วันนี้ (25 สิงหาคม) สุชาติ ตันเจริญ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงกรณีปัญหาของหลวงพ่ออลงกต วัดพระบาทน้ำพุ จังหวัดลพบุรี ที่มีข้อสงสัยเกี่ยวกับข้อมูลส่วนตัวและการบริหารจัดการเงินบริจาค โดยระบุว่าจากข้อมูลที่พบว่าเลขบัตรประชาชนไม่ตรงกับใบสุทธิ, วันเดือนปีเกิดคลาดเคลื่อน, และการใช้ชื่อ เกรียงไกร รวมถึงการผูกพร้อมเพย์เข้าบัญชีมูลนิธิแทนที่จะเป็นบัญชีวัด ล้วนเป็นประเด็นที่ต้องตรวจสอบอย่างละเอียด
สุชาติกล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นตัวจุดประกายให้ต้องมีการปฏิรูปวงการพุทธศาสนาอย่างเร่งด่วน โดยเฉพาะการตรวจสอบสำนักพุทธศาสนาประจำจังหวัด โดยเฉพาะกรณีของจังหวัดลพบุรีที่ปล่อยให้สถานการณ์รุนแรงและยืดเยื้อมานานหลายปี ทั้งที่นักข่าวและประชาชนทราบข้อมูล แต่ผู้อำนวยการสำนักพุทธฯ ประจำจังหวัดกลับไม่ทราบเรื่อง
รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ จึงเตรียมสั่งการให้ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ตั้งคณะกรรมการสอบสวนผู้อำนวยการสำนักพุทธฯ ลพบุรี ที่มีความหย่อนยานและบกพร่องในการทำงานอย่างชัดเจน และอาจพิจารณาย้ายไปปฏิบัติหน้าที่ที่สำนักงานพุทธมณฑลแทน
สุชาติยอมรับว่าปัญหาความเสื่อมในวงการสงฆ์ทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ จึงถึงเวลาที่ต้องสังคายนาครั้งใหญ่ เริ่มจากการสังคายนาเจ้าหน้าที่สำนักพุทธฯ ก่อนที่จะขยายไปถึงวงการสงฆ์ โดยกล่าวถึงแนวคิดที่ต้องปรึกษามหาเถรสมาคมเพื่อพิจารณาให้พระภิกษุทั่วประเทศยินยอม ให้ตรวจเลือด, ตรวจปัสสาวะ, และตรวจสอบทรัพย์สินก่อนบวช ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญที่ทำให้พระหลายรูปต้องเสื่อมเสีย
ย้ำว่าการแก้ไขปัญหาที่มีมานานนับร้อยปีต้องใช้เวลาและความร่วมมือจากทุกฝ่าย โดยเฉพาะมหาเถรสมาคมในฐานะผู้ปกครองสงฆ์ เพื่อเรียกความศรัทธาของชาวพุทธให้กลับคืนมาอีกครั้ง
