‘เกมอาจจะเปลี่ยนเล็กน้อยนะครับ’ จาก 42 เหลือ 24 กับโทษ DQ ที่พลิกผัน

ไม่ต้องให้ใครบอก แต่ทีม แมคลาเรน ก็น่าจะรู้ดีเลยว่า สัปดาห์การแข่งขันที่ ลาสเวกัส สตริป เซอร์กิต น่าจะเป็นสัปดาห์ที่ยากลำบากสำหรับพวกเขา แต่ก็คงไม่มีใครคิดว่า ตอนจบของสัปดาห์นี้ จะจบลงได้ย่ำแย่กว่าคำว่ายากลำบาก

การแข่งขันภายใต้สนามแข่งแบบทวนเข็มนาฬิกา ความยาว 6.120 กิโลเมตร 17 โค้ง ซึ่งมีทางตรงยาว 1.9 กิโลเมตร และทำความเร็วสูงสุดเกิน 350 กิโลเมตร/ชั่วโมง ซึ่ง แม็กซ์ เวอร์สแตพเพน เคยคว้าชัยมาแล้วสนามนี้ บอกได้ดีว่า แมคลาเรน มีงานยากไหน

การจบอันดับ 2 ของ แลนโด นอร์ริส ในตอนแรก จึงเป็นผลงานที่น่าพึงพอใจ เพราะนั่นทำให้ นักขับชาวอังกฤษ มี 408 คะแนน นำห่างเพื่อนร่วมทีมอย่าง ออสการ์ ปิอัสตรี เพิ่มเป็น 30 คะแนน และนำ ซูเปอร์แม็กซ์ 42 แต้ม

ช่องว่างดังกล่าว มากพอที่จะทำให้ แมคลาเรน สบายใจได้ว่า แชมป์โลกในประเภทนักขับ ก็น่าจะอยู่ในมือพวกเขา หากไม่มีฟ้าผ่าขึ้นใน 2 สนามสุดท้าย ทั้งที่กาตาร์ และ อาบูดาบี

แต่ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงไปทันที ทันทีที่โทษตัดสิทธิ์รถแข่งทั้ง 2 คันของทีมแมคลาเรนได้รับการยืนยัน

รถแข่งทั้งสองคันถูกตรวจสอบหลังการแข่งขันและพบว่าแผ่นกระดานที่อยู่ใต้ท้องรถของทั้งสองคันมีความหนาน้อยกว่าขั้นต่ำที่กฎกำหนด

แผ่นกระดานที่อยู่ใต้ท้องรถ หรือ ‘Plank’ คือวัสดุที่ถูกควบคุมอย่างเคร่งครัดที่ติดตั้งอยู่ใต้ท้องรถ มีความหนา 10 มิลลิเมตรพอดี และถูกออกแบบมาเพื่อควบคุมความสูงของรถจากพื้น กฎอนุญาตให้ความหนาของแผ่นสึกหรอได้ไม่เกิน 1 มิลลิเมตร ตลอดระยะทางการแข่งขัน

รถแข่งทั้งสองคันของแมคลาเรน ถูกตรวจพบว่าแผ่นกระดานที่อยู่ใต้ท้องรถ มีการสึกหรอระหว่าง 1.07 มิลลิเมตร ถึง 1.12 มิลลิเมตร ณ จุดวัดสองจุดที่แตกต่างกัน ในทางเทคนิคตามกฎแล้ว ไม่มีคำว่าการฝ่าฝืนบางส่วน เพราะรถจะถือว่าถูกหรือไม่ถูกกฎไปเลย

นั่นเองนำมาสู่คำตัดสิน DQ รถทั้ง 2 คันของทีมมะละกอ

ผลที่ตามมา เปลี่ยนโฉมการแข่งขันใน 2 สนามที่เหลือไปแบบหน้ามือเป็นหลังมือ เพราะจากช่องว่างที่ แลนโด นอร์ริส ควรจะห่างจากแชมป์เก่า และผู้ที่กำลังตามไล่ล่าอย่าง แม็กซ์ เวอร์สแตพเพน 42 แต้ม หดเหลือ 24 แต้มทันที

ข่าวดีสำหรับ แมคลาเรน และ แลนโด คือ แม้ช่องว่างของพวกเขาจะลดลงเหลือ 24 แต้ม แต่ หากเขาทำคะแนนบนโพเดียมในการแข่งขันสองเรซสุดท้าย ไม่ว่าจะตำแหน่งใดก็ตาม ก็จะรับประกันตำแหน่งแชมป์โลกของเขาในฤดูกาลนี้ ตราบที่เขาสามารถจบใน 4 อันดับแรกในการแข่งขันสปรินต์เรซที่กาตาร์

สำหรับ ออสการ์ ปิอัสทรี จากเดิมที่ช่องว่างของเขาจะห่างจาก แลนโด 30 แต้มและมีโอกาสชิงแชมป์เกือบจะหมดไป ก็ลดกลับมาเหลือ 24 แต้ม แม้จะไม่ง่ายในการไล่ล่าใน 2 เรซสุดท้าย แต่ความเป็นไปได้ก็ยังคงอยู่

คนที่ได้ประโยชน์ที่สุดจากผลการตัดสินที่เกิดขึ้น เห็นจะหนีไม่พ้นแชมป์เก่าอย่าง แม็กซ์

การตัดสินนี้เป็นการเพิ่มโอกาสอย่างมหาศาลให้กับเขา เพราะลดช่องว่างจากก่อนแข่งขันที่ 49 คะแนนลงมาเหลือเพียง 24 คะแนนเท่ากับปิอัสทรี

แม้ว่าในความจริงแล้ว สถานการณ์ของ แม็กซ์ ยังคงไม่ง่ายในการป้องกันแชมป์ และหมายเลข 1 ของเขา ก็มีโอกาสหลุดมือไปหลังจบฤดูกาลนี้มากกว่าอยู่กับเขาต่อไป

แต่ผลงานของเขาในช่วงครึ่งหลังของฤดูกาล โดยเฉพาะตั้งแต่เรซที่ 15 เป็นต้นมา นับได้ว่า ดีที่สุดในบรรดานักขับ F1 ทั้งหมดในตอนนี้

เวอร์สแตพเพน เก็บไป 179 คะแนน ซึ่งสูงกว่า นอร์ริส ที่ทำได้ 115 คะแนน และ ปิอัสทรี ที่ทำได้ 82 คะแนน อย่างเห็นได้ชัด

จากสนามที่ 15-22 ซูเปอร์แม็กซ์ ทำเฉลี่ยเรซละ 22.4 คะแนน และหากอิงตัวเลขนี้ เขามีโอกาสที่จะจบฤดูกาลด้วยคะแนนราว 411 คะแนน ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับ แลนโด ว่า เขาจะทำได้ดีกว่านี้หรือไม่

นอกจากเรื่องของการลุ้นแชมป์แล้ว ชัยชนะที่ลาสเวกัสเป็นชัยชนะครั้งที่ 69 ในอาชีพของเขา อัตราความสำเร็จในการชนะของเขาอยู่ที่ 29.87% ซึ่งสูงกว่า มิชาเอล ชูมัคเกอร์ ที่มีค่าเฉลี่ยคว้าชัยอยู่ที่ 29.64% ไปแล้ว

แถมในตอนนี้ รถของ เรดบูลล์ ภายใต้การขับขี่ของ แม็กซ์ เวอร์สแตพเพน ดูเหมือนจะเร็วกว่ารถของแมคลาเรนอยู่เล็กน้อยด้วย

โดยเรื่องนี้เอง แม้แต่ อันเดรีย สเตลลา ทีมบอสของ แมคลาเรน ยอมรับก่อนการตัดสิทธิ์ว่า แม๊กซ์ในรถของ เรดบูลล์ เป็นคู่ที่เร็วกว่า เมื่อเทียบกับคู่ของแลนโด นอร์ริส และ ออสการ์ ปิอัสทรี ในรถแมคลาเรน

แม้ปัจจุบัน แลนโด นอร์ริส ยังคงนำอยู่ในตารางคะแนนนักขับ ด้วยคะแนนที่เหลือให้เก็บเพียง 58 แต้ม (จากรายการที่กาตาร์และอาบูดาบี) ความได้เปรียบ 24 คะแนนถือว่าอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่มั่นคงอย่างมาก

พร้อมกันนั้นการตัดสิน DQ ครั้งนี้ จึงกลายเป็นโมเมนตัมสำคัญของ แม็กซ์ เวอร์สแตพเพน อย่างยากจะปฏิเสธ

ในขณะเดียวกัน แมคลาเรน นอกจากจะต้องทำผลงานให้ดีภายใต้ความกดดันที่มากขึ้นแล้ว สิ่งสำคัญที่ห้ามเกิดขึ้นอีก คือความผิดพลาดที่ไม่จำเป็น

ใดๆ ก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นแฟน เรดบูลล์ หรือ แมคลาเรน สิ่งที่เกิดขึ้นอยู่ในตอนนี้ นับเป็นกำไรสำหรับคนดูอย่างเราๆ ท่านๆ ทุกคน ที่จะได้ดูการลุ้นแชมป์โลกประเภทนักขับต่อไป

ไม่ว่ามันจะจบที่ กาตาร์ หรือ อาบูดาบี ก็ ตาม….

อ้างอิง