เชื่อว่าตอนนี้ไม่มีใครบอกแล้วว่ากีฬาซีเกมส์เงียบ หรือ ไม่มีกระแส เพราะตอนนี้กระแสของมหกรรมกีฬาแห่งภูมิภาคตะวันออกเฉียงใต้ครั้งที่ 33 เต็มหน้าฟีดหลายคนอย่างแน่นอน
เพียงแค่เป็นกระแสที่เชื่อว่าไม่มีใครอยากให้เกิดนัก เพราะเป็นเสียงวิจารณ์อย่างหนัก จากข่าวสารที่ทยอยออกมาสะท้อนให้เห็นอย่างต่อเนื่อง ถึงความไม่พร้อม แม้ว่าการแข่งขันจะเริ่มต้นไปแล้วเมื่อวันที่ 3 ธันวาคม และจะมีพิธีเปิดอย่างเป็นทางการในวันที่ 9 ธันวาคมนี้ที่ ราชมังคลากีฬาสถาน
ตอนนี้ผมเองอาจจะไม่อยากต่อว่าอะไรกับทีมงานที่กำลังพยายามทำงานกันอย่างเต็มที่ เพราะเข้าใจว่าพองานมันต้องเสร็จ และ ทิศทางกำหนดมาแล้วว่าต้องทำอะไรให้ทันกรอบเวลาที่จำกัดขนาดนี้บ้าง มันยากลำบากขนาดไหน และผลที่ออกมา แน่นอนว่า ด้วยเวลาที่จำกัดขนาดนี้ มันไม่มีใครทำออกมาได้ดีที่สุดอยู่แล้ว
แต่สิ่งที่ผมสงสัยมากๆ คือ ตั้งแต่วันที่เรานึกคิดจะเป็นเจ้าภาพ ซีเกมส์ครั้งนี้ เราตัดสินใจเสนอตัวไปเพราะอะไร?
เพราะว่าทุกมหกรรมกีฬาที่ประสบความสำเร็จ ในประวัติศาสตร์ WHY หรือ เหตุผลที่เขาลงทุน ลงแรง และ คนในประเทศ สนับสนุนให้จัด มันมีเหตุผลที่สำคัญมากๆ ในการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน
ญี่ปุ่น 1964 เจ้าภาพโอลิมปิกครั้งแรกของเอเชีย Tokyo 1964 พวกเขาต้องการเปิดประเทศใหม่ในฐานะชาติที่กลับมาแล้วจากความพ่ายแพ้ในสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยสุดท้ายโอลิมปิกเกมส์ครั้งแรกในเอเชียที่ญี่ปุ่นได้รับการยกย่องด้วยนิตยสาร LIFE ให้เป็นโอลิมปิกเกมส์ที่ดีที่สุดที่เคยมีมา
LA 1984 โอลิมปิกเกมส์ที่เต็มไปด้วยปัญหา คนในเมืองไม่เอาด้วยตอนแรก งบไม่มีจะจัด แต่ประธานจัดการแข่งขัน Peter Ueberroth ใช้หลักการบริหารแบบนักธุรกิจ จัดการจนการแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ครั้งนั้นกลายเป็น Iconic ทั้งธีม โลโก้ และ เป็นไม่กี่ครั้งในประวัติศาสตร์ ที่เจ้าภาพได้กำไรจากโอลิมปิก
มาใกล้ๆ อย่างจีน Beijing 2008 ก็ชัดเจนว่าพวกเขา ต้องการแสดงศักยภาพของประเทศผ่าน มหกรรมกีฬาที่ใหญ่ที่สุดในโลก รวมถึงสิงคโปร์ ที่จัดยูธโอลิมปิกไปแล้ว ก็สามารถจัดซีเกมส์ 2015 ที่ได้รับการยกย่องว่าดีที่สุดตลอดกาล
สิ่งหนึ่งที่พูดมาทั้งหมด เจ้าภาพทั้งหมดมีอะไรเหมือนกันรู้ไหมครับ? Branding ของประเทศ ที่ถูกพูดผ่านการจัดงานใหญ่ขนาดนี้ไงครับ ว่าพวกเขาน่าเชื่อถือขนาดไหนในเวทีโลก
ตอนที่ผมทำ โอลิมปิกเกมส์ 2020 ที่โตเกียวเป็นเจ้าภาพ ในรายงานการนำเสนอโปรเจ็กต์ โอลิมปิก จากสำนักข่าวต่างประเทศ
เขานำเสนอไปในทิศทางเดียวกันว่า ญี่ปุ่นต้องการใช้มหกรรมกีฬาโอลิมปิกประกาศว่า พวกเขา กลับมาแล้ว แม้ว่าจะเจอโควิดเล่นงาน พวกเขายังทำออกมาได้อย่างดีเยี่ยม
กลับมาที่ไทยที่ต้องถามดังๆ ว่าทำไม? เพราะว่า ถ้าเราอยากจัดโดยยังตอบไม่ชัดว่าทำไปทำไม เสนอตัวเป็นเจ้าภาพซีเกมส์ไปทำไม เชื่อว่านี่ก็เป็นเหตุผลหนึ่งนำพาเรามาสู่จุดนี้ที่เต็มไปด้วยความสับสน และคำถามว่า ทำไมเราถึงดูไม่พร้อมขนาดนี้
ซีเกมส์เป็นมหกรรมกีฬาที่เล็กที่สุดหากเทียบกับ เอเชียนเกมส์ และ โอลิมปิก แต่ในความเป็นจริงแล้ว ถือว่าเป็นการแข่งขันที่มีความสำคัญต่อไทย (ในฐานะผู้ริเริ่ม) และ ประเทศในภูมิภาค เพราะนี่คือเวทีที่จะใช้สำหรับการสนับสนุนนักกีฬารุ่นใหม่ ได้แข่งขันในระดับมหกรรม และ สร้างความสัมพันธ์ระหว่างผู้คนของแต่ละประเทศ
ซึ่งไทยในฐานะคนที่ริเริ่มไอเดียการมีซีเกมส์ นับว่ามีความรับผิดชอบสำคัญต่อมหกรรมกีฬาชนิดนี้มาก เพราะจะมีใครสนใจและให้ความสำคัญกับไอเดียไปมากกว่า คนที่นำเสนอขึ้นมาเอง
ภาพสะท้อนที่ชัดเจนอีกอย่างคือ เหมือนกับที่ ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการกีฬาแห่งประเทศไทย โฟนอินในรายการกรรมกรข่าวคุยนอกจอ ที่ระบุว่า
“ปัญหาหลักจริงๆ คือความไม่แน่นอนทางการเมืองในไทย พอมีการเปลี่ยนแปลง นโยบายเปลี่ยน การทำงานของผู้ปฏิบัติก็เปลี่ยน การเมืองชุดนี้ รัฐมนตรี รองนายกฯ มีความมุ่งมั่นอย่างหนักให้เรียบร้อย ขอบคุณรัฐบาลชุดนี้ที่มีการเข้ามาช่วยแก้ปัญหาได้ทันเวลา”
ซึ่งถ้าเป็นอย่างที่ ผู้ว่าการกีฬาแห่งประเทศไทยกล่าว แสดงว่าการเมืองไทย มีผล อย่างมากต่อการสนับสนุน และพัฒนากีฬาภายในประเทศ
เพราะมหกรรมกีฬาลักษณะนี้ คือโอกาสสำคัญในการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับประเทศไทย ทั้งผลงานนักกีฬาในสนาม และ การบริหารจัดการการแข่งขันที่ดีที่จะเป็น Branding ของประเทศต่อไปในการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพอีเวนต์อะไรก็ตามในอนาคต และที่สำคัญคือการสร้างความน่าเชื่อถือบนเวทีระดับสากล
วันนี้แม้ว่าจะเต็มไปด้วยคำถามกับซีเกมส์ 2025 แต่คำตอบหนึ่งที่เราได้รับ และเป็นความจริงที่น่าเสียใจมากสำหรับคนที่ชื่นชอบ และสนับสนุนกีฬาไทยคือ จริงๆ แล้ว ประเทศเราให้ความสำคัญกับการกีฬามากน้อยแค่ไหน จากผลการจัดการที่ออกมาในตอนนี้
และหากไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง เราคงจะมีโพสต์ของผู้คนที่เต็มไปด้วยความอึดอัด เสียใจ และ เสียดาย ที่คนที่มีสิทธิ์ตัดสินใจอะไรที่สำคัญต่อกีฬาในประเทศนี้ ยังไม่เห็นโอกาสที่แท้จริงของการสนับสนุนให้กีฬาไทย มีมาตรฐาน และเติบโตได้อย่างที่เราควรจะเป็น
เพราะจะบอกนักกีฬาไทยไม่มีศักยภาพ ก็คงเป็นคำโกหก เพราะ เรามีมือหนึ่งของโลกตั้งกี่ชนิดกีฬาแล้ว แต่พอต้องจัดมหกรรมกีฬาระดับภูมิภาค เราจัดให้ดีพอสำหรับภูมิภาค ทำไมเราถึงดูไม่พร้อมได้ขนาดนี้?
