ขึ้นชื่อว่าเป็นมนุษย์ ใครๆ ก็ผิดพลาดได้ แม้แต่ดาราหรือคนดังที่ต้องอาศัยรูปลักษณ์เป็นใบเบิกทางสำคัญสู่การรับงานหลากหลายประเภท แต่ถึงจะผ่านการแต่งหน้า ทำผม กันมาสารพัด ก็ยังมีบางครั้งที่พวกเธอแต่งหน้าพลาดไปอย่างไม่น่าเชื่อ โดยเฉพาะในยุคนี้ที่ใครๆ ต่างเป็นปาปารัซซี และมีสิทธิ์ มีเสียง มีช่องทางในการวิพากษ์วิจารณ์ พร้อมส่งต่อรูปไปได้แบบไม่รู้จบ เหล่านี้คือบทเรียนสำคัญที่แสดงให้เห็นว่า นอกจากความดังทะลุฟ้าแล้ว พวกเธอเหล่านี้เองก็แต่งหน้า ‘พลาด’ เป็นเช่นเดียวกับพวกเราทุกคนเหมือนกัน แต่เราเรียนรู้และจัดการความพลาดเหล่านี้อย่างไร เราชวนคุณไปถอดรหัส
สีเยอะ + เลอะเทอะ
การแต่งหน้าจะว่าไปก็คล้ายการแต่งรูป แต่งน้อยไปอาจไม่สวย แต่มากไปยิ่งแล้วใหญ่ และรู้ไหมว่า แทบทุกการผิดพลาดส่วนใหญ่มักมาจากการแต่งมากไปมากกว่าแต่งน้อย ในกรณีของเหล่าดารา การพยายามใช้สีสันมากและหลากหลายจนเกินไป ในบางครั้งอาจดูเป็นงานศิลป์เมื่ออยู่บนรันเวย์หรือหน้านิตยสาร เช่น ซูเปอร์โมเดลตัวแม่อย่าง ไทรา แบงส์ หรือ คริสตินา อากิเลรา และ เลตัน มีสเตอร์ แต่การจะแต่งออกมาพบปะผู้คนจริงๆ อาจไม่ได้สวยดังที่คุณคิดนี่สิ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สีตาและปากแข่งกัน อีกทั้งอายแชโดว์ก็เบลนด์ได้เลอะเทอะหรือเกลี่ยไม่สุด ต่อให้หน้าสวยเป๊ะอย่างไร หากไม่เป๊ะทุกกระเบียดนิ้ว ก็พลาดเรื่องนี้กันมานักต่อนัก
Fix It: อย่างที่บอกว่า แต่งทีละน้อย แล้วค่อยๆ เติมเมื่อต้องการสีสันที่ชัดยิ่งขึ้น การเลือกใช้และบาลานซ์สีก็เป็นเซนส์ที่จำเป็น เช่น เมื่อตาหนัก ปากควรเบา หรือปากจัดมาก ตาก็ควรปล่อยเปลือย โทนสีที่ไม่เข้ากันก็ควรเลี่ยง เลือกมาจับรวมกัน อายแชโดว์เกิน 3-4 สีนี่แหละตัวดี หากไม่มือฉมังจริงๆ เอาอยู่ยาก ดังนั้น ทางเซฟสำหรับมือใหม่คือ การใช้สีที่เป็นธรรมชาติหรือโทนนู้ดไว้ก่อน เข้าได้กับทุกอย่าง
คอนทัวร์หนักมือ
อีกครั้งที่การ ‘ทำเกินไป’ กลับทำร้ายเจ้าตัวมากกว่าผลดี การคอนทัวร์คือการเล่นกับแสงและเงา สร้างกรอบหน้า มิติ และโครงหน้าให้ดูลงตัวยิ่งขึ้น ตรงไหนอยากให้เด่น ตรงไหนอยากให้ปกปิด ส่วนใหญ่แล้วสาวๆ จะเน้นคอนทัวร์ช่วงดั้งจมูกและแนวใต้โหนกแก้มเป็นหลัก เพื่อให้โครงหน้าดูสวยเป๊ะ แก้มตอบเบาๆ แลดูกระชับ แต่ก็สุ่มเสี่ยงอีกเช่นกัน เมื่อเลือกใช้สีสันที่ไม่ใช่ (ส่วนใหญ่คือเข้มไป) เหมือนกับ จูเลียนา แรนซิค ในรูป ใช้ผลิตภัณฑ์มากไป และเบลนด์ไม่ดีพอ ผลก็คือ แก้มฟาดมอมแมมเป็นแถบริ้วๆ และดั้งจมูกที่ในแวดวงความงามเขาเรียกว่า เหมือนภาพวาดสันเขื่อนนั่นเอง
Fix It: เพราะไม่มีใครควรต้องคอนทัวร์ใบหน้าหนักมือจนเห็นเป็นริ้วขนาดนั้น ดังนั้น เราจึงควรยับยั้งชั่งมือ รู้ว่าเมื่อไรควรหยุด แล้วค่อยเติมเอาทีหลังได้จะดีกว่า ส่วนวิธีการแก้ไขก็เช่นเดิมคือ เริ่มใช้แต่น้อย และสำหรับผิวคนเอเชีย พยายามเลี่ยงการใช้คอนทัวร์ในโทนส้ม เพราะผิวของสาวเอเชียส่วนใหญ่เป็นโทนอบอุ่นอยู่แล้ว เปลี่ยนเป็นโทนเบจอมเทาจะสวยกว่า และก่อนออกจากบ้าน ลองถ่ายเซลฟีดูก่อน แล้วตัดสินจากรูปว่าโอเคแล้วหรือยัง เชื่อเราสิ
ไฮไลต์ (ยัง) ไม่เข้าที่
คล้ายๆ กับการคอนทัวร์ตรงที่ว่าการ ‘Bake’ หรือใช้แป้งปัดทับลงที่บริเวณลงไฮไลต์ เพราะอยากให้ผิวดูสว่าง สดใส โดยเฉพาะช่วงรอบดวงตา ใต้คอนทัวร์ข้างแก้ม และปลายจมูกนั่นเอง แต่แม้แต่คนดังที่อยู่ภายใต้การดูแลของมืออาชีพก็ยังมีพลาดด้วยเช่นกัน นั่นคือการใช้แป้งหรือคอนซีลเลอร์ที่สว่างเกินไป ที่เมื่อพอเจอกับแสงไฟและแสงแฟลชแล้วคราบแป้งลอยๆ จะมีมาให้เห็นเสมือนว่าแป้งฝุ่นที่ปัดทิ้งไว้ ยังไม่ได้เกลี่ยให้เซตเข้ากับผิวดีเลยด้วยซ้ำ เหมือนฟาดแป้งมาแล้วเดินออกจากบ้านเลยนั่นแหละ และขอบอกว่า ดาราดังก็เข็ดขยาดจากการพลาด ปรากฏหราไปทั่วโลกมาแล้ว ทั้ง นิโคล คิดแมน, ดรูว์ แบร์รีมอร์, เอวา ลองโกเรีย กระทั่ง แอนเจลินา โจลี!
Fix It: ความพลาดนี้เกิดขึ้นบ่อย (มากพอๆ กับที่สาวไทยชอบใช้รองพื้นสว่างกว่าผิวหน้า จนแลดูหน้าลอยนั่นเอง) เพราะแทนที่จะช่วยให้ผิวดูสว่างกระจ่างใส กลับกลายเป็นลอยออกมาแทน ดังนั้น เราจึงควรเลือกสีที่ตรงกับเฉดสีผิวจริงๆ หรือถ้าเป็นช่วงใต้ตาที่ต้องใช้คอนซีลเลอร์สว่างกว่า ก็ไม่ควรเกิน 1-2 เบอร์ ใช้แป้งให้น้อย และก่อนลุกออกจากโต๊ะเครื่องแป้ง ลองใช้สมาร์ทโฟนส่องแฟลชมาที่ผิว แล้วเช็กงานหน้ากระจกอีกที ถ้าให้ดีก็ลองถ่ายรูปด้วยแฟลชไปเลยว่าลอยหรือไม่ วิธีนี้ช่วยได้โข
ภาพ: Getty Images, Splash News
พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล
