วันนี้ (6 ธันวาคม) สุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินในส่วนที่เกี่ยวกับการสั่งการและประสานกับผู้ว่าราชการจังหวัดและผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า ขณะนี้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในพื้นที่ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ยังคงต้องเฝ้าระวัง และได้เกิดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 สายพันธุ์โอไมครอนเป็นรายแรกในประเทศมาเลเซีย และมีแนวโน้มอาจจะมีการแพร่ระบาดของไวรัสสายพันธุ์ดังกล่าวเข้ามายังประเทศไทย
สุทธิพงษ์กล่าวว่า ขณะนี้ตนได้กำชับไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ยะลา ปัตตานี นราธิวาส และสตูล เน้นย้ำการปฏิบัติโดยใช้กลไกฝ่ายปกครอง นายอำเภอ ปลัดอำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน แพทย์ประจำตำบล ฯลฯ และผู้นำชุมชน บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิดตามแนวทางปฏิบัติ ได้แก่
- สร้างการรับรู้และความเข้าใจมาตรการสำคัญของทางราชการอย่างต่อเนื่อง ขอความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งหน่วยงานภาครัฐ องค์กรภาคีเครือข่ายภาครัฐ และภาคเอกชน บังคับใช้มาตรการสาธารณสุขอย่างเคร่งครัดในพื้นที่ ตามวิธีป้องกันการติดเชื้อโควิดขั้นสูงสุด (Universal Prevention) และมาตรการปลอดภัยสำหรับองค์กร (Covid Free Setting) และเน้นย้ำฝ่ายปกครองให้มีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนการปฏิบัติร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและอาสาสมัครสาธารณสุขในพื้นที่
- เพิ่มความเข้มข้นการตรวจตราและสอดส่องดูแล ไม่ให้มีการลักลอบหลบหนีเข้าประเทศและการเคลื่อนย้ายแรงงานต่างด้าวโดยผิดกฎหมายผ่านช่องทางธรรมชาติ หากพบการกระทำผิด ให้ดำเนินการทางกฎหมายอย่างเด็ดขาด ทั้งผู้นำพาและผู้ให้ที่พักพิง
- ดำเนินมาตรการตรวจคัดกรองเชิงรุก (Active Case Finding) อย่างเข้มข้น มุ่งเน้นการตรวจคัดกรองในพื้นที่ชุมชนที่มีประชาชนอาศัยอยู่จำนวนมาก และสถานที่เสี่ยงที่มีการรวมกลุ่มของประชาชนเป็นจำนวนมากอย่างต่อเนื่อง เช่น สถานประกอบการ โรงงาน และตลาด เป็นต้น
- ช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด และประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าให้ความช่วยเหลือ โดยเฉพาะอย่างยิ่งประชาชนกลุ่มเปราะบางหรือผู้ที่สมควรได้รับความช่วยเหลืออย่างเหมาะสม
- เร่งประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนในพื้นที่เข้ารับการฉีดวัคซีน โดยมุ่งเน้นกลุ่ม 608 และประชาชนทั่วไป ด้วยการกำหนดจุดรับบริการฉีดวัคซีน ทั้งรูปแบบ On-Site และรูปแบบ Mobile Unit เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชน พร้อมทั้งทำความเข้าใจกับผู้ที่ไม่ประสงค์จะฉีดวัคซีนด้วย
“ให้ฝ่ายปกครอง นายอำเภอ ปลัดอำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน แพทย์ประจำตำบล ฯลฯ และผู้นำชุมชน ติดตามข้อมูลข่าวสารต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิดอย่างใกล้ชิด เพื่อสามารถปฏิบัติหน้าที่ตามอำนาจหน้าที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงมีข้อมูลเพื่อสื่อสารสร้างความเข้าใจให้กับทุกภาคส่วนในพื้นที่ได้รับรู้ร่วมกัน” สุทธิพงษ์กล่าวทิ้งท้าย