สื่อนอกพร้อมใจเสนอข่าวไทยโหวตนายกฯ ขึ้นหน้าแรกเว็บไซต์ ชี้ ‘ผลลัพธ์ยากเกินคาดเดา’

THE STANDARD เกาะติดบรรยากาศประชุมรัฐสภาในวันนี้ (13 กรกฎาคม) โดยในช่วงเที่ยงที่ผ่านมา สำนักข่าวต่างประเทศชื่อดัง เช่น CNN, BBC, Reuters และ The Guardian ได้พร้อมใจกันตีข่าวการโหวตนายกรัฐมนตรีของประเทศไทยขึ้นที่หน้าแรกของเว็บไซต์ สะท้อนให้เห็นว่าสื่อต่างชาติให้ความสำคัญและจับตาผลการโหวตนายกฯ ที่จะออกมาอย่างใกล้ชิด

เริ่มต้นจากสำนักข่าว CNN ที่พาดหัวข่าวว่า “ประชาธิปไตยไทยเข้าสู่ช่วงเวลาสำคัญ หลังรัฐสภาเตรียมลงมติเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่” พร้อมลงรายละเอียดว่ารัฐสภาของไทยจะลงคะแนนเสียงเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่ในวันนี้ ซึ่งถือเป็นช่วงเวลาที่สำคัญสำหรับอนาคตของประชาธิปไตยในประเทศ หลังจากผ่านพ้นการปกครองด้วยรัฐบาลที่มาจากการสนับสนุนของทหารมานานเกือบทศวรรษ

ด้านสำนักข่าว BBC พาดหัวข่าวว่า “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์: ผู้นำการปฏิรูปของไทยเผชิญกับความไม่แน่นอนในการโหวตนายกฯ” โดยบรรยายสถานการณ์ว่า พิธา จากพรรคก้าวไกล ซึ่งชนะที่นั่ง ส.ส. เป็นอันดับ 1 จากการเลือกตั้งเมื่อช่วงที่ผ่านมา ได้รับการเสนอชื่อเป็นให้เป็นนายกฯ ในระหว่างเปิดการประชุมสภาเมื่อช่วงเช้าวันนี้ แต่เขายังคงต้องการเสียงสนับสนุนจาก ส.ว. ที่แต่งตั้งโดยรัฐบาลของ ประยุทธ์ จันทร์โอชา เพื่อที่จะสามารถนั่งเก้าอี้นายกฯ ได้อย่างสมบูรณ์

ส่วน Reuters พาดหัวข่าวว่า “วันชี้ชะตาของพิธา ขณะรัฐสภาลงคะแนนเสียงเลือกนายกฯ คนใหม่” โดยระบุรายละเอียดว่า พิธา ซึ่งหวังที่จะได้ก้าวขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่ของไทย กำลังเจอกับบททดสอบสำคัญบนเส้นทางการเมืองของเขาในวันนี้ โดยรัฐสภาได้จัดการประชุมเพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบบุคคลซึ่งสมควรได้รับแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี ตามมาตรา 272 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ซึ่งนี่อาจเป็นบททดสอบถึงความสามัคคีของพรรคร่วมทั้ง 8 พรรคด้วย

หนังสือพิมพ์ The Guardian รายงานว่า “แคนดิเดตนายกฯ ไทย เตือน ‘เตรียมเจอราคาที่ต้องจ่าย’ หากขัดขวางไม่ให้นั่งเก้าอี้ผู้นำ” โดยมีใจความว่า พิธาออกโรงเตือน ‘จะเจอราคาที่ต้องจ่าย’ หากมีการกีดกันไม่ให้เขาได้รับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีตามคะแนนเสียงจากประชาชน หลังจากที่เขาเผชิญกับอุปสรรคมากมายก่อนที่จะมาถึงการโหวตนายกฯ ในวันนี้ ซึ่งรวมถึงกรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีมติส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยพิธาให้พ้นสมาชิกภาพ ส.ส. เนื่องจากถือครองหุ้นสื่อ ITV ซึ่งเกิดขึ้นเพียงวันเดียวก่อนการประชุมรัฐสภา พร้อมระบุด้วยว่าการโหวตนายกฯ ที่จะเริ่มต้นขึ้นในช่วงเวลา 17.00 น. ตามเวลาไทยวันนี้ ‘ยากที่จะคาดเดาผลลัพธ์’

อ้างอิง: