ชื่อของ ‘สุรพล นิติไกรพจน์’ ศาสตราจารย์ทางด้านกฎหมายมหาชน และที่ปรึกษากฎหมายของ กกต. ปรากฏเป็นหนึ่งในพยานปากเอกที่พรรคก้าวไกลส่งรายชื่อเพิ่มเติมต่อศาลรัฐธรรมนูญในคดียุบพรรค
ด้วยความเชี่ยวชาญทางกฎหมายและสถานะของสุรพล บันทึกถ้อยคำที่เขายื่นต่อศาลจึงน่าจะมีน้ำหนักและเป็นข้อต่อสู้หลักให้พรรคก้าวไกลในคดีดังกล่าว
THE STANDARD สรุปประเด็นสำคัญจากความเห็นของสุรพล ที่ล่าสุดพรรคก้าวไกลได้นำมาเสนอต่อสาธารณะ
การยุบพรรค
- ต้องไม่เป็นการปิดกั้นสิทธิเสรีภาพ
- ยุบต่อเมื่อมีการ ‘ใช้ความรุนแรงนอกกรอบรัฐธรรมนูญ’
- ต้องมีเหตุผลที่ชัดเจน ไม่คลุมเครือ
- กกต. ดำเนินการโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย
ไม่เปิดให้ผู้ถูกร้องแสดงหลักฐานอย่างเต็มที่
- การเสนอร่างกฎหมายต่อรัฐสภา
วิญญูชนย่อมไม่อาจเห็นว่าเป็นการเซาะกร่อนบ่อนทำลายระบอบการปกครอง
- การนำนโยบายไปหาเสียง
ไม่ได้ใช้กำลังบังคับหรือความรุนแรงเพื่อเปลี่ยนระบอบการปกครอง
- สส. ร่วมชุมนุม, ประกันตัวจำเลยคดี ม.112
เป็นการกระทำของบุคคล ใช้สิทธิตามกฎหมาย แยกจากการกระทำของพรรค
ความเห็นเพิ่มเติมต่อศาลรัฐธรรมนูญ
“การยุบพรรคที่ผ่านมาหลายครั้งไม่เคยช่วยคลี่คลายวิกฤตทางการเมือง แต่กลับสร้างความโกรธแค้นชิงชังให้เพิ่มยิ่งขึ้น”
ภาพประกอบ: กริน วสุรัฐกร
อ้างอิง:
- บันทึกถ้อยคำยืนยันข้อเท็จจริงหรือความเห็น สุรพล นิติไกรพจน์ ต่อศาลรัฐธรรมนูญ คดี กกต. ขอให้พิจารณาวินิจฉัยเพื่อมีคำสั่งยุบพรรคก้าวไกล