วันนี้ (13 กรกฎาคม) ทวี ไกรคุปต์ อดีต ส.ส. ราชบุรี 7 สมัย บิดาของ ‘ปารีณา ไกรคุปต์’ อดีต ส.ส. ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ ได้ปรากฏตัวอยู่ท่ามกลางกลุ่มมวลชนที่เดินทางมาติดตามการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีที่แยกเกียกกาย
ทวีกล่าวว่า วันนี้เดินทางมาให้กำลังใจ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคและแคนดิเดตนายกฯ พรรคก้าวไกล เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 เพราะพิธาเป็นแคนดิเดตนายกฯ จากพรรคที่ได้รับคะแนนเสียงจากประชาชนสูงสุด และหากมองสัดส่วนการรวมเสียง จะพบว่า 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลมีจำนวน ส.ส. ถึง 312 คน ในขณะที่ฝ่ายรัฐบาลชุดเก่าสามารถรวมเสียงได้เพียง 188 คน หากนำข้อมูลมาเทียบก็สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ทันที
“มาวันนี้เพราะความสุขทางใจ อยากให้พิธาได้ทำงานตามฉันทานุมัติจากเสียงประชาชนส่วนใหญ่ ที่สำคัญการที่ก้าวไกลได้รับคะแนนเสียงมาเป็นอันดับที่ 1 เหมือนเสียงสวรรค์ของคนรุ่นใหม่ในการปรับโครงสร้างการเมืองใหม่” ทวีกล่าว
ทวีกล่าวต่อว่า สำหรับข้อตกลงร่วม 8 พรรคพันธมิตรถือเป็นมิติใหม่ ทำการเมืองมาหลายปีเห็นรัฐบาลมาหลายชุด ไม่เคยมีการทำ MOU แบบนี้ ซึ่งทั้งหมดทุกข้อดีหมด เป็นการแก้ไขปัญหาแบบคนรุ่นใหม่ไม่ล้าสมัย แต่มีอยู่ 1 ข้อที่ถูกโจมตีทางการเมืองโดยพรรคร่วมรัฐบาลเก่า คือประเด็นการแก้ไขมาตรา 112 ส่วนตัวมองว่าไม่ใช่เรื่องเสียหายต่อสถาบันฯ แต่กลับเป็นผลดีในการที่จะพิทักษ์รักษาสถาบันเบื้องสูง
“ไม่สมควรอย่างยิ่งที่จะนำกฎหมายมาตรา 112 มาโจมตีสร้างความแตกแยก และการนำมาเป็นข้ออ้างไม่โหวตนายกฯ ให้พิธา มันเป็นการดึงสถาบันฯ ให้ลงมาเกี่ยวข้องกับการเมือง อย่านำประเด็นนี้มาทำลายความน่าเชื่อถือของพิธา ถ้าพรรคก้าวไกลไม่รักสถาบันฯ จริง ผมไม่เอาหรอก” ทวีกล่าว
เมื่อถามว่า ได้คุยปรึกษากับ ปารีณา ไกรคุปต์ เรื่องการจะออกมาแสดงจุดยืนสนับสนุนพิธาบ้างหรือยัง อดีต ส.ส. ราชบุรี 7 สมัย ระบุว่ายังไม่ได้พูดคุย แต่เชื่อว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องสิทธิส่วนบุคคล แต่ละคนคิดไม่เหมือนกัน
ทวียังระบุด้วยว่า ส่วนตัวเชื่อว่าการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีในครั้งนี้จะเป็นไปอย่างราบรื่น รัฐบาลพิธาจะสามารถจัดตั้งได้ ผ่านการรวมเสียงเกิน 376 ทั้งนี้ขอฝากให้ ส.ว. พิจารณาการโหวตตามเสียงส่วนใหญ่ของประชาชนด้วย