วันนี้ (13 กรกฎาคม) ที่รัฐสภา พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส. บัญชีรายชื่อ ในฐานะหัวหน้าพรรคและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคก้าวไกล ลุกขึ้นชี้แจงประเด็นที่ถูกพาดพิงเรื่องการต่างประเทศ การแบ่งแยกดินแดน และการแก้ไขปัญหายาเสพติด
พิธากล่าวว่า ในเรื่องการต่างประเทศ ตนคิดว่าสิ่งที่ต้องรีบเลือกนายกรัฐมนตรี เพราะในเดือนกันยายนนี้จะมีการประชุมสหประชาชาติที่นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ตนต้องการเป็นผู้นำของประชาชนทุกคนเพื่อไปบอกกับโลกว่าประเทศไทยพร้อมแล้วและกลับมาแล้วในเรื่องที่จะมีบทบาทในการต่างประเทศ
แต่มีสิ่งที่น่ากังวลใจตั้งแต่เริ่มต้นการอภิปราย ได้มีการพูดถึงทหารยิงประชาชนและพาดพิง 2 ประเทศ ถ้าเป็นตนอภิปรายจะระวังคำพูดในการอภิปรายถึงประเทศเพื่อนบ้านที่ใกล้ชิดกับเรา และจะหาจุดสมดุลระหว่างประเทศมหาอำนาจกับการเมืองระหว่างประเทศแบบใหม่ ที่เป็นนโยบายด้านการต่างประเทศของพรรคก้าวไกลที่ต้องมีสมดุล ต้องรู้ว่าต้องเงียบเมื่อไร ไม่ใช่เงียบทุกเรื่องจนทำให้เราไม่มีน้ำหนักในเวทีการเมืองอีกเลย
ขอให้เพื่อนสมาชิกสบายใจว่า การแถลงนโยบายต่อสหประชาชาติครั้งต่อไปจะเป็นผลประโยชน์ต่อชาติแน่นอน
ส่วนเรื่องการแบ่งแยกดินแดนเกี่ยวกับต่างประเทศพอสมควร เนื่องจาก 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้มีชายแดนติดกับประเทศมาเลเซีย พบปัญหาความยากจน เป็นพื้นที่ที่มียาเสพติดและน้ำมันเถื่อน โดยขอให้คำยืนยันว่ารัฐไทย ภายใต้การนำของ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ประเทศไทยจะเป็นรัฐเดี่ยว และจะทำทุกอย่างผ่านการทูต พลเรือน เพื่อให้รัฐไทยเป็นรัฐเดี่ยว ลดความเหลื่อมล้ำ เพิ่มความมั่งคั่ง และลดความมั่นคงทางทหารลง โดยขอใช้สภาแห่งนี้เป็นพื้นที่ที่ร่วมกันปกป้องการแบ่งแยกดินแดนร่วมกันให้ดีที่สุด
พิธายังกล่าวถึงเรื่องยาเสพติดและน้ำมันเถื่อนว่า 4 ปีที่ผ่านมา พรรคก้าวไกลมีจุดยืนอย่างชัดเจนเกี่ยวกับเรื่องการปฏิรูปตำรวจ และขอยืนยันว่าพรรคก้าวไกลและพรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลทั้ง 8 พรรค ใส่ใจในการแก้ไขปัญหาเรื่องนี้อย่างแน่นอน
