วันนี้ (21 มิถุนายน) ที่สำนักงานการสอบสวน สำนักงานอัยการสูงสุด ตลิ่งชัน พ.ต.ท. เสถียร รัชพงษ์ไทย อดีตรองผู้กำกับการสืบสวนสอบสวน สถานีตำรวจภูธร (สภ.) หนองขาม จังหวัดชลบุรี พร้อมด้วย พ.ต.ท. นครราช นนสีลาด อดีตสารวัตรสอบสวน สภ.หนองขาม จว.ชลบุรี และ ร.ต.อ. สมบุญ บุดดาเลิศ อดีตรองสารวัตรสอบสวน สภ.พลูตาหลวง จว.ชลบุรี
ผู้ถูกกล่าวหาในข้อหามาตรา 157 ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต, มาตรา 149 ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งรัฐสมาชิกสภาจังหวัด หรือสมาชิกสภาเทศบาล เรียกรับหรือยอมจะรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบ เพื่อกระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใดในตำแหน่ง ไม่ว่าการนั้นจะชอบหรือมิชอบด้วยหน้าที่ และมาตรา 309 ข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด ไม่กระทำการใด หรือจำยอมต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิตร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียง หรือทรัพย์สินของผู้ถูกข่มขืนใจ
จากกรณีเรียกรับเงินผู้ต้องหาคดีเว็บไซต์พนันจำนวน 140 ล้านบาท เดินทางมาพร้อมทนายความ เพื่อยื่นหนังสือให้กับ กุลธนิต มงคลสวัสดิ์ อธิบดีอัยการสำนักงานการสอบสวน
โดยในเอกสารมีเนื้อความระบุว่า ทั้ง 3 คนในฐานะผู้ถูกกล่าวหาในคดีนี้ ไม่ได้รับความเป็นธรรมจากการสอบสวน เนื่องจากกระบวนการสอบสวนของตำรวจตั้งแต่ต้นไม่ได้ดำเนินการตาม พ.ร.บ.อุ้มหายฯ มาตรา 31 วรรคสาม ที่กำหนดขั้นตอนการดำเนินคดีว่าต้องแจ้งเหตุให้พนักงานอัยการทราบ เพื่อให้อัยการตรวจสอบหรือกำกับการสอบสวนทันที จึงมาร้องขอความเป็นธรรมจากอธิบดีอัยการ สำนักงานการสอบสวน ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหายในกรุงเทพมหานคร เพื่อขอให้เข้ามาตรวจสอบการสอบสวนว่าเป็นไปตามที่กฎหมายกำหนดไว้หรือไม่
พร้อมนำประเด็นการให้สัมภาษณ์ของผู้บังคับบัญชาระดับสูงของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ระบุว่า จะทำให้ถูกขั้นตอนตาม พ.ร.บ.อุ้มหายฯ ทั้งยังมีการกล่าวอ้างพฤติการณ์ในการกระทำความผิดของกลุ่มผู้ต้องหาว่า ผิดตาม พ.ร.บ.อุ้มหายฯ ฐานกระทำให้บุคคลสูญหาย แต่ในกระบวนการสอบสวน พนักงานสอบสวนกลับไม่ปฏิบัติตาม พ.ร.บ.อุ้มหายฯ เสียเอง
นอกจากนี้ยังหลีกเลี่ยงไม่แจ้งข้อหาตาม พ.ร.บ.อุ้มหายฯ ให้แก่ผู้ต้องหาคนใดเลย ทั้งที่ในหนังสือรายงานเหตุอุกฉกรรจ์ระบุพฤติการณ์โดยละเอียด และมีคำให้สัมภาษณ์ของผู้บังคับบัญชาฯ ยืนยันว่าการกระทำเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ. ดังกล่าว แสดงให้เห็นว่าการดำเนินคดีกับพวกและตนเองทั้ง 3 คนอาจไม่ชอบมาพากล
คดีทราบเหตุที่เกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 15 มิถุนายน ทุกอย่างจนถึงวันนี้เป็นเวลากว่า 7 วันแล้ว การที่พนักงานสอบสวนยังไม่ได้แจ้งเหตุแห่งคดีให้อัยการทราบ แสดงให้เห็นเจตนาในการจงใจไม่ปฏิบัติตามกฎหมายนี้
จึงมีหนังสือฉบับนี้เพื่อขอความเป็นธรรมให้อธิบดีอัยการสำนักงานการสอบสวน ดำเนินการให้มีอัยการเข้ามาร่วมการสอบสวนในครั้งนี้ด้วย
มีรายงานว่านอกจากหนังสือฉบับนี้แล้ว ทั้ง 3 นายได้มีหนังสือถึงสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อมีคำสั่งให้พนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบในคดีนี้ปฏิบัติตาม พ.ร.บ.อุ้มหายฯ อีกทางหนึ่ง