×

7 Days in Entebbe: 7 วันแห่งความขัดแย้งที่ทุกคนต่างยก ‘ความดี’ เป็นที่ตั้ง

05.04.2018
  • LOADING...

HIGHLIGHTS

4 Mins read
  • 7 Days in Entebbe คือหนังที่สร้างจากเหตุการณ์ที่ 4 ผู้ก่อการร้ายปฏิบัติภารกิจไฮแจ็คเที่ยวบิน AF-139 ของสายการบินแอร์ฟรานซ์ ในเช้าวันอาทิตย์ที่ 27 มิถุนายน 1976 โดยมีลูกเรือที่เปลี่ยนสถานะมาเป็นตัวประกันร่วม 240 ชีวิต เพื่อแลกกับการกดดันให้รัฐบาลอิสราเอลปล่อยตัวนักโทษการเมืองชาวปาเลสไตน์ 53 คน
  • แต่ไฮไลต์ของหนังไม่ได้อยู่ที่ฉากแอ็กชันบุกช่วยตัวประกันสุดเร้าใจ แต่เป็นเรื่องราวดราม่าและปมความขัดแย้งในใจของตัวละครทุกคนที่ประกอบไปด้วยทั้งเหตุผลส่วนตัวและผลประโยชน์ของประเทศชาติแบบเข้มข้น

7 Days in Entebbe คือหนังที่สร้างจากเรื่องจริงสะเทือนโลก 7 วันในเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ เมื่อ 4 ผู้ก่อการร้าย ประกอบด้วย 2 สมาชิกแนวร่วมเพื่อการปลดปล่อยปาเลสไตน์ (Popular Front for the Liberation of Palestine – PFLP) ที่เคียดแค้นชาวยิวจากปมขัดแย้งทางประวัติศาสตร์เรื่องการแย่งชิงดินแดนศักดิ์สิทธิ์ของปาเลสไตน์ (ประเทศอิสราเอลในปัจจุบัน) และอีก 2 คนเป็นสมาชิกกลุ่มกองโจร Revolutionary Cells (RZ) หนุ่มสาวชาวเยอรมันผู้มีความคิดชาตินิยมสุดขั้น ปฏิบัติภารกิจไฮแจ็คเที่ยวบิน AF-139 ของสายการบินแอร์ฟรานซ์ ในเช้าวันอาทิตย์ที่ 27 มิถุนายน 1976 โดยมีลูกเรือที่เปลี่ยนสถานะมาเป็นตัวประกันร่วม 240 ชีวิต เพื่อแลกกับการกดดันให้รัฐบาลอิสราเอลปล่อยตัวนักโทษการเมืองชาวปาเลสไตน์ 53 คน

 

แต่อย่าเพิ่งเข้าใจผิดว่าหนังเรื่องนี้จะเต็มไปด้วยฉากแอ็กชันเพื่อช่วยเหลือตัวประกันให้มีชีวิตรอด เพราะไฮไลต์จริงๆ ของหนังอยู่ที่เหตุการณ์ 6 วันที่เหลือ เมื่อกลุ่มผู้ก่อการร้ายนำเครื่องบินลงจอดที่สนามบินเอ็นเทบเบ ประเทศยูกันดา และต่างฝ่ายต่างต้องปฏิบัติภารกิจของตัวเอง ตั้งแต่รัฐบาลอิสราเอลที่ต้องประชุมหามาตรการที่ ‘เหมาะสม’ อย่างเร่งด่วน การคุมเกมเพื่อต่อรองผลประโยชน์ของกลุ่มผู้ก่อการร้าย การพยายามเอาชีวิตรอดของลูกเรือ การกดดันรัฐบาลจากครอบครัวเพื่อให้ช่วยชีวิตตัวประกัน และกลุ่มทหารชาวอิสราเอลในชื่อ ‘ปฏิบัติการสายฟ้าฟาด’ (Operation Thunderbolt)

 

เพราะฉะนั้นคุณต้องผิดหวังเล็กน้อย หากต้องการบันเทิงไปกับฉากแอ็กชันแบบเต็มรูปแบบ แต่ถ้าคุณต้องการเสพเรื่องราวดราม่าและปมความขัดแย้งในใจของตัวละครทุกคนที่ประกอบไปด้วยทั้งเหตุผลส่วนตัวและผลประโยชน์ของประเทศชาติแบบเข้มข้น 7 Days in Entebbe คือหนึ่งในตัวเลือกที่น่าสนใจ

ความน่าสนใจของภารกิจในครั้งนี้อยู่ที่ทุกคนที่มีส่วนร่วมล้วนแสดงออกถึงการตัดสินใจที่แตกต่างกัน แต่ทั้งหมดมีจุดร่วมเพียงหนึ่งเดียว คือเชื่อว่าสิ่งที่ตนกระทำลงไปนั้นอยู่บนพื้นฐานของ ‘ความดี’ และ ‘ความยุติธรรม’ ในระบบความคิดของตัวเอง

 

ตั้งแต่กลุ่มผู้ก่อการร้ายที่ต้องการทวงคืนดินแดนที่ตัวเองสูญเสียไปพร้อมกับเรียกร้องความอิสระให้กับเพื่อนร่วมอุดมการณ์ แต่ในขณะเดียวกันก็ไม่มีใครอยากทำร้ายตัวประกัน โดยเฉพาะสองผู้ก่อการกลุ่ม RZ ที่ก่อนจะมาปฏิบัติภารกิจยิ่งใหญ่เช่นนี้ พวกเขายังไม่เคยลงมือฆ่าใครมาก่อนด้วยซ้ำ

 

ฝ่ายรัฐบาลที่ต้องตัดสินใจอย่างรอบคอบว่าจะเลือกชีวิตของลูกเรือบนเครื่องบินและยอมทำตามข้อเสนอของผู้ก่อการร้าย แต่อาจส่งผลให้เหตุการณ์นี้เป็นต้นแบบให้เกิดเหตุการณ์ทำนองเดียวกันตามมาในภายหลัง หรือจะเลือกใช้ไม้แข็งจัดการผู้ก่อการร้ายให้สิ้นซาก แต่ก็อาจต้องแลกมากับชีวิตผู้บริสุทธิ์อีกหลายร้อยชีวิต รวมทั้งประเด็นสำคัญในการชั่งน้ำหนักระหว่าง ‘งบประมาณ’ อันจำกัดที่ต้องใช้ไปกับการพัฒนาศักยภาพของกองทัพในวันที่สถานการณ์ของประเทศยังไม่มั่นคง ในขณะที่งบประมาณด้านการศึกษาถูกจำกัดให้มีความสำคัญรองลงไป

 

ฝ่ายรัฐบาลยูกันดาที่ออกมาสนับสนุนกลุ่มผู้ก่อการร้ายเพื่อผลประโยชน์ของประเทศตัวเอง กลุ่มครอบครัวของลูกเรือที่คิดถึงเพียงอย่างเดียวคือชีวิตของบุคคลผู้เป็นที่รักเท่านั้น รวมไปถึงเหล่าทหารหาญผู้มีความคิดฝังหัวว่า ‘คำสั่ง’ ของประเทศชาติคือสิ่งเดียวที่พวกเขาต้องยึดถือและปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด ไม่ว่าจะต้องแลกมาด้วยอะไรก็ตาม

 

 

เพราะฉะนั้นสิ่งที่คนดูจะได้เห็นตลอดเวลาเกือบ 1 ชั่วโมง 50 นาที จึงเต็มไปด้วยการ ‘ต่อสู้’ ผ่านบทสนทนาของตัวละคร ‘สีเทา’ ที่แม้บางการตัดสินใจอาจจะโหดร้าย ขัดกับหลักมนุษยธรรม แต่เราก็ไม่อาจฟันธงลงไปได้อย่างร้อยเปอร์เซ็นต์ว่านั่นคือการกระทำที่ต่ำช้าเลวทราม เพราะทุกคนล้วนมี ‘เหตุผล’ ที่หนักแน่นในการออกมาต่อสู้เรียกร้องอะไรบางอย่างอยู่เสมอ

 

Photo: www.palucca.eu

 

อีกสิ่งหนึ่งที่น่าสนใจมากใน 7 Days in Entebbe คือสัญญะที่สอดแทรกมาในหนังเป็นระยะผ่านการแสดง Chair Dance ชุด Echad Mi Yodea (ถูกสร้างขึ้นมาในปี 1990 เพื่อสร้างความชอบธรรมให้กับภารกิจช่วยตัวประกันที่เอ็นเทบเบ) Batsheva Dance Company กลุ่มนักเต้นคอนเทมโพรารีที่มีชื่อเสียงโด่งดังระดับโลก (กำกับโดย โอฮาด นาราฮิน นักออกแบบท่าเต้นชาวอิสราเอล) ที่สะท้อนให้ถึงความสัมพันธ์อันขัดแย้งของความคิดที่แตกต่างกันในเรื่อง ‘สงคราม’ ทั้งสองขั้ว

 

การเคลื่อนไหวของนักแสดงทั้งหมดสื่อให้เห็นถึงความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นในทุกๆ ครั้งที่เกิดความรุนแรง และเมื่อเวลาผ่านไป นักแสดงทุกคนจะค่อยๆ ปลดเปลื้องเครื่องแต่งกายของตัวเองออกทีละชิ้น หากเปรียบเทียบเสื้อผ้าที่ถูกปลดจนเกือบเปลือยเปล่าให้เหมือนกับอคติหรือกรอบ ‘ความเชื่อ’ ที่บีบรัด คนกลุ่มแรกก็กำลังนำตัวเองออกไปจากปัจจัยเสี่ยงที่จะทำให้เกิดความรุนแรง หากแต่จะมีอยู่หนึ่งคนเท่านั้นที่ไม่ทำเหมือนคนอื่น เอาแต่ทิ้งตัวลงจากเก้าอี้และโอบกอดความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นเอาไว้แต่เพียงผู้เดียว

 

สิ่งที่น่าเศร้าก็คือไม่ว่าเวลาเหตุการณ์ใน 7 Days in Entebbe จะผ่านมาแล้วเกือบ 42 ปี หรือถ้าย้อนไปถึงความขัดแย้งทั้งหมดที่เคยเกิดขึ้นด้วยน้ำมือมนุษย์จะผ่านไปกี่ร้อยหรือพันปีก็ตาม ก็ยังมีกลุ่มคนที่ไม่ยอมปลด ‘พันธนาการ’ เก่าๆ ไปสู่การหาทางออกด้วยวิธีการที่ปราศจากความรุนแรง พร้อมที่จะทิ้งตัวลงจากเก้าอี้ และส่งต่อความเจ็บปวดเหล่านั้นให้ทวีความรุนแรงยิ่งขึ้นไปอย่างไม่มีทีท่าจะจบสิ้นลง

 

การแสดงชุด Echad Mi Yodea ของคณะ Batsheva Dance Company

 

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising
X