7 Things We Love About Emily in Paris Fashion ซีรีส์ที่มีบทบาทสำคัญต่อวงการแฟชั่นมากสุดขณะนี้

หนึ่งในซีรีส์ที่ได้รับความนิยมสูงสุดบน Netflix อย่าง Emily in Paris กำลังจะกลับมากับซีซันที่ 3 ในวันที่ 21 ธันวาคมที่จะถึงนี้ เสน่ห์ของซีรีส์เรื่องนี้มีหลายองค์ประกอบเหลือเกิน ไม่ว่าจะเป็นเนื้อเรื่องที่เบาสมองชวนติดตาม ตัวละครที่หลากหลายและมีมิติเป็นของตัวเอง รวมถึงแฟชั่นที่เปรี้ยวขึ้นทุกซีซัน

นอกจากจะดูเพลินแล้วนั้น จริงๆ แล้ว Emily in Paris ยังสร้างอิทธิพลต่อวงการแฟชั่นอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นในรูปแบบของคอลเล็กชันพิเศษ หรือแม้แต่แบรนด์ที่ลงสปอนเซอร์ขอแอร์ไทม์จากซีรีส์นี้อีกมากมาย เพื่อเป็นการต้อนรับซีรีส์ที่หลายคนรอคอย THE STANDARD POP จะพาทุกคนไปล้วงถึง 7 ปัจจัยสำคัญว่า ทำไมซีรีส์เรื่องนี้ถึงทรงอิทธิพล และได้รับความนิยมขนาดนี้

DREAM TEAM

ปัจจัยแรกเลยสำหรับใครที่ชื่นชอบซีรีส์อย่าง Sex and the City รู้สึกอินกับเรื่องราวของ 4 เพื่อนสาวและแฟชั่นแสบๆ คันๆ ที่เก๋ขึ้นแท่นเป็นไอคอนลุคจวบจนทุกวันนี้ อาจจะรู้สึกตงิดๆ และคุ้นกับเรื่องของ Emily in Paris ไม่มากก็น้อย นั่นก็เพราะว่าผู้สร้างและมือเขียนบทก็คือ Darren Star ซึ่งเป็นผู้อยู่เบื้องหลังบทสนุกๆ ของซีรีส์ Sex and the City มาทุกซีซันนั่นเอง และโชว์นี้ยังได้ Patricia Field สไตลิสต์ผู้อยู่เบื้องหลังลุคปังๆ ของ The Devil Wears Prada และ Sex and the City เช่นเดียวกันมานั่งแท่นในฐานะที่ปรึกษาด้านสไตล์ของโชว์ รวมถึงนักแสดงมากฝีมือทั้ง Lily Collins ในบทของ Emily Cooper ต่อด้วย Ashley Park ในบทของ Mindy และ Camille Razat ในบทของ Camille จึงไม่ต้องแปลกใจเลยว่าทำไมตัวบทและเสื้อผ้าของ Emily in Paris ถึงได้โดนใจใครหลายคน เพราะได้หัวกะทิของวงการมาดูแลเองกับมือ

PERSONAL STYLE

เสน่ห์ของซีรีส์เรื่องนี้ต้องยกให้กับตัวละครที่มีลักษณะเฉพาะตัว ตั้งแต่ Emily Cooper ยันไปถึงตัวละครคนอื่นๆ ในเรื่อง แถมยังสอดแทรกความหลากหลายของตัวละครได้อย่างพอดีไม่ยัดเยียดจนเกินไป เราสามารถเห็นความแตกต่างของเพศสภาพและเชื้อชาติที่สามารถอยู่ด้วยกันอย่างกลมกลืน อีกสิ่งหนึ่งที่ต้องยกนิ้วให้คือความเก๋าของ Patricia Field ผู้ทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาด้านสไตล์ให้กับซีรีส์เรื่องนี้ โดยเธอใช้เสื้อผ้าในการสะท้อนตัวละครนั้นๆ ได้อย่างน่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็น Emily ที่เหมือนเป็นตัวแทนของสาวอเมริกันที่ต้องพยายามทำตัวให้เข้ากับเมืองปารีส แม้เธอจะพยายามปรับการแต่งตัวของตัวเอง แต่ยังคงความเป็นอเมริกันเกิร์ลไว้อยู่ หรือ Mindy สาวลูกครึ่งเอเชียที่มักมาพร้อมสไตล์ที่ฉูดฉาดบ่งบอกถึงความมั่นใจของตัวเอง และ Syvie บอสสาวใหญ่กับภาพลักษณ์ความเป็น French Chic อย่างแท้จริง

GENIUS PRODUCT PLACEMENT

ซีรีส์ Emily in Paris ถือเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างการทำการตลาดที่ฉลาดมากของแบรนด์แฟชั่น ที่นำโปรดักต์ของตัวเองมาผูกเข้ากับเส้นเรื่องของซีรีส์ที่ฉายทางสตรีมมิง ด้วยจำนวนผู้ชมที่มาก การที่แบรนด์สามารถแทรกตัวเองลงในคอนเทนต์โดยที่ไม่ดูยัดเยียดจนเกินไป ช่วยเพิ่มยอดขายและการรับรู้ของผู้ชมได้อย่างมหาศาล ตัวอย่างเช่น Rimowa ที่ปรากฏแทบจะตลอดทั้งตอนของซีรีส์ในซีซันที่สอง เช่นเดียวกับสินค้า Dior, Vespa และ Chopard’s Happy Diamond ที่ผู้สร้างหยิบสองโปรดักต์นี้มาอยู่ในส่วนหนึ่งของเนื้อเรื่องไปเลย กลายเป็นโปรเจกต์ที่ Emily ต้องนำเสนอขายไอเดีย เป็นอีกหนึ่งวิธีการตลาดที่เราน่าจะเห็นบ่อยขึ้นในซีรีส์แนวนี้จากสตรีมมิง

INCREASE BRAND AWARENESS

อิทธิพลของซีรีส์ Sex and the City เคยทำให้แบรนด์รองเท้าอย่าง Manolo Blahnik และ Christian Louboutin กลายเป็นแบรนด์รองเท้าติดปากของผู้หญิงทั่วโลกมาแล้ว ด้านของ Emily in Paris ก็ใช่ย่อย ด้วยจำนวนผู้ชมที่มากถึง 58 ล้านครัวเรือน ทำให้โชว์นี้ส่งอิทธิพลเป็นอย่างมากต่อผู้ชม ยกตัวอย่างเช่น Faraone Mennella แบรนด์เครื่องประดับที่ได้รับการพูดถึง เป็นที่สนใจเป็นอย่างมากหลังจากปรากฏในโชว์นี้ และซีซันที่สองแบรนด์ยังส่งคอลเล็กชันล่าสุดให้ตัวละครใน Emily in Paris ได้ใส่ก่อนใครอีกด้วย ไม่ใช่แค่นั้น จากรายงานของ Stylight ช้อปปิ้งออนไลน์ชื่อดังได้เปิดเผยว่า หลังจากที่โชว์ฉายในซีซันที่ผ่านมา ไอเท็มจากแบรนด์หรูอย่าง Chanel ปรากฏในโชว์สร้างยอดค้นหาให้กับแบรนด์ดังกล่าวมากกว่า 30% เลยทีเดียว

MIXING LUXURY AND MASS FASHION

อีกหนึ่งข้อที่ทำให้หลายๆ คนหลงรักแฟชั่นของเรื่องนี้คือ ความสมจริงของเสื้อผ้าที่ตัวละครหลักอย่าง Emily เป็นพนักงานเงินเดือน สไตล์ของเธอจึงผสมผสานระหว่างไฮแฟชั่นที่นำมามิกซ์แอนด์แมตช์เข้ากับชิ้นเบสิกอื่นๆ แบบเข้าถึงได้ รวมไปถึงตัวละครอื่นๆ ที่มาจากพื้นฐานที่ต่างกัน เราสามารถเห็นสไตล์และไอเท็มของแต่ละตัวละครที่แตกต่างกัน เช่น Camille เพื่อนสาวคนสนิท French IT Girl ที่มักสวมใส่แบรนด์แฟชั่นจากฝรั่งเศสเป็นส่วนใหญ่ ดังนั้นในโชว์นี้เราจะเห็นความหลากหลายของเสื้อผ้าตั้งแต่แบรนด์ระดับโอต์กูตูร์อย่าง Stephen Rolland ไปจนถึงแบรนด์สตรีทแมสมากๆ อย่าง Shein ก็ล้วนปรากฏในโชว์นี้แบบไม่มีแบ่งแยก

SHOPPABLE CONTENT

ไม่ได้ฉลาดแค่นำโปรดักต์มาใส่ในเรื่องเท่านั้น แต่ Emily in Paris ยังมีวิธีการทำการตลาดที่ร่วมกับแบรนด์แฟชั่นอีกแบบ นั่นก็คือ Shoppable Content หรือเสื้อผ้าที่สามารถซื้อตามจากโชว์ได้ทันที ตัวอย่างเช่นตอนที่ Emily ไปเยี่ยมบ้านครอบครัวของ Camille เธอสวมใส่ชุดนอนสีชมพูและส้มจากแบรนด์ AZ Factory ที่ผู้ชมสามารถซื้อตามได้ทันทีหลังดูตอนนั้นจบ ซึ่งแบรนด์ที่เข้ามาเป็นพาร์ตเนอร์ในการทำคอนเทนต์แบบซื้อได้เลยมีมากมายหลายแบรนด์ เช่น Lancome Paris, Roberto Coin, Barrie, Goossens และ My Beachy Side โดยแบรนด์ที่กล่าวมาจะมีไอเท็มที่เหมือนหรือใกล้เคียงทำออกมาเพื่อวางขายผ่านช่องทางเว็บไซต์ หรือแม้แต่ในห้างสรรพสินค้าอย่าง Saks Fifth Avenue ที่เลือกของตามซีรีส์เปิดโซนให้ช้อปโดยเฉพาะ

CAPSULE COLLECTION

หลังจากที่โชว์ประสบความสำเร็จอย่างมาก ไม่แปลกใจที่แบรนด์แฟชั่นต่างๆ จะหยิบแรงบันดาลใจจากซีรีส์เรื่องนี้มาต่อยอดเป็นคอลเล็กชัน Malone Souliers แบรนด์รองเท้าที่หยิบเอาตัวละครและแฟชั่นจาก Emily in Paris มาสร้างเป็นแคปซูลคอลเล็กชัน โดยคอลเล็กชันนี้แบรนด์ได้นำตัวละครหลักอย่าง Emily, Camille และ Mindy มาเป็นแรงบันดาลใจในการดีไซน์รองเท้าให้แมตช์เข้ากับตัวละครที่เรากล่าวไปข้างต้น และคอลเล็กชันนี้ยังมีรองเท้าผู้ชายที่ตีความมาจากตัวละครผู้ชายอย่าง Gab และ Alfie อิทธิพลของซีรีส์นี้กำลังขยายขอบเขตมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งซีซันที่ 3 ที่กำลังจะมาถึงนี้จะต้องสร้างอะไรใหม่ๆ ให้กับทั้งตัวโชว์และวงการแฟชั่นอย่างแน่นอน

ภาพประกอบ: ฉัตรชัย เฉยชิต

ภาพ: Netflix, Getty Images