วานนี้ (3 ธันวาคม) วิชัย ไชยมงคล เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) เปิดเผยถึงการดำเนินการขยายผลจับกุมผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องการขนส่งยาบ้า 384,000 เม็ด ผ่านบริษัทขนส่ง โดยสำนักงาน ป.ป.ส. ร่วมกับกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 ได้จับกุมบุคคลตามหมายจับของศาลจังหวัดเชียงราย จำนวน 3 คน คือ ศกุนตลา วิชัยยา, คมสัน กูลวงค์ เป็นผู้ดำเนินการจัดส่งยาเสพติดของกลาง และมี ปกรณ์ ชูวงค์ เป็นผู้รอรับและทำหน้าที่เก็บพักยาเสพติดในพื้นที่จังหวัดปทุมธานี จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานเสนอศาลขออนุมัติหมายจับกลุ่มบุคคลดังกล่าว พร้อมทำการขยายผลตรวจค้นสถานที่ที่เกี่ยวข้องกับผู้ต้องหา รวมทั้งสิ้น 7 จุด ซึ่งอยู่ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ 5 จุด และจังหวัดเชียงราย 2 จุด สามารถยึด/อายัดทรัพย์สินของผู้ต้องหา ประเภทที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง รวม 11 แปลง มูลค่าประมาณ 30.5 ล้านบาท และเงินฝากในบัญชีธนาคารประมาณ 5.3 แสนบาท รวมมูลค่าทรัพย์สินทั้งสิ้นประมาณ 31 ล้านบาท
สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน 2565 เจ้าหน้าที่ศุลกากรประจำด่านแม่สาย จังหวัดเชียงราย ตรวจยึดยาบ้าจำนวน 384,000 เม็ด ซุกซ่อนอยู่ในกล่องสุราต่างประเทศยี่ห้อหนึ่ง เตรียมจัดส่งผ่านบริษัทขนส่งเอกชนรายหนึ่งในอำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย ไปให้ผู้รับปลายทางที่อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี ต่อมาสำนักงาน ป.ป.ส. ร่วมกับตำรวจภูธรภาค 5 ได้สืบสวนขยายผล จนทราบว่า ศกุนตลา วิชัยยา, คมสัน กูลวงค์ เป็นผู้ดำเนินการจัดส่งยาเสพติดของกลาง และมี ปกรณ์ ชูวงค์ เป็นผู้รอรับ และทำหน้าที่เก็บพักยาเสพติดในพื้นที่จังหวัดปทุมธานี จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานเสนอศาลขออนุมัติหมายจับกลุ่มบุคคลดังกล่าว ซึ่งได้กระทำความผิดฐาน ‘สมคบกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติด ฐานร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 ไว้ในครอบครองเพื่อการค้าอันก่อให้เกิดการแพร่กระจายในหมู่ประชาชน และได้กระทำความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติดเพราะเหตุที่มีการสมคบกัน’ ตามมาตรา 127 แห่งประมวลกฎหมายยาเสพติด พ.ศ. 2564
วิชัยกล่าวเพิ่มเติมว่า จากการจับกุมดังกล่าว ตนได้สั่งการให้เจ้าพนักงาน ป.ป.ส. ดำเนินการติดตาม สืบสวน จับกุม ผู้ที่เกี่ยวข้องให้ได้ทั้งขบวนการ และให้ติดตามทรัพย์สินที่ยังเหลืออยู่ให้ถึงที่สุด ทั้งทรัพย์สินของผู้ต้องหาเอง หรือทรัพย์ที่มีการโยกย้าย ถ่ายโอน ซุกซ่อน อำพรางในชื่อของบุคคลอื่น หากพบว่ามีความเกี่ยวข้อง สำนักงาน ป.ป.ส. จะยึด/อายัดทรัพย์ดังกล่าวทันที
อย่างไรก็ตาม ตนได้เน้นย้ำให้สถานประกอบการขนส่งทุกแห่งช่วยสอดส่องดูแล พร้อมกำชับให้ปฏิบัติตามมาตรการอย่างเคร่งครัด หากพบว่าไม่ปฏิบัติตาม เลขาธิการ ป.ป.ส. มีอำนาจสั่งปิดสถานประกอบการแห่งนั้นชั่วคราว หรือสั่งพักใช้ใบอนุญาตประกอบการธุรกิจนั้น แล้วแต่กรณี
ทั้งนี้ หากผู้ใดพบเบาะแสยาเสพติด สามารถโทรแจ้งสายด่วน ป.ป.ส. 1386 ตลอด 24 ชั่วโมง