ท่ามกลางอากาศร้อนทำวินเทอร์เฟลละลาย คงไม่มีอะไรจะดับดีกรีความร้อนในร่างกายได้ดีไปกว่าไอศกรีมเย็นเจี๊ยบชื่นใจสักสองสามสกู๊ป หรือบิงซูรสหวานที่มาคู่กับผลไม้ฉ่ำๆ แต่จะให้ออกไปเดินหาร้านอร่อยๆ คงจะเมกอัพละลายเสียก่อน แต่อย่าห่วงไป เราได้คัด 5 ร้านชวนเย็นใจน่าไป ให้คุณได้แวะเข้าไปหลบแดด เพลินกับความหวานเย็นชื่นใจตักไอศกรีมเข้าปาก และถ่ายรูปเล่นจนลืมอากาศร้อนๆ ไปเลย ไป #เย็นแบบเล็ทอิทโก กัน!
Ryn Cafe
แม้ภายนอกจะดูเหมือนร้านไอศกรีมทั่วไป ตกแต่งสีสันสดใสชวนให้นึกย้อนกลับไปถึงวัยเด็ก แต่ Ryn Cafe สปีกอีซีบาร์ในรูปแบบร้านไอศกรีมแห่งนี้กลับซ่อนความเป็นผู้ใหญ่ไว้ในไอศกรีมโฮมเมดหลากสีที่วางเรียงรายอยู่ในตู้ ด้วยการนำไอศกรีมไปจับคู่กับคราฟต์สปิริตหรือเหล้าชนิดต่างๆ ที่ทางร้านคัดเลือกไว้เป็นอย่างดี จนออกมาเป็นเมนูไอศกรีมที่มีเอกลักษณ์แตกต่างกันถึง 10 รสชาติ
สั่งอะไรดี: ลองเมนูน่ารักๆ อย่าง Snow White Raised a Cow ไอศกรีมเจ้าหญิงก้อนสีขาวละมุนที่มาพร้อมกับรสชาติหอมมันของนมฮอกไกโด จับคู่ทานกับรัมที่เสิร์ฟตรงจากแคริบเบียน ด้วยกรรมวิธีการหมักสับปะรดทั้งเนื้อและเปลือกเข้าด้วยกัน ออกมาเป็นรสชาติที่ลงตัวอย่างน่าประหลาดใจ แต่ถ้าหากรู้สึกว่าเมนูนี้น่ารักใสๆ เกินไป ขอชวนมาต่อสกู๊ปที่สองกับ Join the Dark Side, We Got Beer ที่จะชวนคุณเข้าสู่ด้านมืดไปกับไอศกรีมดาร์กช็อกโกแลตสุดเข้มข้น ผสมกับพอตเตอร์เบียร์ยี่ห้อ Deschutes ที่เมื่อทานคู่กับเหล้าเบอร์เบินแล้วนั้น บอกเลยว่าเข้มถึงใจสุดๆ
Ryn Cafe
Open: วันจันทร์-เสาร์ เวลา 11.00-00.00 น.
Address: ปากซอยสุขุมวิท 34 กรุงเทพฯ
Budget: เริ่มต้นที่ 80 บาท
More: โทร. 09 5151 9914, www.facebook.com/ryncafe
Mo and Moshi
ใครที่ชื่นชอบความอลังการงานสร้าง ขอท้าให้มาพักร้อนกับไอศกรีมพาร์เฟต์ไซส์ยักษ์จาก Mo & Moshi ที่เห็นแล้วจะต้องร้องขอชีวิต เพราะทานคนเดียวยังไงก็ไม่ไหวแน่ๆ ด้วยทีเด็ดของร้านที่เน้นความจัดหนักจัดเต็มของไอศกรีมโฮมเมดหลายสิบลูก โรยหน้าด้วยสารพัดท็อปปิ้ง ทั้งผลไม้ วิปครีม ป็อกกี้ ช็อกโกแลต ฯลฯ แบบไม่มีกั๊ก
สั่งอะไรดี: แม้จะมีไอศกรีมซอฟต์เสิร์ฟเป็นสกู๊ปเล็กๆ ขาย แต่ไหนๆ มาถึงที่ทั้งที ก็อยากจะขอท้าให้จัดเมนู Strawberry Supreme ความสดชื่นไซส์ใหญ่เอาใจคนรักสตรอว์เบอร์รี ให้คุณและเพื่อนๆ ได้เนรมิตไอศกรีมถ้วยโปรดด้วยตัวเอง โดยเลือกสรรไอศกรีมที่ชื่นชอบ ทานคู่กับท็อปปิ้งสตรอว์เบอร์รีที่ทางร้านยกมาหมดทั้งสวน เรียกได้ว่าอร่อยครบจบในถ้วยเดียว
Mo and Moshi
Open: เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 10.00-22.00 น.
Address: ชั้น 2 สยามเซ็นเตอร์ หรือชั้น G เดอะมาร์เก็ต แบงคอก ราชดำริ กรุงเทพฯ
Budget: 35-3,000 บาท
More: www.facebook.com/moandmoshi
Guss Damn Good Shake
คราฟต์ไอศกรีมสัญชาติไทยที่ให้มากกว่าสกู๊ปไอศกรีม เพราะ Guss Damn Good Shake มาพร้อมกับคอนเซปต์ใหม่ โดยการต่อยอดไอศกรีมให้กลายเป็นมิลก์เชกสไตล์อเมริกัน ที่การันตีความเข้มข้นแบบไม่ต้องใส่น้ำแข็ง แถมยังใช้วัตถุดิบอย่างดี ทั้งนมจากฟาร์มไทยและครีมจากฝรั่งเศส จึงออกมาเป็นไอศกรีมที่เนื้อสัมผัสนุ่มเหนียวแต่ไม่หนักท้อง ส่วนมิลก์เชกบางเมนูก็มีการแอบเพิ่มความพิเศษลงไปโดยเติมไวน์และเหล้าช็อตคุณภาพดี ช่วยสร้างความสดชื่นและร้อนผ่าวในเวลาเดียวกัน
สั่งอะไรดี: สกู๊ปที่พลาดไม่ได้เลยก็คือ Don’t Give Up #18 ที่เกิดจากการลองจับคู่นมกับครีมหลายสิบยี่ห้อ จนเกิดเป็นไอศกรีมรสนมที่ออกมาหอมหวานและกลมกล่อม หรือใครอยากจะลองแบบเป็นมิลก์เชก ทางร้านมีเมนูคลาสสิกอย่าง Easy Chocolate Shake ที่ใช้ไอศกรีมนมตัวเดียวกัน ผสมกับช็อกโกแลตเพิ่มความเข้มข้น ปั่นผสมให้เข้ากันจนละเอียดพร้อมดื่ม ลืมน้ำแข็งไปได้เลย
Guss Damn Good Shake
Open: เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 10.00-23.30 น. (วันจันทร์-พุธ ปิด 22.00 น.)
Address: The Commons ซอยทองหล่อ 17 สุขุมวิท 55 กรุงเทพฯ
Budget: 150-400 บาท
More: www.facebook.com/gussdamngood
Farm to Table
เอาใจสายเฮลตี้กับ Farm to Table ร้านไอศกรีมออร์แกนิกที่ส่งตรงจากฟาร์มที่จังหวัดเชียงราย สู่โต๊ะเล็กๆ ในร้านบรรยากาศอบอุ่นย่านปากคลองตลาด ทางร้านคัดสรรวัตถุดิบปลอดสารพิษคุณภาพดีเพื่อคนรักสุขภาพ จนได้ไอศกรีมผักผลไม้รสชาติแปลกใหม่และหลากหลาย นำไปประยุกต์กับเมนูขนมไทยได้อย่างลงตัว หรือจะแท็กทีมกับเครื่องดื่มโฟลตดับร้อน ก็สดชื่นไปอีกแบบ
สั่งอะไรดี: ตัวเด็ดที่อยากให้ลองในหน้าร้อนนี้ก็คือ ไอศกรีมมะพร้าวอัญชัน ที่มาคู่กับ ขนมข้าวตอกตั้ง ขนมไทยโบราณที่มีรสชาติหอมมันของมะพร้าวขูดกับข้าวตอกบดหยาบ ซึ่งทางร้านได้กวนกันสดๆ ทำให้หวานไม่มาก แถมเหนียวหนึบกำลังดี เมื่อทานกับไอศกรีมมะพร้าวอัญชันแล้วยิ่งทำให้รสชาติเข้ากันอย่างลงตัว
Farm to Table
Open: สาขา 1 เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 10.00-20.00 น. ส่วนสาขา 2 เปิดให้บริการทุกวัน (ยกเว้นวันพุธ) เวลา 10.00-21.00 น.
Address: สาขาแรกอยู่ที่ Organic Cafe 179 ถนนอัษฎางค์ แขวงวังบูรพาภิรมย์ ส่วนสาขาที่ 2 อยู่ที่ Hideout 15 ซอยท่ากลาง แขวงวังบูรพาภิรมย์ กรุงเทพฯ
Budget: ไม่เกิน 200 บาท
More: www.facebook.com/FarmToTableOrganicCafe
Seobinggo Korean Dessert
อีกหนึ่งเมนูดับร้อนสุดเวิร์กนั่นก็คือ บิงซู หรือน้ำแข็งไสเกล็ดหิมะสไตล์เกาหลี ซึ่งถ้าใครอยากสัมผัสกับต้นตำรับของจริง ขอแนะนำให้เดินเข้ามาในร้าน ‘ซอบิงโก’ บิงซูเกล็ดหิมะเนื้อนุ่มๆ ล้นถ้วย ที่นอกจากจะให้ความเย็นสดชื่นแล้ว ยังได้รสชาติที่หวานและเปรี้ยวมาเสริมให้ฟินกันไปข้าง โดยการจับคู่กับท็อปปิ้งรสชาติต่างๆ และผลไม้สดหลากหลายชนิด ทั้งมะม่วง สตรอว์เบอร์รี เมลอน และบลูเบอร์รี
สั่งอะไรดี: เมนูขึ้นชื่อของที่นี่คือ อินจอลมิ (Injeolmi) บิงซูเนื้อละเอียดโรยด้วยผงถั่วเหลือง ต๊อกอินจอล ถั่วแดง และอัลมอนด์ แถมนมข้นไว้ให้ราดเพิ่มความหวานฉ่ำ แต่หากอยากเพิ่มความสดชื่น ก็ขอแนะนำ บิงซูมะม่วงชีส (Mango Cheese) ที่อัดแน่นด้วยมะม่วงสุกสีเหลืองหวานฉ่ำ โปะชีสเค้กรอบด้าน แซมด้วยอัลมอนด์ ราดน้ำมะม่วงที่มีความหวานซ่อนเปรี้ยว ช่วยเติมเต็มหน้าร้อนนี้ได้อย่างสมบูรณ์แบบ
Seobinggo Korean Dessert
Open: เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 10.00-22.00 น.
Address: ชั้น 2 สยามสแควร์ ซอย 9 กรุงเทพฯ
Budget: 100-400 บาท
More: www.facebook.com/pg/SeoBingGo
ภาพ: Courtesy of Brands
พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล