การแข่งขันในโลกธุรกิจต่อจากนี้จะวัดกันที่ใคร ‘เข้าใจ เข้าถึง และให้ประสบการณ์ที่ดีกว่า’
โดยเฉพาะช่วงภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวทุกคนต่างแสวงหา ‘ความสุขบนความคุ้มค่า’ และรอ ‘จังหวะที่ใช่’ ในการจับจ่าย
ธุรกิจไหนที่เข้าใจลูกค้า นำอินไซต์มาวิเคราะห์พฤติกรรมและความชอบของลูกค้าได้ก่อน ใช้ข้อมูลแบบเรียลไทม์ตอบสนองการเปลี่ยนแปลงของตลาดอย่างรวดเร็ว และสามารถจับเทรนด์การตลาดมาพัฒนาแคมเปญที่ตอบโจทย์ลูกค้าเฉพาะบุคคลได้ทันท่วงทีย่อมมีโอกาสที่จะเข้าไปอยู่ในชีวิตของพวกเขามากขึ้น
‘ทรู คอร์ปอเรชั่น’ คือหนึ่งในแบรนด์ที่ทำโจทย์นี้ได้ดีเสมอมา ส่วนหนึ่งเพราะแบรนด์ขับเคลื่อนธุรกิจบนแนวคิด ‘Customer Obsession’ ลูกค้าเป็นหัวใจของทุกการขับเคลื่อน มุ่งสร้างประสบการณ์ดิจิทัลที่เข้าใจลึกซึ้ง รู้ใจ ใส่ใจและให้จริง
ไม่ใช่แค่ใส่ใจ แต่คือการฟังอย่าง ‘เข้าใจ เข้าถึง และลงมือทำอย่างจริงใจ’ เพื่อมอบความสุขในทุกช่วงเวลาของลูกค้า
นำไปสู่การขับเคลื่อนกลยุทธ์ ‘YOUR HAPPINESS FIRST เพราะรอยยิ้มของคุณ คือที่หนึ่ง’ หรือการตลาดเชิงความสัมพันธ์ที่นำเทคโนโลยีมาสร้างความสุขที่จับต้องได้ ทำให้ลูกค้ามีชีวิตที่ดีขึ้น สะดวกสบายมากขึ้น หยิบอินไซต์จริงที่ได้วิเคราะห์พฤติกรรมลูกค้าเพื่อออกแบบบริการแบบ Hyper-personalization ผ่าน 3 แคมเปญความสุข 1. สุข…กับแพ็กเกจให้ชีวิตบันเทิงกว่าที่เคย 2. สุข…ลุ้นล้าน ใช้ชีวิตดิจิทัลง่ายขึ้นผ่าน True App และ 3. สุข…กับเซอร์ไพรส์ ขอบคุณลูกค้า ยิ่งอยู่นาน ยิ่งรักกัน
คลี่กลยุทธ์ ‘YOUR HAPPINESS FIRST เพราะรอยยิ้มของคุณ คือที่หนึ่ง’ เปลี่ยนเทรนด์เป็นโอกาส
“การให้ความสำคัญกับเทรนด์และข้อมูลการใช้งานต่างๆ ของลูกค้าที่ปรับเปลี่ยนไปในหลากหลายมิติ รวมทั้งการใส่ใจข้อมูลอินไซต์ของลูกค้า ทำให้เราสามารถออกแบบแคมเปญที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์และสร้างรอยยิ้มให้กับลูกค้าทั่วประเทศ” ฐานพล มานะวุฒิเวช หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านการตลาด บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าว พร้อมฉายภาพเทรนด์ของผู้บริโภคยุคใหม่พบว่า 80% ของผู้บริโภคช่วงอายุ 18–45 ปี ใช้มือถือเป็นช่องทางหลักในการเสพสตรีมมิ่ง สอดคล้องกับตัวเลขการรับชมคอนเทนต์สตรีมมิ่งผ่านมือถือและอุปกรณ์เชื่อมต่อเติบโต 54% เพิ่มขึ้นจากเดิม 36%
“เทรนด์ความสุขของลูกค้าจะให้ความสำคัญอย่างมากกับประสบการณ์การเชื่อมต่อระหว่างออนไลน์และออฟไลน์ที่ต้องเป็นไปอย่างราบรื่นไร้รอยต่อในทุกดิจิทัลไลฟ์สไตล์ ผ่านเครื่องมือต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น สมาร์ททีวี แท็บเล็ต เนื่องจากใช้งานง่าย สะดวก ใช้ได้ทุกที่ทุกเวลา โดยเฉพาะกลุ่ม Gen Z และกลุ่มมิลเลนเนียล”
ฐานพล ชี้ให้เห็นว่า สิ่งที่เติบโตควบคู่กันคือ ตลาด Loyalty Program ระหว่างปี 2024-2029 เติบโตเพิ่มขึ้น 17% และกว่า 70% ของคนไทยใช้จ่ายมากขึ้นเมื่อได้เป็นสมาชิกกับแบรนด์
“ตัวเลขที่น่าสนใจคือ จำนวนผู้ที่ใช้บริการดิจิทัลแบบจ่ายค่าบริการสูงถึง 25 ล้านคน ซึ่งมีค่าใช้จ่ายเฉลี่ย 250 บาทต่อเดือน”
เมื่อเจาะอินไซต์ให้ลึกขึ้นยังพบว่า 21.6% จ่ายค่าบริการเพื่อดูหนังและทีวีแบบ Subscription (SVOD) โดยมีการใช้บริการดิจิทัล 2-4 บริการต่อคน มีการคาดการณ์ว่าจะเติบโตไปที่ 35.7% ภายในปี 2027 โดย 5 อับดับแรก ของบริการด้านดิจิทัลที่คนไทยจ่ายเงิน Subscription ได้แก่ SVOD TV & Film 82% Music 51% Food Delivery 46% Sports 36% และ Gaming 30%
“ทรูไม่ได้ขายแค่ผลิตภัณฑ์หรือบริการแต่เราออกแบบระบบนิเวศที่เชื่อมโยงผู้ใช้กับประสบการณ์ในทุกจุดสัมผัส โดยมีเป้าหมายที่จะยกระดับประสบการณ์ลูกค้า ถ้าเราตอบโจทย์สิ่งที่ลูกค้าต้องการได้ จะทำให้ลูกค้าพึงพอใจและอยากอยู่กับเราต่อไป ภารกิจ ‘YOUR HAPPINESS FIRST เพราะรอยยิ้มของคุณ คือที่หนึ่ง’ ในครั้งนี้ เราได้นำเทคโนโลยีมาเป็นเครื่องมือผสานระหว่าง AI, Data และ Content เพื่อเปลี่ยนจากการเป็น Cognitive Telco สู่ Digital Life Partner นอกจากนั้นยังจับมือกับพาร์ทเนอร์ที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านมาร่วมสร้างประสบการณ์สุดพิเศษให้กับลูกค้าไปด้วยกัน”
เสาหลักความสุขที่ออกแบบจากอินไซต์จริงสู่ ‘3 แคมเปญความสุข’
ความสุขที่จับต้องได้ของทรูภายใต้ภารกิจ ‘YOUR HAPPINESS FIRST เพราะรอยยิ้มของคุณ คือที่หนึ่ง’ จะส่งมอบผ่าน 3 แคมเปญที่ดีไซน์จากความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง ดึงอินไซต์ของลูกค้ามาใช้ในการสร้างสรรค์ ด้วยความใส่ใจถึงความต้องการที่แท้จริงของลูกค้าทรูและดีแทคทั่วประเทศ ทั้งการออกแบบแพ็กเกจ พัฒนาแพลตฟอร์มดิจิทัล และกิจกรรมขอบคุณลูกค้าพร้อมมอบสิทธิพิเศษตลอดทั้งปี
1.ความสุขจากการรวมทุกบริการสตรีมมิ่งไว้ในที่เดียวสู่ ‘5G Super Max’ แพ็กเกจรวมความคุ้มค่า
หนึ่งในอินไซต์สำคัญจากการศึกษาพฤติกรรมผู้บริโภค คือความต้องการให้บริการสตรีมมิ่งหลากหลายถูกรวมอยู่ในที่เดียว ซึ่งถือเป็นโจทย์สำคัญที่ทรู ให้ความสำคัญในการออกแบบประสบการณ์ดิจิทัล ด้วยการนำกลยุทธ์ Telco + Content ผสานจุดแข็งของโครงข่ายคุณภาพของทรูเข้ากับคอนเทนต์ระดับโลกอย่างกลมกลืน เพื่อสร้างประสบการณ์ที่แตกต่าง
สกลพร หาญชาญเลิศ หัวหน้าสายงานโพสต์เพย์ บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เผยว่า กลยุทธ์ Telco + Content เป็นการจับมือกับพันธมิตร OTT ที่ติด Top 5 สตรีมมิ่งระดับโลกยอดนิยมในไทย อย่าง Netflix, YouTube และ iQIYI เพื่อออกแบบแพคเกจใหม่มาตอบโจทย์ผู้บริโภค อย่าง ‘5G Super Max’ แพ็กรวมความคุ้มค่าที่เชื่อมโยงชีวิตจริงกับคอนเทนต์ ภายใต้แนวคิด ‘Life-entertainment’ ให้ชีวิตเป็นเรื่องบันเทิง อย่างแท้จริง’
“Netflix เป็นแพลตฟอร์มที่มีคอนเทนต์หลากหลายเป็นอันดับต้นๆ และมีคอนเทนต์ที่ตอบโจทย์ทุกเพศ ทุกวัย ส่วน YouTube เห็นได้ชัดว่ามีผู้ใช้บริการทั่วประเทศ ในขณะที่เราเป็นเจ้าของช่อง True Visions NOW POP ก็จะรู้ว่าคนนิยมดูกีฬาอะไรบ้าง ทั้งหมดนี้นำไปสู่การออกแบบ ‘5G Super Max’ แพ็กรวมความคุ้มค่า นำสิ่งที่เรารู้ใจลูกค้ามาเสิร์ฟให้ทันที”
‘สมัครง่าย จ่ายสะดวก’ ก็เป็นสิ่งที่ลูกค้ามองหา สกลพรบอกว่าที่ผ่านมาบริการ ‘TRUE DTAC Pay’ เข้ามาตอบโจทย์ได้อย่างดี ยืนยันจากตัวเลขลูกค้าใช้บริการ TRUE DTAC Pay มากถึง 51% มองว่าช่วยให้การชำระเงินง่ายและสะดวกขึ้น
“TRUE DTAC Pay คือบริการชำระค่าบริการผ่านเบอร์มือถือบนแพลตฟอร์ม App Store หรือ Google Pay อินไซต์ที่ได้จากลูกค้าจริงพบว่า ที่ลูกค้าเลือกใช้บริการนี้มากถึง 40% รู้สึกมั่นใจเพราะมีความปลอดภัยสูง ด้วยระบบ OTP และกว่า 34% สะดวกเพราะไม่ต้องใช้บัตรเครดิตหรือแอปฯ อื่นๆ สามารถรวมทุกค่าใช้จ่ายไว้ในบิลเดียว เชื่อว่า TRUE DTAC Pay จะเข้ามามีบทบาทกับลูกค้ามากขึ้นอย่างแน่นอน”
แพ็กเกจ ‘5G Super Max’ แพ็กรวมความคุ้มค่า
- ต่อที่ 1: เน็ต–โทร ครบจบในแพ็กเดียว แพ็กเกจเริ่มต้นที่ 499 รับเพิ่มอินเทอร์เน็ตฟรี 5GB
- ต่อที่ 2: จัดเต็มความบันเทิงด้วย Top Streaming รับสิทธิ์ใช้งาน Netflix ฟรี หรือรวมความบันเทิง 2 แอป Netflix สตรีมมิ่งระดับโลกและ YouTube Premium / Music รับชมวิดีโอ ฟังเพลง แบบไม่มีโฆษณา เมื่อสมัครแพ็คเกจ 699 บาทขึ้นไป
- ต่อที่ 3: รับส่วนลด 100 บาท/เดือน เมื่อสมัครและใช้งานแอปดูบอลและกีฬาระดับโลกต่างๆ ที่กำหนด ผ่าน App Store หรือ Google Play และจ่ายชำระค่าบริการผ่านบริการ TRUE DTAC Pay ขั้นต่ำ 299 บาทขึ้นไป ครอบคลุมแอปดูกีฬาใดก็ได้จาก App Store, Google Play อาทิ NBA, beIN Sports ฯลฯ
นอกจากนี้ยังมีแพ็กเกจเสริม ‘iQIYI VIP Premium’ ในราคาพิเศษเพียง 119 บาท หรือ 1,200 บาทต่อปี ได้อัปเกรดประสบการณ์การรับชมสุดพรีเมียม พร้อมอินเทอร์เน็ต Max speed 5GB หรือ 30GB เฉพาะที่ทรูเท่านั้น ได้รับชมหนังหรือซีรีส์ที่คุณชื่นชอบแบบ 4K ดูได้พร้อมกัน 4 อุปกรณ์ บนระบบเสียง Dolby Atmos พร้อมความพิเศษ! ชมตอนจบตอนพิเศษได้ก่อนใคร จากแอปฯ iQIYI ที่สุดของความบันเทิงเพื่อคนรักซีรีส์สายเอเชียน
2. ความสุขจากการใช้ชีวิตดิจิทัลง่ายขึ้นผ่าน แอปทรู สู่แคมเปญ ‘แอปทรูใจดี แจกรถ แจกล้าน’
จากข้อมูลการใช้บริการ OTT App ของลูกค้าทรู ดีแทคมีการเติบโตเพิ่มขึ้น 19% จากปีที่ผ่านมา ปริมาณาการใช้อินเทอร์เน็ตบนมือถือเติบโต 29% ส่งผลให้จำนวนวันที่ลูกค้ารับชม OTT App เพิ่มขึ้น 10% และมีจำนวนผู้ใช้งาน OTT 2 แอปขึ้นไป เพิ่มขึ้น 11%
นิธิมนต์ สุธาวิวัฒน์ หัวหน้าฝ่ายดิจิตัลคอมเมิร์ซ และการตลาด บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เผยถึงแนวคิดเบื้องหลังการพัฒนา “แอปทรู” ที่มุ่งเป็น ศูนย์รวมบริการดิจิทัลแบบครบวงจร สำหรับลูกค้าทรู ดีแทค เกิดจากการวิเคราะห์พฤติกรรมการใช้บริการแอปทรู และแอปดีแทคตลอดหลายปีที่ผ่านมา เพื่อค้นหาว่าอะไรคือสิ่งที่ลูกค้าต้องการ นำไปสู่การรวมบริการของทั้งแอปทรู และแอปดีแทค เข้าไว้ด้วยการพัฒนาเป็น ‘แอปทรู รวมทุกเรื่อง ครบจบ ในที่เดียว’ มอบบริการให้สอดคล้องกับการใช้ชีวิตของคนยุคใหม่ เสมือนยกช้อปมาไว้ที่ปลายนิ้ว ภายใต้แนวคิด สะดวก รู้ใจ โดนใจ สบายใจ
“เมื่อต้นปีที่ผ่านมาเราเปิดตัว แอปทรู โฉมใหม่ พัฒนาความสะดวกสบายให้ลูกค้าทรูและดีแทคมากขึ้น ลูกค้าสามารถจ่ายบิลทั้งทรูและดีแทคได้ในครั้งเดียว และยังเพิ่มบิลได้ถึง 50 เบอร์ พร้อมทั้งสามารถชำระค่าบริการให้กับคนในครอบครัวได้ในครั้งเดียว” ช่วยประหยัดเวลาและขั้นตอนในการใช้งานได้อย่างมาก
นอกจากนี้ “เราเอาข้อมูลเชิงลึกและเทคโนโลยี AI เข้ามาวิเคราะห์พฤติกรรมและความชอบของผู้ใช้งานในแต่ละราย เพื่อออกแบบประสบการณ์เฉพาะบุคคล (Hyper-personalized) ทั้งในด้านการแนะนำบริการ การจัดโปรโมชั่นเฉพาะกลุ่ม หรือแม้กระทั่งการสื่อสารที่ตรงจังหวะชีวิตลูกค้า นอกจากน้องมะลิ AI Chatbot จะให้บริการลูกค้ามากกว่า 900,000 คนต่อเดือน น้องมะลิจะทำหน้าที่เป็นผู้ช่วย AI ให้ลูกค้าทำรายการต่าง ๆ ได้ง่ายขึ้น ไม่ว่าจะเป็น ช่วยจ่ายบิล เช็คสัญญาอินเทอร์เน็ต และนัดหมายช่าง”
ผลลัพธ์จากการพัฒนาสะท้อนออกมาเป็นความสุขของลูกค้า พิสูจน์ได้จากตัวเลขลูกค้าที่ใช้งานบน แอปทรู มีมากกว่า 30% อัตราการเติบโตมากกว่า 30% ลูกค้ามีความพึงพอใจในการใช้งาน แอปทรู มากกว่า 85%
เพื่อแทนคำขอบคุณและตอกย้ำความตั้งใจที่จะตอบแทนความไว้วางใจของลูกค้าทรูและดีแทค จึงส่งแคมเปญ “แอปทรูใจดี แจกรถ แจกล้าน” เปลี่ยนทุกการใช้งานให้กลายเป็นการมีส่วนร่วมกับแบรนด์ ชิงรางวัลมูลค่ากว่า 10 ล้านบาท ตั้งแต่ 1 ก.ค. – 31 ธ.ค. 2568
แคมเปญ “แอปทรูใจดี แจกรถ แจกล้าน”
- ต่อที่ 1: ทุกการใช้งานผ่าน แอปทรู ไม่ว่าจะจ่ายบิล ซื้อแพ็กเกจเสริม หรือแลกทรูพอยท์ ดีแทคคอยน์ จะได้รับสิทธิ์ลุ้นทองคำทุกสัปดาห์
- ต่อที่ 2: ลุ้นรางวัลใหญ่ส่งท้ายปี ทั้งรถยนต์ เทสล่า ทองคำ โทรศัพท์ และของรางวัลอื่นๆ อีกมากมาย ส่งท้ายปี
“มากไปกว่าความสุขจากประสบการณ์การใช้งานบนแอปทรู แต่คือความสุข และโอกาสในการลุ้นรางวัลใหญ่จากทุกกิจกรรมในแอปทรู ให้ลูกค้ารู้สึกว่า… ทุกการใช้งานมีความหมาย และทุกคลิกมีคุณค่า” นิธิมนต์ กล่าว
3. ความสุขจากความสัมพันธ์ที่มีความหมายสู่แคมเปญ “ยิ่งอยู่นาน ยิ่งรักกัน”
ดูเหมือนว่าการนำแนวคิด ‘Long-Term Engagement’ มาเป็นกลยุทธ์ในการออกแบบผลิตภัณฑ์ กิจกรรม และแคมเปญของทรูจะทำให้การขับเคลื่อนธุรกิจบนแนวคิด ‘Customer Obsession’ แข็งแกร่งขึ้น
แทนที่จะมุ่งเน้นยอดขายแต่เพียงอย่างเดียว ทรูเลือกรักษาความสัมพันธ์ที่ยั่งยืนทั้งกับลูกค้าและพันธมิตร สรรค์พิจิตร เอี่ยมชีรางกูร หัวหน้าสายงานบริหารความสัมพันธ์และผสานสิทธิประโยชน์ลูกค้า บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) มองว่า เมื่อ ‘ความสุขของลูกค้า’ คือหัวใจสำคัญ ทุกกิจกรรมที่เกิดขึ้นต้องเริ่มต้นจากคำถามที่ว่า “สิ่งที่ทำจะสร้างความสุขให้กับลูกค้าได้อย่างไร”
“ลูกค้ามีความชอบไม่เหมือนกัน มีคุณค่าในใจต่างกัน เราจึงต้อง ‘ฟังเสียงลูกค้า’ ไม่ว่าจะเป็นเสียงชื่นชมหรือคำติเตียน แล้วนำมาวิเคราะห์ร่วมกับ Big Data ที่เรามี ประกอบกับเทรนด์ต่างๆ เพื่อนำเสนอนวัตกรรม ผลิตภัณฑ์ และบริการแบบ Hyper-Personalization”
สรรค์พิจิตร บอกว่าจากข้อมูลพฤติกรรมเชิงลึกลูกค้ากลุ่ม Silver Generation (อายุ 50 ปีขึ้นไป) มีกำลังในการใช้จ่าย สนใจเรื่องสุขภาพร่างกาย และใช้สิทธิพิเศษด้านสุขภาพและเวลเนส (Health & Wellness) เพิ่มขึ้นกว่า 80% มีการแลกแต้มเพื่อเข้าถึงบริการในหมวดนี้ เพิ่มขึ้น 600% นอกจากนี้ “ความสุขของลูกค้ากลุ่ม Silver ไม่ใช่แค่ความสุขเฉพาะตัวเอง แต่เป็นความสุขร่วมกันกับคนที่รัก ได้ใช้เวลาร่วมกันกับครอบครัวและเพื่อนฝูง”
ขณะเดียวกันกลุ่ม Gen Z ซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้าที่เติบโตมากับดิจิทัล ต้องการความสะดวก รวดเร็ว ใช้อินเทอร์เน็ตเฉลี่ย 12 ชั่วโมง ต่อวัน สิ่งที่คนกลุ่มนี้ต้องการคือการเข้าถึงการเชื่อมต่อที่ไร้ขีดจำกัด
“ตัวชี้วัดว่าเราสามารถตอบโจทย์ลูกค้ากลุ่มนี้ได้ตรงใจมากขึ้นคือ ลูกค้าใช้แต้มเพื่อแลกพริวิลเลจเกี่ยวกับบริการเสริม ซึ่งเป็นหมวดหมู่ที่ใหญ่ที่สุดและมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องกว่า 10% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า
ส่วนในภาพรวมของลูกค้าทุกกลุ่ม พบว่า ในยุคที่ลูกค้าต้องการความประหยัดเป็นอันดับแรก มีการนำแต้มมาแลกส่วนลดค่าบริการรายเดือน หรือแลกเน็ตและค่าโทรสำหรับระบบเติมเงิน โดยมีอัตราเติบโตสูงขึ้นถึง 250% แลกส่วนลดสำหรับของใช้จำเป็นในชีวิตประจำวันเพิ่มขึ้น 45% และการแลกสิทธิพิเศษในหมวดกิน ดื่ม ยังคงโตต่อเนื่องอีก 10%”
“ยอดการใช้สิทธิ์ที่เติบโตขึ้นเป็นผลมาจากที่เราออกแบบสิทธิพิเศษต่างๆ ที่ใช้ความต้องการของลูกค้าเป็นตัวตั้ง ด้วยการสร้างความคุ้มค่า ราคาประหยัดเพื่อลดค่าใช้จ่าย ตลอดจนการเติมเต็มความสุขหลากหลายไลฟ์สไตล์ ทั้งอิ่ม ช้อป เพลิน ท่องเที่ยว ฯลฯ ตลอดจนการสร้างช่วงเวลาดีๆ ร่วมกันที่มีความหมายพิเศษ”
“ทุกช่วงเวลา นับแต่วันแรกของทรูในการดำเนินธุรกิจโทรคมนาคม จนวันนี้ มีความหมายมาก เราอยากขอบคุณลูกค้าที่ให้ความไว้วางใจ ผูกพัน และมองเห็นคุณค่าที่เรามอบให้ตลอดมาอย่างยาวนาน ด้วยความสุขใหม่ “ยิ่งอยู่นาน ยิ่งรักกัน” ความพิเศษครั้งใหญ่ไว้ให้ลูกค้าทรูและดีแทคได้มีช่วงเวลาพิเศษร่วมกัน
29 กรกฎาคม 2568 หนึ่งวันแห่งความอิ่มสุข
“ยิ่งอยู่นาน ยิ่งรักกัน อิ่มสุขไม่อั้น ที่ MK” ณ สาขา ที่ร่วม MK คุ้มคุ้ม อิ่มไม่อั้น 299 บาท
- ลูกค้าที่ใช้เบอร์ทรูและดีแทคเกิน 10 ปีขึ้นไป รับสิทธิ์อิ่มฟรีไม่อั้น มูลค่า 299 บาท (ไม่ต้องจ่าย)
- สำหรับลูกค้าที่ใช้งาน 5 ปีขึ้นไป อิ่มฟรี 150 บาท (จ่ายครึ่ง 149 บาท)
- สำหรับลูกค้าที่ใช้งาน 1 ปีขึ้นไป อิ่มฟรี 100 บาท (จ่ายเพียง 199 บาท)
**สงวนสิทธิ์เฉพาะลูกค้าที่ใช้บริการ 300 บาทขึ้นไป
“รอยยิ้มของลูกค้า คือ แรงบันดาลใจในการรังสรรค์ที่สุดแห่งแคมเปญและโปรโมชั่นต่างๆ ที่คิดและออกแบบจากอินไซต์จริงของลูกค้ายุคปัจจุบันที่มีความต้องการที่หลากหลาย” ฐานพลกล่าวทิ้งท้าย
และทั้งหมดนี้คือเหตุผลที่ทรูยังคงเดินหน้าสร้างความสุขในทุกมิติ ด้วยความมุ่งมั่นในการยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้ใช้บริการทั่วประเทศ ผ่านการเชื่อมต่อที่ไม่ใช่แค่สัญญาณ…แต่คือ ‘ความเข้าใจและความใส่ใจที่แท้จริง’ ที่ขับเคลื่อนผ่านกลยุทธ์ ‘YOUR HAPPINESS FIRST เพราะรอยยิ้มของคุณ คือที่หนึ่ง’