เราเขียนบทความนี้ไปพร้อมๆ กับการติดตามข่าวที่สะเทือนใจอากาเซทั่วโลก เพราะเป็นอันชัดเจนแล้วว่าสัญญาของ GOT7 กับต้นสังกัดอย่าง JYP Entertainment จะสิ้นสุดอย่างเป็นทางการในวันที่ 19 มกราคม 2021 ซึ่งเป็นเรื่องเดียวกับที่นกน้อยรอลุ้นกันมาทั้งปี
7 ปีที่ผ่านมา ที่หนทางอาจไม่ได้เรียบง่ายเหมือนกับที่ใครมองเห็นความสำเร็จจากภายนอก เป็นเด็กค่ายใหญ่, เพลงขึ้นชาร์ตอันดับ 1, ขึ้น US Chart, เทรนด์ทวิตเตอร์ทั่วโลก, เวิลด์ทัวร์ และรางวัลแดซัง แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเรื่องราวทั้งหมดเติมความแข็งแกร่งให้กับสมาชิกของวงและความสัมพันธ์ที่เหนียวแน่นทั้งกับวงเองและแฟนคลับทั่วโลก
7 ปีของการค้นหา
จากเด็กหนุ่ม 2 คน อิมแจบอม และ ปาร์คจินยอง ผู้ชนะการแข่งขันร่วมกันในงานออดิชันของ JYP Entertainment ครั้งที่ 5 ในปี 2009 หลังผ่านการฝึกฝนอย่างหนัก ทั้งคู่ก็ได้ร่วมแสดงในซีรีส์ Dream High 2 และเดบิวต์ในฐานะนักร้องคู่ JJ Project ในปี 2012 อาจจะพูดได้ว่าความสำเร็จขั้นต้นของทั้งคู่อยู่ในระดับของผู้ติดตามค่าย (หรือที่เรียกว่าสแตนค่าย) แต่สิ่งที่ยังขาดเกินอยู่ในตอนนั้นคือความแปลกใหม่จาก JJ Project ที่ยังรอวันเติมเต็มให้สมบูรณ์
ปี 2014 เด็กหนุ่มทั้งคู่กลับมาพร้อมกับเพื่อนเด็กฝึก 7 คนจากหลายชาติ ทั้งไทย (แบมแบม) อเมริกัน (มาร์ค) ฮ่องกง (แจ็คสัน) และเพื่อนร่วมชาติ (ยองแจและยูคยอม) เดบิวต์ร่วมกันในนาม GOT7 ในคอนเซปต์ Hip Hop Group กับการ Acrobatics ที่เรียกว่าเดินตามรอยของรุ่นพี่ 2PM ก็ไม่ผิดนัก ก้าวแรกสำหรับ GOT7 อาจจะยังอยู่แค่ในวงจำกัดกับจำนวนแฟนคลับหลักร้อย แต่วงก็ค่อยๆ เติบโตขึ้นอย่างคงที่
อาจจะเรียกว่า Hard Carry เป็นจุดเปลี่ยนสำหรับความสำเร็จของวง ที่สร้างเพลงฮิตติดหูและเพอร์ฟอร์แมนซ์ที่สร้างความตื่นเต้นให้กับผู้ชม ทั้งเรื่องความแข็งแรงและความเป๊ะที่เป็นต้นแบบให้รุ่นน้องหลายๆ คน แต่สำหรับเราแล้ว จุดเปลี่ยนของ GOT7 อยู่ในวันที่เขาทำเพลงกันเอง และเพลงเหล่านั้นได้กลายมาเป็นเพลงไตเติลสำหรับโปรโมตในสเตจใหญ่
GOT7 กับสีของตัวตน
อิมแจบอม ลีดเดอร์ของวงก้าวมาในฐานะนักแต่งเพลงไตเติลในอัลบั้ม Flight Log: Departure ให้กับเพลง Fly ความสำคัญของเพลงไตเติลนอกจากจะเป็นเพลงที่ใช้ในการโปรโมตหลักของแต่ละอัลบั้มแล้ว ยังเป็นเหมือนกับเครื่องพิสูจน์การยอมรับจากทีมทำเพลงเบื้องหลังอีกด้วย
ในขณะเดียวกัน สมาชิกในวงทุกคนก็พัฒนาฝีมือในการทำเพลงของตัวเองอยู่เสมอ พร้อมกันกับทักษะในด้านอื่นๆ อย่างการเต้นของ ยูคยอม ที่ทำได้ดีจนได้รับรางวัลแชมป์ของรายการ Hit The Stage ตั้งแต่อายุเพียง 18 ปี ปาร์คจินยอง ที่เดินทางเข้าสู่วงการซีรีส์อย่างเป็นทางการ มาร์คและยองแจกับคอลเล็กชันเสื้อผ้าของตัวเองและงานเดี่ยวมากมาย แบมแบมกับการเป็นตัวอย่างของความพยายามในทุกด้านให้กับเด็กไทยที่มีความฝัน และแจ็คสันกับการก่อตั้ง Team Wang ที่กลายเป็นตัวอย่างของซีอีโออายุน้อยที่ประสบความสำเร็จในระดับโลก
สิ่งหนึ่งที่เป็นจุดเด่นของ GOT7 นั่นคือตัวตนและคาแรกเตอร์ที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง แต่ก็สามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างกลมกล่อม และคาแรกเตอร์ของแต่ละคนก็ส่งต่อผ่านเป็นเพลงยูนิตและเพลงโซโล่ในอัลบั้ม Present: You อัลบั้มเต็มที่เรียกว่าทุกคนได้มีส่วนร่วมในทุกส่วนของการทำงาน
อนาคตที่อยู่ในมือพวกเขาเอง
ที่สุดก็เป็นอันชัดเจนแล้วว่าสัญญาของวง GOT7 กับต้นสังกัดอย่าง JYP Entertainment จะสิ้นสุดอย่างเป็นทางการในวันที่ 19 มกราคม 2021 ซึ่งก็แน่นอนว่าได้สร้างความรู้สึกที่หลากหลายให้กับเหล่าอากาเซ ที่คาดหวังจะได้เห็นสมาชิกวงเติบโตขึ้นในเส้นทางของตัวเอง แต่ทั้งหลายทั้งมวล สิ่งที่อากาเซทุกคนมองเห็น นั่นคือศักยภาพของทุกคนในวงที่สามารถสร้างเส้นทางของตัวเองได้ดีและจะประสบความสำเร็จต่อไปได้อย่างแน่นอน บนทิศทางใหม่ที่ทั้ง 7 คนจะเลือกเดินนับจากนี้
เรามักจะได้ข่าวคราวการทำงานส่วนตัวของสมาชิกในวงผ่านช่องทางของพวกเขาเองอย่างสม่ำเสมอ ต้องขอบคุณสื่อโซเชียลเน็ตเวิร์กที่เป็นพื้นที่ให้แต่ละคนได้แสดงความเป็นตัวเองออกมา อย่างพี่ใหญ่ มาร์ค ต้วน กับความรักในการเป็นเกมเมอร์ แต่ก็ยังคงรักในการทำเพลงไม่มีเปลี่ยน, อิมแจบอม ลีดเดอร์ที่ร่วมทำงานเพลงทั้งใต้ดินและบนดินกับเพื่อนหลายอัลบั้ม กับความแน่นอนที่ว่าต้องเดินทางสายศิลปิน, แจ็คสัน หวัง กับการพา Team Wang ก้าวสู่การเป็นแบรนด์ระดับโลก, ปาร์คจินยอง กับงานซีรีส์ที่ทำให้เราได้เห็นหน้าค่าตาแก้คิดถึง พร้อมกับบทบาทที่โดดเด่นขึ้นเรื่อยๆ, ชเวยองแจ หลังจากผ่านงานดีเจในรายการ Idol Radio ที่ช่วยสลายความรู้สึกกลัวบางอย่างในใจออกไป และการก้าวเข้าสู่วงการการแสดงกับ Netflix ในซีรีส์ I Wish the World Would End Tomorrow ที่คาดว่าจะเข้าฉายภายในปีนี้
แบมแบม กับงานพรีเซนเตอร์ที่ทำให้ทั่วหัวระแหงในเมืองไทยได้สนิทกับเด็กหนุ่มคนนี้มากขึ้น พร้อมเปิดรับความท้าทายบทใหม่ในเกาหลีที่อยู่มาเป็นสิบปี และ คิมยูคยอม น้องเล็กผู้ที่ดนตรีและการเต้นกลายเป็นสายเลือดของเขาไปแล้ว นั่นทำให้พวกเราหมดห่วงเลยว่าเด็กๆ (ของเรา) จะเติบโตต่ออย่างแข็งแรงด้วยลำแข้งของพวกเขาเอง
อัลบั้มล่าสุด Breath of Love: Last Piece จึงเป็นเหมือนความทรงจำที่แสนสวยงามให้กับอากาเซ – เพลงไตเติลเพลงแรกของยองแจ เพลงไตเติลที่เรียกคนนอกด้อมจากฝีมือแจบอม เพลงของทุกคนที่ได้อยู่ในอัลบั้มนี้แบบพร้อมหน้า อัลบั้มได้ขึ้น US Chart และคำว่า ‘Thank You, Sorry’ ที่พวกเขาอยากเป็นคนบอกมันออกมาเอง
หากคำกล่าวที่บอกว่า ‘งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกรา’ แต่อย่าลืมว่าความสัมพันธ์ของผู้คนในงานเลี้ยงย่อมคงอยู่ยาวนานตลอดไป เราจบบทความนี้ในวันที่วงได้รับรางวัลอัลบั้มยอดเยี่ยม การแสดงบนเวทีที่มีความสุข และภาพถ่ายเดียวกันภาพนี้ที่อยู่ในแกลเลอรีของทั้ง 7 คน
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า