ถึงแม้จะมีการพูดกันว่าวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 นั้นต่อให้มีเงินก็ไม่อาจหาซื้อได้ แต่ในความเป็นจริงแล้วบางครั้งอาจไม่จำเป็นต้องใช้เงินเพื่อได้มาด้วยซ้ำไป
เพราะแค่เสื้อแข่งฟุตบอล 3 ตัวบวกลายเซ็น ก็สามารถแลกวัคซีนได้แล้วถึง 50,000 โดส!
เพียงแต่ไม่ใช่จะเป็นเสื้อแข่งของใครก็ได้ เพราะเรื่องนี้น่าจะเกิดขึ้นได้กับ ลิโอเนล เมสซี แค่คนเดียวเท่านั้น
เรื่องราวน่าเหลือเชื่อนี้ได้รับการเปิดเผยจากสื่อต่างประเทศที่มีการระบุว่า สตาร์ลูกหนังชาวอาร์เจนตินามีส่วนสำคัญอย่างยิ่งในการช่วยจัดหาวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ได้ถึง 50,000 โดส ซึ่งวัคซีนเหล่านี้จะถูกแจกจ่ายให้แก่นักฟุตบอลในทวีปอเมริกาใต้ผ่าน CONMEBOL หรือสมาพันธ์ฟุตบอลอเมริกาใต้
ที่แจกจ่ายให้นักฟุตบอลนั้นก็เพื่อเป็นการช่วยเตรียมความพร้อมสำหรับการแข่งขันฟุตบอลทัวร์นาเมนต์ชิงแชมป์แห่งทวีป ‘โคปา อเมริกา’ ซึ่งจะมีขึ้นในช่วงกลางปีนี้ โดยประเทศอาร์เจนตินาเป็นเจ้าภาพร่วมกับประเทศโคลอมเบีย
สำหรับวัคซีนทั้งหมดได้มาจากการบริจาคของ Sinovac Biotech หรือที่รู้จักกันในชื่อสั้นๆ ว่า Sinovac บริษัทชีวเภสัชภัณฑ์รายใหญ่ของจีน
โดยของแลกเปลี่ยนสำหรับวัคซีนจำนวน 50,000 โดส เป็นเพียงเสื้อแข่งที่เมสซีใช้ใส่ในการลงสนาม (Match-worn) พร้อมลายเซ็นเพียง 3 ตัว ที่ราชาลูกหนังของทีมบาร์เซโลนามอบให้แก่ผู้บริหารของ Sinovac ซึ่งเป็นแฟนตัวยงของสุดยอดนักเตะผู้นี้
Al anunciar las 50.000 dosis de vacuna para @CONMEBOL, quiero contarles que los directivos de @Sinovac manifestaron su admiración por Lionel Messi, quién con toda predisposición nos envió 3 camisetas para ellos. Así que el también es parte de este logro!!#Elfutbolsalvaalfutbol pic.twitter.com/E5gudJ1RR8
— Gonzalo Belloso (@GonzaloBelloso7) April 13, 2021
ทั้งนี้ แม้ว่าจะฟังแล้วชวนให้รู้สึกอมยิ้มตามในความตะมุตะมิของเรื่องราว แต่ในชีวิตจริงกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นและเป็นอยู่แล้ว การหาวัคซีนจำนวนมากขนาดนี้ และวิธีการแจกจ่ายนี้ก็กลายเป็นเรื่องราวใหญ่โต เป็นประเด็นดราม่าอยู่ไม่ใช่น้อย
โดยเฉพาะในอุรุกวัย ซึ่งคนที่ ‘หลุดปาก’ เรื่องนี้เป็นคนแรกคือ หลุยส์ ลากาเย่ ปู ประธานาธิบดีฝ่ายอนุรักษนิยม ที่เผชิญกับการตั้งคำถามของผู้คนภายในประเทศ
เพราะในขณะที่อุรุกวัยเป็นหนึ่งในประเทศที่ประสบปัญหาของจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 สูงที่สุดในโลก โดยตัวเลขล่าสุดสัดส่วนจำนวนผู้ติดเชื้ออยู่ที่ 1,084 คนต่อประชากร 1 ล้านคน ซึ่งสูงมากเมื่อเทียบกับจำนวนผู้ติดเชื้อ 215 คนต่อประชากร 1 ล้านคนของสหรัฐอเมริกา และ 25 คนต่อจำนวนประชากร 1 ล้านคนในสหราชอาณาจักร และในไทยจำนวนผู้ติดเชื้อ 588 คนต่อประชากร 1 ล้านคน แทนที่วัคซีนที่ได้มาจะถูกนำมาฉีดให้แก่ประชากรที่กำลังเผชิญหน้ากับโรคระบาด กลับเป็นนักฟุตบอลที่จะได้ฉีดวัคซีนก่อน
“ในขณะที่ประธานาธิบดีได้ทำการประสานร่วมกับ CONMEBOL เพื่อขอวัคซีนมาใช้สำหรับโคปา อเมริกา เขาก็ควรที่จะพิจารณาถึงการมาใช้กับประชากรในเมืองกาเนโลเนสเหมือนกัน” ยามานดู ออร์ซี นายกเทศมนตรีของเมืองกาเนโลเนส ในประเทศอุรุกวัย วิพากษ์การทำงานของประธานาธิบดีอย่างรุนแรง โดยจนถึงเวลานี้มีประชากรในเมืองที่ได้รับการฉีดวัคซีนเพียงแค่ 12.4 เปอร์เซ็นต์
ขณะที่ในอาร์เจนตินาบ้านเกิดของเมสซี การนำวัคซีนของ Sinovac มามอบให้นักฟุตบอลในลีกสูงสุดของประเทศจำนวน 26 ทีมก็ไม่ได้ถึงกับเป็นทางสะดวกนัก เนื่องจากทางด้านรัฐบาลอาร์เจนตินาที่เตรียมจะล็อกดาวน์ประเทศครั้งใหญ่อีกครั้งยังต้องทำการอนุมัติการใช้วัคซีนจากจีนก่อน
สถานการณ์ภายในประเทศอาร์เจนตินาเองก็เข้าขั้นวิกฤต เนื่องจากวัคซีนที่รัฐบาลเลือกใช้นั้นไม่มีการส่งมอบวัคซีนใหม่มาตั้งแต่วันที่ 4 เมษายน และจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มต่อวันในปัจจุบันคิดเป็น 477 คน จากจำนวนประชากร 1 ล้านคน ซึ่งสูงกว่าที่บราซิล ที่จำนวนผู้ติดเชื้อ 335 คนต่อจำนวนประชากร 1 ล้านคน
มิเรียม เบร็กแมน นักการเมืองในประเทศอาร์เจนตินาของพรรคการเมืองฝ่ายซ้าย เฟร็นเต เด อิซเกวียร์ดา วิพากษ์การนำวัคซีนมาฉีดให้นักฟุตบอลก่อนเช่นกัน “โคปา อเมริกาไม่ควรจะได้รับการพิจารณาความสำคัญก่อน เมื่อนึกถึงสถานการณ์เลวร้ายในปัจจุบันที่ทั้งทวีปต้องเผชิญ และจากข้อเท็จจริงในเรื่องวิธีการได้มาของวัคซีนที่ได้ด้วยความสัมพันธ์ส่วนตัว ก็ยิ่งทำให้เรื่องแย่ขึ้นไปอีก”
CONMEBOL จะทำการเจรจากับทางอาร์เจนตินา เพื่อขอการพิจารณาเป็นกรณีพิเศษสำหรับนักฟุตบอลต่อไป ส่วนทางด้านสำนักประธานาธิบดีของอาร์เจนตินายังไม่มีการให้ความเห็นในเรื่องนี้
สำหรับเมสซี บางทีความหวังดีของเขาก็อาจเป็นการประสงค์ร้ายโดยไม่ตั้งใจ
บางทีถ้าแบ่งส่วนหนึ่ง หรือ Sinovac จะบริจาคเพิ่มเติมมาให้สำหรับประชาชนที่เดือดร้อนก็อาจจะเป็นการดีกว่านี้
เหมือนที่ ออสการ์ รุกเจอรี กุนซือขรัวเฒ่าของวงการฟุตบอลแดนฟ้าขาว แนะนำว่า ทางที่ดีก็ตั้งเมสซีให้เป็นทูตเฉพาะกิจในการเจรจาประสานเรื่องวัคซีนจาก Sinovac เลย
“ถ้าเป็นผม จะตั้งเมสซีเป็นทูต พวกเขา (Sinovac) จะต้องละลายแน่เมื่อเห็นเมสซีตรงหน้า พวกเขารักลีโอ พวกเขาพร้อมจะช่วยแค่เพียงลีโอยกหูหาครั้งเดียว เขาเป็นคนที่ทรงอิทธิพลอย่างมากต่อโลกใบนี้ และเขาจะสร้างความแตกต่างได้อย่างแน่นอน”
พิสูจน์อักษร: วรรษมล สิงหโกมล
อ้างอิง: