กว่า 7.30 ชั่วโมง ที่รัฐสภามีการพิจารณาให้ความเห็นชอบบุคคลซึ่งสมควรได้รับแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี ครั้งที่ 2 มี ส.ส. และ ส.ว. ทั้งฝ่ายที่มองว่าการเสนอชื่อพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ไม่เป็นญัตติ เพราะรัฐธรรมนูญได้บัญญัติถึงขั้นตอนการลงมติเลือกนายกรัฐมนตรีไว้ และไม่ได้ห้ามบุคคลที่รัฐสภาไม่ให้ความเห็นชอบเข้าพิจารณาอีก กับอีกฝ่ายที่มองว่าการเสนอชื่อพิธาขัดต่อข้อบังคับที่ 41 ซึ่งระบุว่า ญัตติใดที่รัฐสภาตีตกไปแล้ว ไม่สามารถเสนอซ้ำได้
ทั้งนี้ ผลการลงมติ ที่ประชุมรัฐสภาเสียงข้างมากเห็นว่าการเสนอชื่อพิธาคือญัตติ และไม่สามารถเสนอชื่อพิธาซ้ำได้ ด้วยคะแนน 395 ต่อ 312 เสียง งดออกเสียง 8 เสียง และไม่ลงคะแนนเสียง 1 เสียง ถือว่าที่ประชุมเห็นว่าไม่สามารถเสนอชื่อพิธาเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีได้อีกต่อไป
ทั้งนี้ นอกจากจะไม่สามารถเสนอชื่อพิธาชิงนายกรัฐมนตรีได้แล้วนั้น เขายังถูกศาลรัฐธรรมนูญมีมติเอกฉันท์รับคำร้องกรณีหุ้น ITV ด้วยมติตามเสียงข้างมาก (7 ต่อ 2) มีคำสั่งให้พิธาหยุดปฏิบัติหน้าที่ ส.ส. ตั้งแต่วันนี้ จนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัย
พิธาได้กล่าวยอมรับคำสั่งศาลว่า “รับทราบคำสั่ง และจะปฏิบัติตามจนกว่าจะมีคำวินิจฉัยเป็นอื่น ขออำลาประธานรัฐสภาจนกว่าเราจะพบกันใหม่ ฝากเพื่อนสมาชิกในการใช้รัฐสภาดูแลพี่น้องประชาชน ผมคิดว่าประเทศไทยเปลี่ยนไปไม่เหมือนเดิมอีกแล้วตั้งแต่วันที่ 14 พฤษภาคม และถ้าประชาชนชนะมาได้แล้วครึ่งทาง เหลืออีกครึ่งทาง ถึงแม้ผมจะยังไม่ได้ปฏิบัติหน้าที่ แต่ขอให้เพื่อนสมาชิกทุกคนช่วยกันดูแลประชาชนต่อไป”