นอกจากเทรนด์คาเฟ่สเปเชียลตี้มัทฉะจะกำลังมาแรงในช่วงปีที่ผ่านมา ล่าสุดหลายๆ คาเฟ่เองก็ได้ทยอยคิดค้นและพัฒนาขนมหวานจากมัทฉะหลากหลายเมนูออกมาชวนให้คนรักมัทฉะและรักขนมหวานได้ตามไปลองกันไม่เว้นแต่ละวัน
หนึ่งในขนมหวานยอดฮิตที่กำลังถูกพูดถึงที่มากที่สุด ณ ขณะนี้ก็คงจะหนีไม่พ้นเมนู ‘มัทฉะบานอฟฟี่’ ขนมที่ทวิสต์มาจาก ‘บานอฟฟี่พาย’ (Banoffee Pie) จากประเทศอังกฤษ เมนูนี้ห้อยท้ายว่าพาย เพราะบานอฟฟี่นั้นมีฐานรองตัวขนมที่ทำมาจากบิสกิตและเนย มีองค์ประกอบหลัก ได้แก่ ชั้นครีมสดที่ถูกท็อปอยู่ด้านบนตัวขนม, กล้วย วัตถุดิบหลักที่ให้ความหวานฉ่ำ และชั้นทอฟฟี่ หรือซอสคาราเมลชั้นหนาๆ ให้ความหอมหวานอมไหม้ ก่อนจะถูกพัฒนาและคิดค้นด้วยการนำมาใส่ช็อกโกแลต กาแฟ หรือแม้กระทั่งมัทฉะนั่นเอง
ถึงแม้ว่าโครงสร้างและองค์ประกอบหลักของบานอฟฟี่นั้นจะคล้ายกันเสียส่วนใหญ่ แต่แน่นอนว่าทั้งลักษณะการเสิร์ฟที่แตกต่างกัน การเลือกวัตถุดิบ การเรียงชั้นองค์ประกอบของแต่ละร้าน รวมไปถึงรสชาติเองนั้นก็จะให้เสน่ห์เป็นเอกลักษณ์ที่แตกต่างกันออกไป หวนให้นึกถึงและเป็นที่น่าจดจำของผู้ที่ได้ลิ้มลองเลยทันที THE STANDARD POP ไม่รอช้า รวบรวมเช็กลิสต์ 6 ร้านมัทฉะบานอฟฟี่มาให้ ใครสนใจไปตามเก็บกันได้เลย
เมนู Matcha Ichigo (ราคา 260 บาท), เมนู Matcha Banoffee (ราคา 210 บาท)
1. Entree Coffee & Brunch
ถึงแม้จะไม่ใช่คาเฟ่ที่เริ่มผลิตมัทฉะบานอฟฟี่ออกมาให้แฟนๆ ได้ลิ้มลองกัน แต่ Entree Coffee & Brunch นั้น ถือเป็นคาเฟ่เครื่องดื่ม-ขนมหวานที่ทำให้เทรนด์มัทฉะบานอฟฟี่กลับมาฮิตอีกครั้ง!
เมื่อพูดถึงเมนู ‘Matcha Banoffee’ (ราคา 210 บาท) ของ Entree แล้วนั้น ก็คงนึกถึงอะไรไปไม่ได้นอกซะจาก ‘กล่องสี่เหลี่ยม’, ‘สีมัทฉะเขียวสวย’ และ ‘ความหวานน้อย’ เหมาะสำหรับคนรักสุขภาพที่อยากจะกินขนมอร่อยๆ กับเขาบ้าง และในส่วนขององค์ประกอบของเมนูมัทฉะบานอฟฟี่ของทางร้านเองนั้นจะประกอบด้วย ชั้นครีมสดนุ่มๆ ที่ถูกโรยด้วยผงมัทฉะท็อปอยู่ชั้นบนสุดของตัวขนม ก่อนจะตามมาด้วยชั้นกล้วยที่ถูกสไลซ์มาในขนาดใหญ่แบบจุใจ ตามมาด้วยชั้นไคลแมกซ์อย่างมัทฉะกานาชที่ทางร้านได้เลือกใช้มัทฉะสายพันธุ์โอคุมิโดริ (Okumidori) จากเมืองอูจิในแบบฉบับที่ไม่ได้ปรุงแต่งความหวานอะไรเพิ่มเติม มาให้ได้ลิ้มรสชาติความเข้มจากมัทฉะแท้ๆ ผสมผสานไปกับชั้นคาราเมลที่ให้ความหอมหวาน และชั้นฐานครัมเบิลที่มีความฉ่ำเนย ให้ความเค็มตัดรสขององค์ประกอบโดยรวมได้อย่างดี
และสำหรับใครที่ไม่ชอบกินกล้วย ทาง Entree เองก็ยังมีเมนู ‘Matcha Ichigo’ (ราคา 260 บาท) ซึ่งจะเปลี่ยนวัตถุดิบจากกล้วยและคาราเมลมาเป็นสตอว์เบอร์รีและถั่วแดง เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าลองไม่แพ้กัน
Entree Coffee & Brunch
ที่อยู่: 130/7 ซอยสีลม 8 กรุงเทพฯ 10500
https://www.instagram.com/entreebkk/
ภาพ: @entreebkk
เมนู Matcha Panna Cotta (ราคา 130 บาท) และ Matcha Banoffee (ราคา 180 บาท)
2. MTCH™
เมื่อให้ลองนึกถึงคาเฟ่สเปเชียลตี้มัทฉะในดวงใจของใครหลายๆ คน แน่นอนว่าหนึ่งในนั้นจะต้องมีชื่อร้าน MTCH หรือ Contemporary Matcha Bar ย่านอารีย์อยู่ด้วยแน่ เพราะด้วยกระแสตอบรับและคอมมูนิตี้มัทฉะที่เพิ่มมากขึ้นในช่วงปีที่ผ่านมา ทำให้ MTCH ก็เพิ่งเปิดตัวสาขาใหม่ที่ The Circle ราชพฤกษ์ไปเมื่อต้นเดือนตุลาคม 2564 พร้อมทั้งยังได้ออกเมนูขนมหวานใหม่อย่าง ‘Matcha Banoffee’ และ ‘Hojicha Banoffee’ (ราคา 180 บาท) ในแบบฉบับของทางร้านเพื่อเอาใจแฟนๆ ที่รอลิ้มลองกันอยู่ด้วย
สำหรับเมนูมัทฉะบานอฟฟี่ของ MTCH นั้นจะถูกเสิร์ฟมาในถ้วยพลาสติกทรงคล้ายถ้วยข้าวหรือถ้วยน้ำพริก ซึ่งถ้าหากมองดูเผินๆ แล้วอาจจะทำให้รู้สึกว่าปริมาณขนมนั้นค่อนข้างน้อย แต่เมื่อได้ลิ้มรสเข้าไปแล้วนั้น ไซส์ขนาดนี้นี่แหละที่ทำเอาเราอิ่มแปล้ ลืมมื้ออาหารไปได้เลย เพราะด้วยชั้นมัทฉะกานาชที่ไม่เหมือนใคร ทั้งความเข้มข้นของมัทฉะสายพันธุ์ยาบูคิตะจากเมืองยาเมะ จังหวัดฟุกุโอกะ เทียบเท่ากับไอศกรีมระดับ Very Strong หรือ No.4 ของทางร้าน และเท็กซ์เจอร์ที่ตั้งใจทำออกมาให้ลูกค้านั้นได้เคี้ยวหนึบหนับ สัมผัสคล้ายนามะช็อกโกแลต ผสมผสานไปกับความนุ่มละมุนของชั้นครีมสด ความหวานฉ่ำของกล้วยที่สุกกำลังพอดี ไปจนถึงชั้นคาราเมลที่จะให้ความหวาน และความหอมเนยจากชั้นครัมเบิล ช่วยให้ถ้วยนี้เข้มข้นและบาลานซ์กันได้พอดี
หากใครที่ลิ้มลองเมนูมัทฉะบานอฟฟี่ของ MTCH กันไปแล้ว ก็อย่าลืมสั่ง ‘Hojicha Banoffee’ บานอฟฟี่ที่ทางร้านได้เลือกใช้เป็นโฮจิฉะคั่วอ่อนจากเมืองโทโด (Todo) จังหวัดอูจิให้รสชาติที่เข้มกำลังดี หอมกลิ่นคั่วคล้ายกาแฟ มาลองกันด้วยนะ
MTCH™
ที่อยู่: ซอยพหลโยธิน 5 (สาขาอารีย์) และ ยูนิต C 18 The Circle ถนนราชพฤกษ์
https://www.instagram.com/mtch.bkk/
รีวิวฉบับเต็ม: https://thestandard.co/mtch-the-circle-branch/
ภาพ: @mtch.bkk
เมนู Banocha (ราคา 170 บาท)
3. KATE Artisan Japanese Tea
คาเฟ่สเปเชียลตี้มัทฉะหลังเล็กๆ ย่านเหม่งจ๋าย ขุมทรัพย์เรื่องมัทฉะ ขนมหวาน และเมนูสุดครีเอทีฟที่หลายๆ คนยังไม่รู้จัก
สำหรับ KATE Artisan Japanese Tea เป็นคาเฟ่มัทฉะที่มุ่งเน้นการใช้วัตถุดิบชั้นดีและความโฮมเมด เพราะไม่ว่าจะเป็นองค์ประกอบหลัก ซอส หรือครีมสดในเมนูไหนๆ ทางร้านก็จะทำสดๆ ให้ดูกันต่อหน้าต่อตา ไม่ว่าจะเป็น เมนูมัทฉะลาเต้ซอสโฮมเมดเฟรนช์ช็อกโกแลต และคาราเมลอย่าง ‘Autumn Forest’ หรือจะเป็นเมนูมัทฉะฟิวชันซอสโฮมเมดสตอว์เบอร์รีอย่าง ‘Matcha Strawberry’ รวมไปถึงเมนูมูสเค้ก และขนมหวานอย่างครอฟเฟิลที่มีซอสดิปสไตล์โฮมเมดให้เลือกสั่งกว่า 4 รสชาติอีกด้วย
เมื่อคำว่า ‘โฮมเมด’ นั้นได้กลายเป็นกิมมิกหลักของทางร้าน ในบางครั้งบางคราเราอาจจะได้ลิ้มรสเมนูขนมหวานอย่างมัทฉะบานอฟฟี่ หรือ ‘Banocha’ (170 บาท) ในฉบับที่สดใหม่ วางเสิร์ฟอยู่ตรงหน้าเลยทันทีก็เป็นได้ ที่ซึ่งองค์ประกอบหลักของบานอฟฟี่จะประกอบไปด้วย ชั้นครีมสดที่นุ่มละลายในปาก โรยด้วยผงมัทฉะแบบจัดเต็ม พร้อมทั้งตกแต่งด้วยแผ่นทองคำแบบฟู้ดเกรดช่วยเพิ่มความหรูหราให้กับเมนูขนมถ้วยนี้ได้อย่างดี ก่อนที่จะตักลงไปเจอชั้นโฮมเมดคาราเมลหวานหอมไหม้เล็กๆ ในแบบที่ไม่ซ้ำใคร ตามมาด้วยชั้นมัทฉะกานาชสีเขียวสวยจากเมืองฟุกุโอกะที่จะให้รสชาติหวานผสมผสานไปกับกลิ่นสโมกกี้เล็กน้อย และฐานครัมเบิลที่ทำมาจากโอริโอ้ ตัดกับความขมของผงมัทฉะที่ถูกโรยท็อปตัวขนมได้อย่างลงตัว
สำหรับใครที่นึกถึงรสชาติออริจินัลของบานอฟฟี่นั้น ทางร้าน KATE ก็ยังมีเมนู ‘Banoffee Chocolate Fresh Cream’ (ราคา 125 บาท) มาให้เลือกสั่งด้วยเช่นกัน
KATE Artisan Japanese Tea
ที่อยู่: 518 ถนนประชาอุทิศ 15 วังทองหลาง กรุงเทพฯ 10310
https://www.instagram.com/kate.artisan/
ภาพ: ศิรภัสสร ขาวตระกูล
เมนู Matcha Banoffee (ราคา 145บาท)
4. Samatea Cafe しゅうちゅう
สมาธิคาเฟ่ หรือคาเฟ่มัทฉะสไตล์ญี่ปุ่นย่านพระราม 2 ที่ใครๆ ไปแล้วก็ต้องตกหลุมรักกับทั้งการตกแต่งของร้าน เมนูเครื่องดื่ม ขนมวากาชิ (Wagashi) อย่าง โมจิหยดน้ำ วาราบิโมจิ ดังโงะ หรือจะเป็นเมนูพุดดิ้งงาดำ และขนมหวานโฮมเมดที่หลากหลาย รวมไปถึงน้องแมวเจ้าของร้านสุดน่ารักอีกด้วย
เมนูมัทฉะบานอฟฟี่นั้นอาจจะไม่ใช่เมนูที่ใหม่ล่าสุดสำหรับสมาธิคาเฟ่ แต่เป็นเมนูที่มีการพัฒนาและปรับเปลี่ยนทั้งรูปทรงและสูตรของขนมอยู่เรื่อยๆ ล่าสุดทางร้านเองก็เพิ่งจะเปลี่ยนลักษณะการเสิร์ฟบานอฟฟี่จากรูปทรงสามเหลี่ยมคล้ายชิ้นขนมเค้ก มาเสิร์ฟแบบทรงสูง พร้อมกับครีมสดนุ่มๆ ที่ถูกบีบขึ้นรูปอย่างสวยงาม โรยด้วยผงมัทฉะเล็กน้อย ตามมาด้วยชิ้นกล้วยที่ถูกฝานกลมๆ ให้รสชาติที่หวานกำลังดี แถมยังแทรกไปด้วยมัทฉะกานาชจากจังหวัดอูจิให้รสชาติที่กินง่ายแบบเพลินๆ ปิดท้ายกันไปด้วยชั้นครัมเบิลหอมมันเนยอีกตามเคย
สำหรับมัทฉะบานอฟฟี่ของสมาธิคาเฟ่ เรียกได้ว่าเป็นเมนู A Must ที่ต้องสั่งเมื่อได้ไปเยือนถึงพระราม 2 ไม่อย่างนั้นก็จะเหมือนไปไม่ถึงสมาธิคาเฟ่เลยทีเดียว
Samatea Cafe しゅうちゅう
ที่อยู่: 112 ซอยพระราม 2/37 ถนนพระราม 2 บางมด จอมทอง กรุงเทพฯ 10150
https://web.facebook.com/samateacafe
ภาพ: Samatea Cafe しゅうちゅう สมาธิคาเฟ่
เมนู Matcha Banoffee (ราคา 230 บาท)
5. Home.matcha
โฮมมัทฉะ หรือคาเฟ่มัทฉะในบ้านหลังเล็กย่านพระราม 9 ที่เรียกได้ว่าเปรียบเสมือนสถานที่แรกๆ หรือผู้บุกเบิกเมนูขนมไลน์มัทฉะเกือบทั้งหมดทั้งมวล ไม่ว่าจะเป็นเมนู Matcha Brownie, Matcha Cheesecake Tart, Matcha Purin หรือแม้กระทั่งเมนู Matcha Banoffee ที่ก็มีเมนูขนมสุดครบครันมาให้สายมัทฉะนั้นได้ลิ้มรสชาติกันมานานแล้วอีกด้วย
เมื่อพูดถึงมัทฉะบานอฟฟี่ของร้านโฮมมัทฉะ สิ่งแรกที่นึกถึงเลยคือ ‘ฐานโอริโอ้’ และ ‘ไซส์ขนมที่ใหญ่แบบจุใจ’ โดยตัวเมนูบานอฟฟี่นั้นก็จะถูกเสิร์ฟมาในทรงสามเหลี่ยมคล้ายชิ้นขนมเค้กที่ถูกอัดแน่นไปด้วยชั้นครีมสดละมุนลิ้นโรยด้วยผงมัทฉะแบบจัดเต็ม มาพร้อมกับชั้นมัทฉะเลเยอร์สีเขียวเข้มสะใจที่ให้รสชาติของความหวานเล็กๆ ปะปนไปกับความขมเข้ากันได้ดีไปกับความหวานฉ่ำของกล้วยที่ต้องขอยกให้เป็นตัวชูโรงของเมนูนี้เลยก็ว่าได้ และเมื่อตักครบทุกองค์ประกอบแล้วนั้น ก็จะพบกับซอสคาราเมลให้รสชาติหวานหอมเคลือบตัวขนมไปทั้งหมด ก่อนจะปิดท้ายไปด้วยฐานโอริโอ้ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของโฮมมัทฉะนั่นเอง
Home.matcha
ที่อยู่: พระราม 9 ซอย 43 แยก 21
https://www.instagram.com/home.matcha/
ภาพ: @home.matcha
เมนู Matcha Banoffee (ราคา 225 บาท)
6. Tealily Cafe Ekkamai
Tealily Cafe Ekkamai เป็นคาเฟ่มัทฉะแห่งแรกๆ ที่ตั้งอยู่ในซอยเอกมัย 12 โดยสถานที่แห่งนี้มาพร้อมกับความทรงจำของการริเริ่มดื่ม การทำความรู้จักกับมัทฉะ รวมไปถึงชาเขียวญี่ปุ่นของใครหลายๆ คนเลยก็ว่าได้ ที่ซึ่งในปัจจุบันนี้เอง Tealily Cafe ก็ยังคงเปรียบเสมือนบ้านชาหลังเล็กๆ หรือสถานที่พบปะของคนรักมัทฉะในยุคก่อนๆ อยู่ด้วยเช่นกัน
เพราะการคิดถึงทำให้ใครหลายๆ คนยังคงแวะเวียนไปลิ้มรสชิมขนมหวานไลน์มัทฉะของ Tealily Cafe อยู่เสมอ โดยเมนูขนมหวานรอย่าง ‘Matcha Banoffee’ (ราคา 225 บาท) ก็เป็นอีกหนึ่งเมนูที่ผู้ไปเยือนนั้นต่างก็บอกเป็นเสียงเดียวกันว่า รสชาติยังคงเหมือนเดิม หรือเป็นรสชาติแสนคอมฟอร์ตของใครหลายๆ คน
สำหรับมัทฉะบานอฟฟี่ของ Tealily นั้น เสิร์ฟออกมาในรูปแบบของสี่เหลี่ยมผืนผ้าไซส์ใหญ่จัดเต็มอีกเช่นเคย โดยจะเรียงจากชั้นครีมสดท็อปด้วยผงมัทฉะ มัทฉะเลเยอร์ที่ให้สัมผัสเนียนนุ่ม และรสชาติของชาที่ชวนให้กินเพลิน มาพร้อมกล้วยชิ้นใหญ่เต็มคำ ซอสคาราเมลที่แอบซ่อนในชั้นขนม และปิดท้ายด้วยฐานโอริโอ้
Tealily Cafe Ekkamai
ที่อยู่: ซอยเอกมัย 12 (หมู่บ้านสวนเจริญใจ)
https://web.facebook.com/Tealilycafe
ภาพ: @tealilycafe