×

KKP – 4Q67 ดีกว่าคาดเพราะกำไร FVTPL; แนวโน้มทรงตัว

23.01.2025
  • LOADING...
KKP-Q4-67

เกิดอะไรขึ้น:

 

เมื่อวันที่ 20 มกราคม 2568 บมจ.ธนาคารเกียรตินาคินภัทร (KKP) รายงานกำไรสุทธิ 4Q67 อยู่ที่ 1.41 พันล้านบาท (เพิ่มขึ้น 8%QoQ, เพิ่มขึ้น 110%YoY) สูงกว่าคาด 60% และสูงกว่า Consensus คาด 37% กำไรสุทธิที่ออกมาสูงกว่าคาด เกิดจากกำไรสุทธิจากเครื่องมือทางการเงินที่วัดมูลค่าด้วยมูลค่ายุติธรรมผ่านกำไรหรือขาดทุน (FVTPL) ที่สูงกว่าคาด

 

รายการที่สำคัญ:

  1. คุณภาพสินทรัพย์: NPL อยู่ในระดับทรงตัว QoQ Credit Cost (รวมขาดทุนจากการขายรถยึด) เพิ่มขึ้น 23 bps QoQ (ลดลง 65 bps YoY) มาอยู่ที่ 2.19% ใน 4Q67 ECL เพิ่มขึ้น 34%QoQ แต่ขาดทุนจากการขายรถยึดลดลง 7%QoQ LLR Coverage เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 134% จาก 131% ใน 4Q67 โดยคาดว่า Credit Cost จะลดลงจาก 2.3% ในปี 2567 มาอยู่ที่ 2.2% ในปี 2568 

 

  1. การเติบโตของสินเชื่อ: ลดลง 2%QoQ, ลดลง 8%YoY คาดการณ์การเติบโตของสินเชื่อปี 2568 ที่ลดลง 2% เทียบกับลดลง 8% ในปี 2567 

 

  1. NIM: ลดลง 12 bps QoQ (ลดลง 40 bps YoY) ใน 4Q67 อัตราผลตอบแทนจากสินทรัพย์ที่ก่อให้เกิดรายได้ลดลง 11 bps QoQ ต้นทุนทางการเงินเพิ่มขึ้น 2 bps QoQ ขณะที่คาดว่า NIM จะเพิ่มขึ้น 4 bps ในปี 2568 เนื่องจากคาดว่าจะมีการปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบายลดลง 75 bps ในปี 2568

 

  1. Non-NII: เพิ่มขึ้น 30%QoQ (เพิ่มขึ้น 55%YoY) ใน 4Q67 หลักๆ เกิดจากรายได้ค่าธรรมเนียมและกำไรจาก FVTPL รายได้ค่าธรรมเนียมสุทธิเพิ่มขึ้น 9%QoQ (เพิ่มขึ้น 21%YoY) คาดว่า Non-NII จะเพิ่มขึ้น 2% ในปี 2568 เทียบกับเพิ่มขึ้น 7% ในปี 2567

 

  1. อัตราส่วนต้นทุนต่อรายได้: ลดลง 333 bps QoQ (ลดลง 40 bps YoY) มาอยู่ที่ 44.2% OPEX ลดลง 4%QoQ (ลดลง 5%YoY) 

 

กระทบอย่างไร:

 

ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา ราคาหุ้น KKP ปรับขึ้น 3.52% สู่ 51.50 บาท ขณะที่ SET Index ปรับลง 1.80% สู่ 1,340.50 จุด 

 

แนวโน้มผลประกอบการปี 2568:

 

InnovestX Research ปรับประมาณการกำไรปี 2568 เพิ่มขึ้น 3% เพื่อสะท้อนผลประกอบการ 4Q67 โดยปัจจุบันคาดว่ากำไรปี 2568 จะอยู่ในระดับที่ค่อนข้างทรงตัว โดยเกิดจากการเติบโตของสินเชื่อที่ลดลง 2% NIM ที่เพิ่มขึ้น 4 bps Credit Cost ที่ลดลง 15 bps Non-NII ที่เพิ่มขึ้น 2% และอัตราส่วนต้นทุนต่อรายได้ที่สูงขึ้น 

 

กลยุทธ์การลงทุนยังคงคำแนะนำ Neutral สำหรับ KKP และปรับราคาเป้าหมายเพิ่มขึ้นจาก 47 บาท มาอยู่ที่ 50 บาทต่อหุ้น (อิงกับ P/BV ปี 2568 ที่ 0.65 เท่า) 

 

ปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่ต้องติดตามคือ 1. ความเสี่ยงด้านคุณภาพสินทรัพย์จากเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวไม่ทั่วถึง 2. ราคารถมือสองลดลง 3. ตลาดทุนผันผวน และ 4. ความเสี่ยงด้าน ESG จากการให้บริการลูกค้าอย่างเป็นธรรม (Market Conduct)

 

Cafe Invest แหล่งรวมข้อมูลการลงทุนและบทวิเคราะห์คุณภาพ โดย InnovestX 🚀 คลิกเลย 👉 KKP – 4Q67 ดีกว่าคาดเพราะกำไร FVTPL; แนวโน้มทรงตัว

 

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising