TikTok เป็นอีกหนึ่งแพลตฟอร์มที่ได้รับอานิสงส์เชิงบวกจากการระบาดของโควิด-19 ในช่วงปลายปีถึงต้นปีที่ผ่านมาไปแบบเต็มๆ โดยเฉพาะในประเทศไทยที่มีผู้ใช้งานเพิ่มขึ้นสูงอย่างต่อเนื่องและแพร่พลาย จนเกิดปรากฏการณ์ที่เราได้เห็นคนดังในหลายวงการกระโดดลงมาสร้างสรรค์คอนเทนต์ของตัวเอง
ข้อมูลตัวเลขจาก Sensor Tower ที่เปิดเผยเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ก็ยังพบอีกด้วยว่า TikTok มียอดดาวน์โหลดตัวแอปฯ ทั่วโลกมากกว่า 2 พันล้านครั้งเป็นที่เรียบร้อย สะท้อนให้เห็นถึงความนิยมของแพลตฟอร์มได้เป็นอย่างดี ขณะที่ประเด็นความกังวลข้อพิพาททางการเมืองกับสหรัฐฯ ก็ดูจะคลี่คลายแล้ว โดยเป็น Oracle และ Walmart ที่จะเข้ามามีส่วนร่วมดูแลบริษัทใหม่ในสหรัฐฯ ที่แยกการบริหารออกมาโดยเฉพาะ
ล่าสุด TikTok ประเทศไทยยังได้เปิดตัวแพลตฟอร์มสำหรับการทำการตลาดดิจิทัลอย่างเป็นทางการ ‘TikTok For Business’ ซึ่งเป็นโมเดลการทำเงินให้กับแพลตฟอร์มในรูปแบบการเปิดพื้นที่โฆษณาสำหรับแบรนด์และผู้ประกอบการ SMEs แบบครบวงจร ทั้งยังเคลมว่าช่องทางของพวกเขาสามารถช่วยให้เกิด Awareness และ Call to Action จนนำไปสู่การตัดสินใจซื้อสินค้าและบริการแบบ ‘Full-Funnel Marketing Solution’
สำหรับ 5 ฟีเจอร์บน TikTok for Business ประกอบด้วย
- Brand Takeover: วิดีโอโฆษณาความยาว 3-6 วินาทีแบบไม่มีเสียง ขึ้นโชว์เป็นตัวแรกทันทีที่เปิดแอปฯ ขึ้นมา
- Top View: ตำแหน่งโฆษณาตัวแรกในหน้า ‘For you’ ที่แบรนด์สามารถใส่ฟีเจอร์ต่างๆ เพื่อให้ผู้ชมมีส่วนร่วมกับแบรนด์ได้
- In-Feed Ads: รูปแบบโฆษณาวิดีโอที่จะปรากฏขึ้นมาระหว่างรับชมคอนเทนต์ปกติ เฉลี่ยประมาณทุกๆ 4 คอนเทนต์ (ผู้ประกอบการ SMEs สามารถซื้อโฆษณาแบบนี้ได้เอง ไม่ต้องผ่านเอเจนซีดิจิทัล (Self-Serve solution))
- Hashtag Challenge: ช่วยให้แบรนด์สร้างแคมเปญเพื่อสร้างการมีส่วนร่วมกับผู้บริโภคในแบบ UGC สร้างคอนเทนต์เองและส่งต่อ
- Branded Effect: ฟิลเตอร์, AR หรือเพลง ฯลฯ ให้ผู้ใช้งานเลือกเล่น
โดยทั้งหมดแบรนด์และนักการตลาดยังสามารถเลือกยิงโฆษณาไปยังแพลตฟอร์มของผู้ใช้งานในประเทศอื่นๆ ได้มากถึง 11 ประเทศในเอเชีย ทั้งในกลุ่มประเทศอาเซียน, จีน และญี่ปุ่น เป็นต้น
สิรินิธิ์ วิรยศิริ หัวหน้าแผนก Business Marketing ของ TikTok เปิดเผยกับสื่อมวลชนว่า สมาคมมีเดียเอเจนซีและธุรกิจสื่อแห่งประเทศไทย คาดการณ์ในปี 2563 นี้ อุตสาหกรรมไทยจะมีเม็ดเงินโฆษณาออนไลน์สูงกว่า 2.03 หมื่นล้านบาท เติบโตจากปีที่แล้ว 12% โดยเป็นเพียงแค่เซกเมนต์เดียวที่มีการเติบโตท่ามกลางความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ
นอกจากนี้ปัจจุบันประเทศไทยยังมีผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตบนมือถือมากกว่า 52 ล้านคน เฉลี่ยใช้งานอินเทอร์เน็ตบนมือถือวันละ 4 ชั่วโมง 57 นาที ในจำนวนนี้ 99% ใช้งานดูวิดีโอ (ข้อมูลจาก We Are Social: มกราคม 2020) สอดคล้องกับข้อมูลจาก Social Media Today ที่พบว่า ‘วิดีโอตอนสั้น’ กำลังได้รับความนิยมจากคนมาก โดยพฤติกรรมคนส่วนใหญ่ 78% จะดูวิดีโอตอนสั้นทุกสัปดาห์ 55% ดูทุกวัน และอีก 72% จะดูวิดีโอเพื่อการเรียนรู้ผลิตภัณฑ์หรือบริการต่างๆ
ฝั่ง TikTok เองในฐานะแพลตฟอร์มก็มีการสำรวจข้อมูลผู้ใช้งานเช่นกันโดยพบว่า ผู้ใช้ส่วนใหญ่ 60% เป็นผู้ใช้งานที่อยู่ในช่วงอายุ 16-34 ปี ท่ีเหลือเป็นกลุ่มที่มีอายุมากกว่า 34 ปีขึ้นไป และ 13-15 ปี ในสัดส่วนเท่าๆ กัน เมื่อจำแนกตามกลุ่มอาชีพจะพบว่า กว่า 80% เป็น First Jobber และนักเรียน นักศึกษา ซึ่งเป็นผู้ใช้งานกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูงและได้รับการจับตาจากนักการตลาดพอสมควร
ด้วยเหตุนี้เธอจึงชี้ว่าแพลตฟอร์มของ TikTok เป็นหนึ่งในทางเลือกที่สามารถช่วยให้แบรนด์และนักการตลาดสามารถสื่อสารกับกลุ่มเป้าหมายได้อย่างตรงจุด ทั้งยังช่วยให้เกิด Action ที่ช่วยไดรฟ์ยอดขายได้อย่างมีนัยสำคัญ (แคมเปญ PutURHandsUpChallenge ของนีเวียสามารถเพิ่มยอดขายผลิตภัณฑ์ได้สูงกว่า 26%)
ต่อประเด็นความนิยมของแพลตฟอร์ม TikTok ในช่วงหลังคลายล็อกนั้นไม่ได้มีการเปิดเผยจำนวนผู้ใช้งานหรือสัดส่วนการเพิ่มขึ้นลดลงในเชิงปริมาณแต่อย่างใด โดยบอกเพียงแค่ว่าแพลตฟอร์มมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง วัดได้จากความหลากหลายของรูปแบบคอนเทนต์และครีเอเตอร์
เมื่อถามถึงสถานการณ์ทางการเมืองที่เกิดขึ้นในปัจจุบันว่าส่งผลต่อการตัดสินใจใช้เงินซื้อสื่อโฆษณาในประเทศมากน้อยแค่ไหน สิรินิธิ์บอกว่า “มีผลพอสมควร” อย่างไรก็ดี ในช่วง 3-4 วันที่ผ่านมา สถานการณ์การซื้อสื่อโฆษณาเริ่มกลับคืนสู่สภาพปกติแล้ว
สำหรับกรณี Self-Serve Solution ที่ TikTok จะเปิดให้ผู้ประกอบการ SMEs สามารถซื้อสื่อโฆษณาได้ด้วยตัวเองนั้น มีการเปิดเผยว่าแพลตฟอร์มจะให้ความสำคัญกับการคัดกรองแบนและธุรกิจที่จะมาลงโฆษณาว่าต้อง ‘ไม่เป็นธุรกิจผิดกฎหมาย’ ทั้งยังมองในแง่ของผลลัพธ์อีกด้วยว่า เมื่อมาลงโฆษณาแล้วจะต้องไม่ทำให้ภาพลักษณ์ของแพลตฟอร์มเปลี่ยนไปในเชิงลบ ซึ่งจะใช้ AI และคนมาช่วยกันคัดกรองมอนิเตอร์เพื่อช่วยสกรีนเนื้อหาที่ไม่พึงประสงค์ในทุกๆ ขั้นตอน
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า