×

เฌอปราง อารีย์กุล กับ 6 บทสนทนา ที่สะท้อนแง่มุมความคิดในวันที่ได้เป็นชิไฮนินแห่ง BNK48

19.02.2023
  • LOADING...

THE STANDARD POP เปิดบ้านต้อนรับ เฌอปราง อารีย์กุล มาร่วมพูดคุยถึงการเดินทางครั้งใหม่ในฐานะชิไฮนิน (ผู้จัดการวง) แห่ง BNK48 พร้อมอัปเดตชีวิตในปัจจุบัน ทั้งการเปิดอินสตาแกรมใหม่ที่เปิดเผยแง่มุมอีกด้านของตนเอง การรับมือกับอาการ Burnout บทเรียนที่ได้รับจากการทำงานในตำแหน่งชิไฮนิน กัปตัน และเมมเบอร์ ไปจนถึงความสุขในปัจจุบันที่ได้เล่นสนุกกับน้องๆ เมมเบอร์ 

 

 


 

1. 

 

 

“จะเป็นโมเมนต์งงๆ อยู่ๆ มีน้องๆ ในวงเดินมาขอบคุณเรา บอกว่าดีใจที่เฌอยังอยู่กับเขา เราก็โอเค เรามาผ่านไปด้วยกัน เรามาสู้ไปด้วยกัน อย่างไรก็ฝากตัวกับน้องๆ ด้วยเหมือนกันค่ะ”

 

เฌอปราง อารีย์กุล กัปตันและชิไฮนินวง BNK48 ให้สัมภาษณ์ถึงปฏิกิริยาของน้องๆ ในวง หลังรับทราบว่าเธอได้รับเลือกให้เป็นชิไฮนินคนใหม่ของวง BNK48

 


 

2. 

 

 

“ด้วยหน้าที่ตรงนี้ได้รับ Job Description มาว่า จะต้องเป็นคนที่เสนอรายชื่อให้ทางผู้ใหญ่ว่าใครจะต้องไปกิจกรรมไหนของวง ใครควรอยู่ในซิงเกิลนี้ หรือเป็นเพลงอะไร แบบไหนบ้าง ด้วยความที่โอกาสในแต่ละเพลงมีไม่ครบจำนวนเมมเบอร์ที่มีอยู่ 45 คน ณ ตอนนี้ อาจจะได้เซ็มบัตสึ 16 บ้าง โปรเจกต์ต่างๆ เท่าไรบ้าง ก็เลยรู้สึกว่าจะต้องมีความไม่พอใจจากแฟนคลับของเมมเบอร์หลายๆ คนแน่ๆ ว่าทำไมคนนั้นไม่ได้ ทำไมคนนี้ไม่ได้ 

 

“ด้วยการพิจารณาหลายๆ อย่าง หลายๆ ปัจจัยแล้ว โอกาสมีอยู่เท่านั้นจริงๆ เราก็จะพยายามเฉลี่ยให้ได้มากที่สุดในการออกอีเวนต์ต่างๆ หรือว่ากิจกรรมต่างๆ ของวง ก็คิดว่าน่าจะต้องไม่ครบแน่ๆ หรืออาจจะได้ไม่ทั่วถึงขนาดนั้น 

 

“ก็เลยทำใจนิดหน่อยว่าน่าจะต้องมีความไม่พอใจเกิดขึ้นจากแฟนคลับบางส่วนของเมมเบอร์บางคน แตจะทำให้ดีที่สุดนะคะ ตอนนี้พยายามจดบันทึกเมมเบอร์ที่ออกอีเวนต์ต่างๆ พยายามเฉลี่ยให้ดีที่สุดค่ะ แต่มีหลายปัจจัยมากนะคะ ทั้งจากทีมงานด้วย ทางผู้ใหญ่ด้วย แล้วบางทีก็เป็นความพร้อมของเมมเบอร์ด้วยค่ะ”

 

เฌอปราง อารีย์กุล กัปตันและชิไฮนินวง BNK48 ให้สัมภาษณ์ถึงหน้าที่ที่ตนเองต้องพบเจอเมื่อได้รับหน้าที่เป็นชิไฮนิน นั่นคือการมีส่วนร่วมในการคัดเลือกเมมเบอร์เพื่อทำกิจกรรมต่างๆ ของวง และด้วยโอกาสที่มีอยู่อย่างจำกัด จึงอาจทำให้มีแฟนคลับบางส่วนของเมมเบอร์บางคนเกิดความไม่พอใจได้  

 


 

3. 

 

 

“ทุกเรื่องมีผ่านมาแล้วก็ผ่านไปค่ะ ไม่ว่าจะดีร้าย ดีใจ เสียใจ หรือทุกข์ สุข เศร้า มันเข้ามา ณ โมเมนต์นี้ แล้วมันก็จะผ่านไปหมดเลย ตราบใดที่ยังหายใจอยู่เฌอก็โอเค แล้วเราจะเอาอย่างไรต่อกับชีวิต 

 

“มันกลายเป็นว่าเราเริ่มเห็นความขึ้นๆ ลงๆ หรือเริ่มเข้าใจคนที่สูงอายุมากๆ ที่เขาสามารถปล่อยอะไรได้เร็วมาก เพราะเขาคงชินกับการที่ว่าเดี๋ยวมันก็ผ่านไป จนตอนนี้เฌอรู้สึกเริ่มเห็นความจำเจว่าแล้วเราจะอย่างไรต่อ แต่ก็ยังสนุกกับการได้ทำสิ่งต่างๆ การได้เจอผู้คนอยู่ ก็เลยเป็นความสงสัย แต่ความสงสัยนี่ต้องช่างมัน เพราะมันจะหาคำตอบให้ตัวเองไม่ได้สักที ”

 

เฌอปราง อารีย์กุล กัปตันและชิไฮนินวง BNK48 ให้สัมภาษณ์ถึงบทเรียนที่เธอได้รับภายหลังจากการได้ทำงานทั้งในฐานะของเมมเบอร์ กัปตันวง และชิไฮนิน

 


 

4. 

 

 

“เฌอเข้าใจความกลัว และเฌอเข้าใจความอยากทำให้เต็มที่ของตัวเองเช่นกัน เพราะเรารู้สึกว่าไหนๆ ก็ใช้เวลาทำแล้วก็ทำให้ดีที่สุดสิ อายุของเรา ณ โมเมนต์นี้มีผ่านไปแค่ครั้งเดียว แต่ดีที่สุดของแต่ละคนไม่เหมือนกัน ดีที่สุดของ ณ ตอนนั้นที่ร่างกายเราจะทำได้ไม่เหมือนกันในแต่ละวัน 

 

“ก็เลยรู้สึกว่าคอนดิชันแต่ละอย่างไม่เหมือนกันอยู่แล้ว และเข้าใจว่าทำไมทำให้ดีที่สุดในแต่ละครั้งอาจจะไม่เหมือนกัน ในความคาดหวังของตัวเองด้วย และอีกเหตุผลที่เรากลัวการไม่ได้ทำให้ดีที่สุดก็คือ ไม่อยากให้เกิดโมเมนต์ที่เสียดายเวลาที่เกิดขึ้นหรือสิ่งที่ได้ทำไป เพราะมันผ่านมาแล้ว แล้วมันก็จะผ่านไปจริงๆ ก็เลยเข้าใจตัวเองทั้งสองด้าน

 

“แต่ตอนนี้ต้องเรียนรู้ว่าบางทีการค่อยๆ ทำหรือสโลว์ตัวเองลงไปมันก็ดีไปอีกแบบเหมือนกัน ไม่ได้ปล่อยไปเฉยๆ แต่เราแค่ใช้เวลาฟูมฟักให้ออกมาในอีกรูปแบบหนึ่งต่างหากหรือเปล่า กำลังลองวิธีใหม่ๆ ลองไปเรื่อยๆ ชีวิตเราทดลองทำโน่นนี่ไปเรื่อยๆ เรียนรู้ไปเรื่อยๆ ค่ะ”

 

เฌอปราง อารีย์กุล กัปตันและชิไฮนินวง BNK48 ให้สัมภาษณ์ถึงเหตุผลที่ตนเอง ‘กลัวการทำสิ่งต่างๆ ได้ไม่เต็มที่’ รวมถึงการเรียนรู้ที่จะลองค่อยๆ ทำสิ่งต่างๆ ไปอย่างช้าๆ ก็อาจทำให้เกิดผลลัพธ์ที่ดีในอีกรูปแบบหนึ่ง

 


 

5.

 

 

“สิ่งที่ Made My Day ของเฌอยังคงเป็นการได้กินของหวานค่ะ เฌอยังแฮปปี้กับการได้กินของหวานเวลาที่เครียดๆ กับอีกอย่างหนึ่งก็เป็นโมเมนต์ที่ได้ไปเล่นกับน้องๆ ชอบนั่งดูเด็กๆ เล่นกัน รู้สึกว่าตัวเองได้รับพลังงานบางอย่าง เป็นความสดใสที่เขากำลังสนุก กำลังเติบโตในวัยของเขา เหมือนพอเราโตขึ้นแล้วพาร์ตเหล่านั้นมันค่อยๆ จางลงไปเรื่อยๆ การได้ไปเจอน้องเราก็จะได้รับพาร์ตเหล่านั้นกลับมา หรือน้องๆ ดึงพาร์ตเหล่านั้นของเรากลับขึ้นมา ก็จะเป็นสิ่งที่ทำให้เราสนุกสนานมากขึ้น”

 

เฌอปราง อารีย์กุล กัปตันและชิไฮนินวง BNK48 เล่าถึงสิ่งที่ทำให้ตนเองมีความสุขในแต่ละวัน คือการได้กินของหวานและได้ทำกิจกรรมร่วมกับน้องๆ เมมเบอร์

 


 

6. 

 

 

“ด้วยความที่เฌอเรียนสายวิทยาศาสตร์มาตั้งแต่เด็กๆ เรารู้สึกว่าเราชอบเรื่องนี้และทำได้ดีกว่าวิชาอื่นๆ ก็เลยรู้สึกว่างานเหล่านี้อาจจะติดตัวมา และกลายเป็นว่าเฌอนำมาประยุกต์ใช้ในทุกพาร์ตของการใช้ชีวิตมากกว่า หรือมองในมุมของการหาว่าอะไรคือสมมติฐาน อะไรคือเหตุ อะไรคือผล แยกย่อยมันให้ชัดเจน

 

“พอเรียนเยอะๆ หรือใช้มันบ่อยๆ ในการทำโปรเจกต์ต่างๆ เราก็เลยมานั่งคิดว่าชีวิตเราก็คล้ายๆ กัน ทำโปรเจกต์ ตั้งสมมติฐานแล้วก็ทดลองหาคำตอบ กาแฟแก้วนี้อร่อยไหมนะ เราก็เลยไปซื้อมาลองกิน อร่อยโอเคซื้อต่อ หรืออันนี้ไม่ใช่แนวเราก็อาจจะไม่กินแล้ว มันคือสิ่งที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวันของเฌอ เรื่องนี้อยากรู้จังเลยก็เลยไปลองให้รู้ หรืออันนี้เราไม่มีโอกาสได้ลอง แต่เราพอจะหาทางให้เราพอจะเห็นภาพได้ไหมว่ามันเป็นอย่างไร 

 

“หรือชีวิตก็เหมือนกัน เฌอก็ลองหาวิธีในการที่จะอยู่กับทุกๆ วันให้ดีที่สุด ไม่ต้องสุขที่สุด ไม่ต้องทุกข์ที่สุด หรือทุกข์ที่สุดก็รับมือกับมันได้ สุขที่สุดก็รับมือกับมันได้ แล้วก็อยู่กันไปได้ในทุกๆ วัน”

 

เฌอปราง อารีย์กุล กัปตันและชิไฮนินวง BNK48 เล่าถึงการนำความรู้ทางวิทยาศาสตร์ที่ตนเองชื่นชอบมาประยุกต์ใช้กับการดำเนินชีวิตในแต่ละวัน จนกลายเป็นส่วนหนึ่งของเธอ 

 

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising
X