้
“ฉันคือนักรบแห่งท้องทะเลผู้ห้าวหาญ ฉันชอบหมู่บ้านนี้มาก ฉันอยากปกป้องทุกคน จะไม่ยอมให้พวกแกแตะต้องคนในหมู่บ้านได้แม้แต่ปลายนิ้ว”
ครั้งนี้สิ่งที่เขาพูดเป็นเรื่องจริง!
วันรุ่งขึ้น เหตุการณ์ในหมู่บ้านก็ดำเนินไปอย่างสงบอย่างที่อุซปตั้งใจ หากแต่ก็เป็นเช้าที่เงียบเหงา เมื่อเขาตัดสินใจที่จะออกทะเล เดินตามความฝันในสมาชิกคนที่ 4 ของกลุ่มโจรสลัดหมวกฟาง อย่างที่เขาภาคภูมิใจ
เมื่อไม่มีเสียงตะโกนของอุซป บางคนก็เผลอนอนตื่นสาย บางคนห่อเหี่ยว บางคนไม่มีกะจิตกะใจออกไปทำงาน ตอนนี้ทุกคนคิดถึง ‘คำโกหก’ ของเด็กหนุ่มจมูกยาวที่กำลังออกเดินทางไกลเหลือเกิน
เรื่องราวมาเปิดเผยในตอนท้ายว่า เพราะแม่ของอุซปล้มป่วยลงหลังจากพ่อออกจากบ้านไปเป็นโจรสลัด ในวาระสุดท้าย อุซปพยายามหาเรื่องแต่งมาให้แม่มีความหวัง และบอกแม่ว่า เรือโจรสลัดของพ่อมารับแล้ว ทั้งที่ตัวเขาและแม่รู้ดีว่านั่นไม่ใช่ความจริง
แต่เพราะเป็นเด็กน้อยเกินกว่าจะทำอะไรได้มากไปกว่านี้ เขาได้แต่ตะโกนซ้ำๆ จนกระทั่งในวันที่แม่จากไป เขาก็ยังคงตะโกนคำโกหกนั้นต่อไป ด้วยความหวังว่าวันหนึ่งพ่อจะรับเขาไปอยู่ด้วยจริงๆ
อุซปรู้ซึ้งถึงความเจ็บปวดเมื่อต้องสูญเสียพ่อแม่ได้ดียิ่งกว่าใคร เขาเลยพยายามใช้คำโกหกสร้างเรื่องราวผจญภัยเพื่อปลอบใจคายะที่พ่อแม่เพิ่งจากไปเหมือนกัน
แต่สุดท้าย แม้แต่เด็กขี้โกหกอย่างอุซป ก็ยังรู้ดีว่าไม่มีประโยชน์อะไรที่เขาจะ ‘สร้างเรื่อง’ โกหกขึ้นมาเรื่อยๆ ยกเว้นเสียแต่ว่าเขาจะพิสูจน์ได้ด้วยตัวเองว่า สิ่งที่พูดมาเป็นความจริง
ถ้าพ่อไม่มารับก็ออกทะเลในฐานะโจรสลัด สักวันคงมีโอกาสได้เจอกัน
ถ้าไม่มีเรื่องโกหกก็ออกไปผจญภัย ไปมองเห็นด้วยตา สัมผัสด้วยกาย รับรู้ด้วยใจ ว่าโลกใบนี้มี ‘ความจริง’ อีกมากมายรอให้เขาไปค้นพบ และเอากลับมาเล่าให้ทุกคนฟังโดยไม่ต้องสร้างเรื่องขึ้นมา
อีกไม่นานเมื่อออกเรือไปเรื่อยๆ เขาจะได้พบกับปลาตัวเท่าเกาะ, คนยักษ์, มนุษย์เงือก, หุ่นยนต์, โครงกระดูก, ผีดิบ, คนแคระ และสิ่งมีชีวิตประหลาดมากมาย ได้บินขึ้นไปบนท้องฟ้า บางครั้งก็ดำลึกลงไปในมหาสมุทร ฯลฯ เป็นการผจญภัยของจริงที่เขาไม่มีทางจินตนาการถึง ถ้าไม่เจอด้วยตัวเอง
เขาต้องพบกับความเจ็บปวดแสนสาหัส ต้องวิ่งหนีเอาชีวิตรอด ต้องถูกทุบจนปางตาย ต้องทะเลาะกับกัปตันเพื่อนรัก จนต้องขอลาออกจากกลุ่ม ได้เป็นเจ้าแห่งการซุ่มยิง ได้ฝึกวิชาจนเก่งกาจ และกลายเป็น ‘ก็อด’ ที่มีคนยกย่องมากมาย (ถึงแม้จะเป็นเรื่องบังเอิญก็เถอะ)
“ตอนที่ฉันกลับมาที่นี่อีกครั้ง ไว้ฉันจะเล่าการผจญภัยที่ดูยิ่งใหญ่กว่าการโกหกให้ฟังนะ”
เรายังไม่รู้ว่าสุดท้ายเขาจะได้กลับมาทำตามสัญญาที่ให้ไว้กับคายะได้เมื่อไร
แต่เรามั่นใจได้ว่า นี่เป็นอีกครั้งที่เจ้าแห่งคำโกหก พูด ‘ความจริง’
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์