×

7 THINGS WE LOVE ABOUT G-DRAGON’S STYLE จากไอดอลวง BIGBANG สู่แฟชั่นไอคอนระดับโลก

20.08.2023
  • LOADING...
G-DRAGON STYLE

เมื่อพูดถึงแฟชั่นไอคอนชาวเอเชียที่หลายคนจะนึกถึง เชื่อได้ว่าต้องมีชื่อของ G-Dragon แห่งวง BIGBANG เป็นชื่อแรกๆ อย่างแน่นอน เขาเป็นผู้ทรงอิทธิพลด้านแฟชั่นด้วยสไตล์การแต่งตัวที่หลากหลาย แตกต่างและฉีกจากไอดอลทั่วๆ ไป จนขนาดสื่อต่างประเทศอย่าง Hypebeast จัดให้เขาอยู่ใน 100 อันดับผู้ทรงอิทธิพลและผู้สร้างสรรค์นวัตกรรม รวมถึง The Business of Fashion เว็บไซต์ชื่อดังที่ยกให้เขาเป็น 1 ใน 500 บุคคลผู้ทรงอิทธิพลในวงการแฟชั่น 

 

ความหลงใหลในแฟชั่นของเขายังต่อยอดให้เขามีโอกาสร่วมงานกับแบรนด์ดังอย่าง CHANEL ในฐานะ House Ambassador รวมถึงการเปิดแบรนด์เป็นของตัวเองในชื่อ PEACEMINUSONE แบรนด์แฟชั่นสามารถสร้างเสียงฮือฮาและปรากฏการณ์ Sold Out ในเกือบทุกๆ โปรเจกต์พิเศษที่เขามีส่วนร่วมในการออกแบบ จึงไม่แปลกเลยหากใครๆ ต่างขนานนามตัวเขาในฐานะ ‘แฟชั่นไอคอนแห่งเอเชีย’

 

THE STANDARD POP จะพาทุกคนไปเจาะลึกถึงอิทธิพลของ G-Dragon ในฐานะของแฟชั่นไอคอนแห่งเอเชียว่าเขาผู้นี้ได้สร้างอิทธิอย่างไรไว้บ้าง

 

EARLY DEBUT STYLE

 

หนึ่งในตัวแปรสำคัญผู้ผลักดันให้กระแส K-Pop สร้างอิทธิพลไปทั่วโลกมาจากวง BIGBANG ที่มาพร้อมแนวเพลงฮิปฮอปและสไตล์การแต่งตัวแบบสตรีทอเมริกัน จุดนั้นทำให้พวกเขาโดดเด่นและได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เนื่องจากสไตล์ของพวกเขาฉีกออกจากวง K-Pop วงอื่นๆ อย่างสิ้นเชิง แต่รู้หรือไม่ ควอนจียง หรือ G-Dragon ลีดเดอร์ของวงหลงใหลแฟชั่นตั้งแต่อายุเพียง 6 ขวบ ในช่วงที่เขาเป็นแค่เด็กฝึกเขาไม่มีผู้จัดการส่วนตัว สไตลิสต์ หรือบริษัทต้นสังกัด บ่อยครั้งที่ชุดแต่งกายยามออกแสดงในช่วงนั้นคุณแม่ของเขาเป็นคนจัดการให้ทั้งหมด ซึ่งเขาเคยเปิดเผยว่าแรงบันดาลแฟชั่นส่วนหนึ่งของตัวเขามาจากคุณแม่ของเขานั่นเอง หลังจากได้เข้าร่วมกับวง BIGBANG ในช่วงแรกๆ สไตล์ของเขายังใกล้เคียงกับสมาชิกคนอื่นๆ ก่อนที่จะฉีกตัวเองออกมาให้ต่างจากสมาชิกคนอื่น ถือเป็นสมาชิกที่แต่งตัวจัดที่สุดในวง เขามักผสมผสานเสื้อผ้าสตรีทเข้ากับไฮแบรนด์รวมถึงนำเสื้อผ้าของผู้หญิงมาสวมใส่จนกลายเป็นสไตล์เฉพาะตัวของเขาจวบจนทุกวันนี้ 

 

 


 

CHANEL AMBASSADOR

 

ไฮไลต์สำคัญที่ทำให้ G-Dragon รู้จักไปทั่วโลกก็คือการที่เขาได้มีโอกาสร่วมงานกับแบรนด์หรูอย่าง CHANEL หลังจากได้รับเชิญมานั่งฟรอนต์โรว์ร่วมดูโชว์หลายต่อหลายครั้ง โดยความสัมพันธ์ของเขาและ Karl Lagerfeld ครีเอทีฟไดเรกเตอร์ในช่วงนั้นเริ่มพัฒนาจากผู้ร่วมงานสู่เพื่อนสนิท G-Dragon เป็นผู้ชายเอเชียคนแรกๆ ที่แบรนด์อย่าง CHANEL ให้ร่วมอยู่ในแคมเปญฝั่งแฟชั่น ซึ่งที่สร้างกระแสไวรัลสุดๆ คือแคมเปญกระเป๋าไอคอนิกรุ่น Gabrielle ร่วมกับคนดังคนอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็น Kristen Stewart, Willow Smith และอีกหลายคน ยังไม่หมดแค่นั้น เขายังหยิบเอาแจ็กเก็ตผ้าทวีดของ CHANEL สวมใส่อยู่บ่อยครั้งจนสร้างเทรนด์ให้ผู้ชายเริ่มมาสนใจในแบรนด์ CHANEL มากขึ้น แม้ว่าทางแบรนด์จะไม่มีสินค้าไลน์เสื้อผ้าผู้ชายแบบจริงๆ จังๆ เลยก็ตาม โดยทุกวันนี้ G-Dragon ยังคงเป็น House Ambassador ของ CHANEL ภายใต้การดูแลของ Virginie Viard ครีเอทีฟไดเรกเตอร์คนปัจจุบัน

 

 


 

ANDROGYNOUS STYLE

 

จากที่เกริ่นไปข้างต้นสไตล์ของ G-Dragon นั้นสนุก หลากหลาย และไร้เพศ เขาฉีกกฎการแต่งตัวของไอดอลชายด้วยการมิกซ์แอนด์แมตช์เสื้อผ้าผู้หญิงลงบนตัวของเขา แถมยังชอบแต่งหน้า ทำผม และทาเล็บ จนหลายคนยกให้สไตล์ Androgynous กลายเป็นซิกเนเจอร์ของเขาไปเลย ยิ่งไปกว่านั้นการที่เขาได้รับเลือกให้เป็น House Ambassador ของแบรนด์ CHANEL ซึ่งเป็นแบรนด์เสื้อผ้าผู้หญิง เขาเลือกไอเท็มของผู้หญิงจากแบรนด์นี้มามิกซ์แอนด์แมตช์สร้างลุคในแบบฉบับของตัวเองจนสร้างกระแสไปทั่วโลก เขายังเป็นผู้ชายที่ชอบสะพายกระเป๋าผู้หญิงใช้ไอเท็มที่ทำขึ้นเพื่อผู้หญิงกับตัวเอง สร้างลุคไร้เพศจนส่งอิทธิพลต่อผู้ชายเกาหลีและทั่วโลกในเวลาต่อมา 

 

 


 

SURPRISE HAIRSTYLE

 

ไม่ใช่แค่เป็นผู้นำเทรนด์ด้านแฟชั่นอย่างเดียว G-Dragon ยังคอยสร้างเซอร์ไพรส์ทุกครั้งที่เขาปรากฏตัว ไม่ว่าจะเป็นอัลบั้มใหม่ ปล่อยซิงเกิลใหม่ หรือแม้แต่ขึ้นโชว์ ‘ทรงผม’ ของเขาจะเปลี่ยนอยู่เสมอ บางครั้งก็ทรงใหม่หรือบางทีก็สีใหม่ ให้แฟนๆ ไม่สามารถคาดการณ์ได้ เขาฉีกตัวเองออกจากกรอบในทุกๆ ครั้งจนสร้างบันดาลใจให้กับผู้ชายยุคใหม่กล้าที่จะแต่งตัวและเป็นตัวของตัวเองมากขึ้น ในงาน MAMA Awards ปี 2013 ทรงผมของเขากลายเป็นมีมหลังจากถูกล้อว่าคล้ายกับซูชิหน้าไข่หวาน เขาตอบกลับมีมดังกล่าวว่ามีบ้างที่เขารู้อายกับสิ่งที่เขาทำ แต่เขาไม่เคยกลัวที่จะลอง เพราะแฟชั่นไม่มีผิดหรือถูก ดังนั้นเขาจะไม่ไปติสไตล์ของคนอื่นที่แตกต่างจากตัวเขาว่าไม่ดีเด็ดขาด 

 

 


 

FASHION COLLABORATIONS

 

ก้าวสำคัญที่ส่งให้ G-Dragon กลายเป็นแฟชั่นไอคอนคือการร่วมงานระหว่างตัวเขาและแบรนด์แฟชั่นผ่านคอลเล็กชันคอลแลบ ไม่ว่าจะเป็นแบรนด์ AMBUSH ที่เขาร่วมออกแบบเสื้อผ้าและเครื่องประดับคอลเล็กชันพิเศษเพื่อฉลองการปล่อยอัลบั้ม LP Coup D’etat และยังไม่หมดแค่นั้น เขาและ Taeyang หนึ่งในสมาชิกอีกคนของ BIGBANG ร่วมคอลแลบคอลเล็กชันเสื้อผ้าผ่าน 10 ไอเท็มที่พวกเขาชอบที่สุดกับแบรนด์สตรีทอย่าง Stamph ในปี 2015 แบรนด์รองเท้าสุดหรูจากประเทศอิตาลี Giuseppe Zanotti ดึงตัว G-Dragon มาร่วมออกแบบแคปซูลคอลเล็กชันรองเท้าโลฟเฟอร์ Unisex ซึ่งถือเป็นโปรเจกต์แรกๆ ที่เขาได้ร่วมงานกับแบรนด์ระดับนี้ 

 

 


 

LAUNCHING PEACEMINUSONE

 

ในปี 2016 G-Dragon ได้จับมือกับ Gee Eun เพื่อนสนิทและสไตลิสต์ส่วนตัวของเขา เปิดตัวแบรนด์ของตัวเองในชื่อ PEACEMINUSONE แบรนด์สตรีทแคชวลที่โดดเด่นตั้งแต่โลโก้ของแบรนด์ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากสัญลักษณ์สันติภาพรวมถึงดอกเดซี่แหว่งที่กลายเป็นซิมโบลิกของแบรนด์ถูกต่อยอดนำไปใช้บนเสื้อผ้าและแอ็กเซสซอรีในคอลเล็กชันมากมาย PEACEMINUSONE ได้รับความนิยมอย่างมาก หลังจากเปิดตัวไปไม่นานมีแบรนด์มากมายมาร่วมโปรเจกต์พิเศษด้วย เช่น AMBUSH, Nike, Collette, Vogue, Fragment, Levi’s, Red Bull และอื่นๆ อีกมากมาย แต่ที่สร้างเสียงฮือฮาได้มากที่สุดคงไม่พ้น PEACEMINUSONE x Nike ที่ประสบความสำเร็จอย่างมากจนสามารถปล่อยรองเท้าออกมาแล้วถึง 3 รุ่น คือ Air Force 1: Para-Noise, Air Force 1: Para-Noise 2.0 และ Kwondo 1 ทั้ง 3 รุ่นสามารถ Sold Out ในทันทีที่วางขาย แถมราคารีเซลยังสูงกว่าราคาเดิมหลายเท่าตัว 

 

 


 

LVMH INVEST IN YG

 

ด้วยชื่อเสียงและความสำเร็จระดับโลกของอุตสาหกรรมเพลง K-Pop ตัว G-Dragon ถือเป็นหนึ่งในหมากสำคัญที่ทำให้บริษัทใหญ่อย่าง LVMH ยอมลงทุนในกิจการของ YG ในปี 2014 ซึ่งถือเป็นกลยุทธ์ของ LVMH ที่มักใช้กับบริษัทที่มีแนวโน้มจะโตมากขึ้นในอนาคต แน่นอนว่าในยุคนั้น YG ถือเป็นบริษัทเพลงเบอร์ต้นของประเทศเกาหลีใต้ แถม G-Dragon ยังเป็นไอดอล K-Pop คนแรกที่ผลงานของเขาดังระดับโลกและได้รับการยอมรับในฐานะบุคคลทรงอิทธิพลด้านแฟชั่นในอุตสาหกรรมแฟชั่นระดับโลก เป็นที่น่าเสียดายจากเหตุการณ์ไนต์คลับ Burning Sun ที่ผู้ต้องหาเป็นหนึ่งในอดีตสมาชิกของวง BIGBANG ทำให้กลุ่มบริษัท LVMH เลือกรับเงินคืนมากกว่าจะแปลงสภาพเงินลงทุนให้เป็นหุ้น อย่างไรก็ตาม G-Dragon เปรียบได้กับแรงกระเพื่อมหลักที่ทำให้บริษัทใหญ่ขนาดนี้สนใจอยากลงทุนด้วยในตอนนั้น

 

 

ภาพ: Getty Images

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising
X