วันนี้ (20 มิถุนายน) สมชาย แสวงการ อดีตสมาชิกวุฒิสภา (สว.) กล่าวถึงข้อเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีออกจากตำแหน่ง สืบเนื่องจากกรณีคลิปเสียงสนทนาระหว่าง แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา โดยระบุว่า ในสถานการณ์นี้ควรเป็นการเปลี่ยนม้ากลางศึกสงคราม เหมือนสหราชอาณาจักร ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 เปลี่ยนนายกรัฐมนตรีกลางสงคราม จึงชนะ ประเทศไทยขณะนี้กำลังเผชิญวิกฤตชายแดน ต้องเปลี่ยนนายกรัฐมนตรี
ส่วนนายกรัฐมนตรีคนใหม่จะเป็นใครก็ตาม ตนเองไม่ติดใจ แต่ต้องรู้เท่าทันกัมพูชา ส่วนจะเป็นใครก็ตาม หรือมาจากพรรคเดิม ก็เป็นเรื่องของสภาผู้แทนราษฎร แต่ที่สำคัญคือนายกรัฐมนตรีต้องรับผิดชอบด้วยการลาออก
“ถ้าเป็นประเทศอื่น เขาแถลงลาออกวันนั้นทันทีแล้ว ประธานาธิบดีไต้หวันกระโดดภูเขาตาย ผมไม่อยากบอกให้คุณอุ๊งอิ๊งไปโดดทะเลตายได้แล้ว คุณยังดื้อไม่ลาออก พยายามแถไปเรื่อยๆ เราไม่รู้ว่าข้อมูลที่ฝ่ายตรงข้ามมีมากกว่านี้เท่าไร ความลับทางราชการทหารอีก ผมเชื่อว่าอยู่ฝั่งนั้นหมดแล้ว” สมชายกล่าว
สมชายย้ำด้วยว่า พวกเราไม่ได้เรียกร้องให้มีการรัฐประหาร เราเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีลาออก ให้พรรคร่วมรัฐบาลถอนตัว ที่เหลือเป็นเรื่องของรัฐสภา นี่เป็นขั้นตอนประชาธิปไตย ไม่จำเป็นต้องมีรัฐประหาร
“ผมพูดตั้งแต่วันแรกที่คลิปออก ตามหลักประชาธิปไตย นายกรัฐมนตรีต้องลาออก ไม่ใช่แถว่าสมเด็จฮุน เซน ปล่อยคลิป อย่าไปโทษสภา อย่าไปโทษกองทัพ อย่าโทษรัฐประหาร คุณนั่นแหละคือปัญหา” สมชายกล่าว
สมชายยืนยันว่า หากนายกรัฐมนตรีลาออก พรรคร่วมรัฐบาลถอนตัว เพียงเท่านี้ บ้านเมืองก็เดินต่อไปได้
ผู้สื่อข่าวถามว่า ยังเชื่อใจกองทัพใช่หรือไม่ว่าจะไม่ทำรัฐประหาร สมชายกล่าวว่า กองทัพมีหน้าที่เป็นมืออาชีพอยู่แล้ว ดูแลชายแดน วันนี้กองทัพมีภารกิจปกป้องชายแดนกัมพูชา เขาไม่ได้มายุ่งเรื่องการรัฐประหาร มันเป็นการสร้างวาทกรรมของฝ่ายการเมืองที่พยายามจะโยนบาป ว่าถ้าตนเองไม่ลาออก เพราะกองทัพจะรัฐประหาร มันตลก
“คุณทำผิด คุณยังหน้าด้านอยู่ แล้วยังพยายามจะแถไปเรื่อยๆ แล้วคุณไม่พูดถึงเนื้อหาเลยหรือ 99% ของเนื้อหาเป็นการกระทำผิด และการขายชาติชัดๆ ผิดอยู่แล้ว ดังนั้นอย่าไปโทษคนอื่น นายกรัฐมนตรีมีทางเดียว ยอมลาออก ถือว่าเรื่องจบ” สมชายระบุ
