วันนี้ (9 มิถุนายน) ณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) กรุงเทพมหานคร พรรคก้าวไกล อภิปรายพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและสังคม จากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เพิ่มเติม วงเงินไม่เกิน 5 แสนล้านบาท โดยระบุว่า การกู้เงินด้วยรูปแบบพิเศษของรัฐบาลประยุทธ์ โดยการออก พ.ร.ก. ฉบับนี้ เป็นการกู้ครั้งที่ 2 แล้ว ยืนยันว่าพรรคก้าวไกลไม่ได้ต่อต้านการกู้เงินในสถานการณ์ที่พี่น้องประชาชนเดือดร้อน เพราะ 7 ปีที่รัฐบาลบริหารมาทำให้เงินของประเทศไม่เหลือแล้ว แต่สาเหตุที่ต้องมาคัดค้าน มีเหตุผลสั้นๆ 2 ข้อ
“เหตุผลข้อแรก ผมและพี่น้องประชาชนทั้งประเทศเห็นตรงกันว่า คนกู้เงิน คนใช้เงิน คือ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไร้ความสามารถในการบริหารเงินที่มีอยู่ แต่ยังมีหน้าจะไปกู้เงินมาบริหารอีก ที่ผ่านมาเคยกู้ไป 1 ล้านล้านบาท แต่ยังทำเอาพี่น้องประชาชนเจ็บปวดทั้งประเทศ แค่มาตรการง่ายๆ อย่างการแจกเงินก็ยังทำให้คนด่าทั้งประเทศได้ เราไม่ทิ้งกัน, เราชนะ, เรารักกัน ไม่ถ้วนหน้า ทั่วถึง ทันการณ์ รอบที่ผ่านมา เงินเยียวยาแต่ละครั้งต้องรอจนเยี่ยวราด มีคนขู่ฆ่าตัวตาย กินยาเบื่อหนูหน้ากระทรวง ลงทะเบียนแล้วลงทะเบียนเล่าคนจนตายรายวัน นี่จึงเป็นการแจกเงินที่มีคนด่ามากที่สุดในประวัติศาสตร์ ที่แม้แต่ ส.ส. รัฐบาลเองยังพูดกลางสภา”
ณัฐชากล่าวต่อไปว่า มาครั้งนี้จะเอาอีก 5 แสนล้านบาท ไม่มีใครไว้ใจหน้าตาแบบนี้ให้กู้อีกต่อไปแล้ว เพราะ พล.อ. ประยุทธ์ โตมากับการสั่งลูกน้องยึดพื้น จึงไม่รู้สึกถึงรสชาติพี่น้องประชาชนที่เขาโดนยึดบ้านยึดรถ ท่านบริหารสถานการณ์วิกฤตอย่างเชื่องช้า
จากข้อมูลเบิกจ่ายเงินกู้ 1 ล้านล้านบาท ณ วันที่ 28 พฤษภาคม 2564 โครงการด้านสาธารณสุข พวกปรับปรุงห้อง ICU ปรับปรุงห้องฉุกเฉิน ปรับปรุงห้องความดันลบ ไม่มีโครงการใดแล้วเสร็จเลยแม้แต่โครงการเดียว
“แผนงานฟื้นฟูเศรษฐกิจยิ่งเลวร้าย ตอนจะมาขอกู้ก็คุยโม้โอ้อวดไว้สวยหรู บอกว่ารายได้ภาคเกษตรจะเพิ่มขึ้น 1.1 หมื่นล้านบาทต่อปี เกษตรทันสมัยจะเพิ่ม 5 ล้านไร่ พื้นที่เก็บน้ำเพิ่มขึ้น 7.9 พันล้านลูกบาศก์เมตร กู้มาปีหนึ่งแล้วไม่มีอะไรเป็นรูปธรรมเลยสักอย่างเดียว ยังไม่จบ โครงการเกษตรทฤษฎีใหม่ 3 พันกว่าล้านบาท เบิกจ่ายไปได้แค่ 15%, โครงการโคก หนอง นา โมเดล 4 พันกว่าล้านบาท เบิกจ่ายไปได้แค่ 17% เมื่อเข้าไปเช็กข้อมูล สุดท้ายเจอเป็นเพียงโครงการที่ทหารเอาไปใช้เล่นๆ ด้วยการตั้งศูนย์การเรียนรู้โคก หนอง นา ในค่ายทหาร 157 แห่ง แบบนี้จะฟื้นฟูเศรษฐกิจไทยหรือฟื้นฟูเศรษฐกิจใครกันแน่”
ณัฐชายังชี้ให้เห็นว่าโครงการนี้มีลักษณะตีหน้าเศร้าเล่าความเท็จเหมือนเดิม โดยบอกประชาชนคนใช้หนี้ว่าจะกู้ 5 แสนล้านบาทมาเยียวยา แต่ข้อความเนื้อในมีส่วนของการเยียวยาแค่ 3 แสนล้านบาท ด้านสาธารณสุข 3 หมื่นล้านบาท แล้วก็สอดไส้งบฟื้นฟู ซึ่งไม่รู้ว่าฟื้นฟูเงินในกระเป๋าใครอีก 1.7 แสนล้านบาท ซึ่งในวันนี้ผู้ขอกู้เองก็ยังไม่กล้าสู้หน้าประชาชนในสภาแห่งนี้ ทำแค่ส่งบริวารลิ่วล้อมาชี้แจงแทน แล้วเราจะกล้าให้เงินคนแบบนี้ไปใช้อีก 5 แสนล้านบาทได้อย่างไร
ณัฐชาอภิปรายต่อไปว่า เหตุผลข้อที่สองที่ไม่สามารถยอมให้รัฐบาลกู้เงินครั้งนี้ได้ เพราะจะกู้เงินมากถึง 5 แสนล้านบาท แต่ให้เอกสารมาพิจารณาแค่ 5 แผ่น ไม่มีบอกพี่น้องประชาชนคนใช้หนี้ตัวจริงว่า เงินที่กู้ไปนี้จะเอาไปทำอะไร ที่ไหน อย่างไร มีตัวชี้วัดหรือไม่ว่าถ้ามีเงินกู้ก้อนนี้พี่น้องประชาชนจะกลับคืนสู่ภาวะปกติภายในกี่เดือน วัคซีนจะได้ฉีดครบทุกคน ภายในสิ้นปีนี้จะมีวัคซีนให้เลือกมากกว่านี้อีกหรือไม่
“แต่ท่านกลับทำตัวลับๆ ล่อๆ ตอนผ่าน ครม. ก็ทำเป็นประชุมลับ ชักเข้าชักออกจะเอาหรือไม่เอาดี พอมาเข้าสภาส่งมา 5 แผ่น บอกให้รีบๆ ผ่านเหมือนคนร้อนเงิน แต่ถึงผ่านให้หนทางก็ยังดูมืดมน เพราะคนใช้เงินไม่เคยคิด วิเคราะห์ แยกแยะ เทียบกันให้ชัด รอบแรกคนติดเชื้อร้อยคนต่อวัน ท่านโอเวอร์แอ็กชัน สั่งล็อกดาวน์ 2 เดือน จ่ายเงินเยียวยา 15,000 บาทต่อคน รอบสองติดเชื้อพันคนต่อวัน ท่านโยนภาระให้ผู้ว่าราชการจังหวัดรับผิดชอบเองว่าจะล็อกหรือไม่ล็อก ตอนนั้นท่านให้เงินเยียวยาคนละ 7,000 บาท รอบสามติดเชื้อกันประมาณ 3,000 คนต่อวัน ท่านไม่ทำอะไรเลย แบ่งเงินจากที่กู้รอบที่แล้วมาให้คนละ 2,000 บาท
มาวันนี้ติดเชื้อกันสูงสุดวันละเกือบหมื่นคน นอกจากไม่เห็นท่านทำอะไรเพื่อรับมือโรคระบาดแล้ว วัคซีนก็ชุลมุน มาตรการเยียวยาก็ไม่ออกมา ล่าสุดข่าวที่เห็น ท่านจะให้คนละ 1,200 บาท ยังอุตส่าห์ซอยเหลือรอบละ 200 บาท กู้มา 5 แสนล้านบาท หลอกว่าจะเยียวยา สุดท้ายได้กันทีละ 200 บาท ไม่ไว้วางใจคนที่ให้ท่านกู้เลยหรือ” ณัฐชากล่าว
ช่วงท้ายของการอภิปราย ณัฐชาเสนอทางออกว่ามีสองทาง ทางแรก ถอน พ.ร.ก. เฮงซวยฉบับนี้ออกไป แล้วทำกลับมาใหม่เป็น พ.ร.บ. งบประมาณกลางปีที่มีรายละเอียดของแต่ละโครงการ ส่วนทางเลือกที่สองคือเปลี่ยนตัวคนกู้ใหม่ เปลี่ยนตัวนายกฯ ใหม่ เพราะนายกฯ คนเดิม คนกู้คนเดิม ไม่เหลือความชอบธรรม ความน่าเชื่อถือ ในสายตาพี่น้องประชน
“พ.ร.ก. กู้เงิน 5 แสนล้านบาท ไม่มีความรู้สึกทุกข์ร้อนของพี่น้องประชาชนคนใช้หนี้ตัวจริงอยู่ในนี้เลย ทั้งที่พี่น้องประชาชนมีความตายมีความหิวอยู่จริงๆ มีแต่ตัวหนังสือบนกระดาษ 5 แผ่นที่ไม่มีความรู้สึกของประชาชนอยู่ในนั้น ไปทำมาใหม่ ผมไม่อาจปล่อยผ่าน พ.ร.ก. ฉบับนี้ได้” จากนั้นณัฐชาจึงได้ฉีกร่าง พ.ร.ก. ฉบับดังกล่าวทิ้งกลางสภา
พิสูจน์อักษร: วรรษมล สิงหโกมล