วันนี้ (27 มกราคม) ณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า
ได้มีการพิจารณาอนุมัติออกมาจากทางคณะกรรมการเฉพาะกิจฯ ของศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) แล้วว่า การจัดการเรียนการสอนของโรงเรียนในสังกัดของกระทรวงศึกษาธิการนั้น ให้ดำเนินการใน 3 แนวทางแบ่งแยกตามพื้นที่ โดยทุกแนวทางต้องปฏิบัติตามมาตรการการรักษาความปลอดภัยตามหลักของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด สำหรับ 3 แนวทางนั้นก็คือ
1. จังหวัดสมุทรสาคร ที่ยังมีการแพร่ระบาดในวงกว้าง และถือเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด คงยังต้องปิดโรงเรียนและใช้การเรียนการสอนตามแนวทางที่กระทรวงได้กำหนดไว้
2. พื้นที่ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล คือ นนทบุรี สมุทรปราการ นครปฐม และปทุมธานี ให้โรงเรียนเปิดได้ แต่ต้องจำกัดจำนวนนักเรียนไม่เกิน 25 คนต่อชั้น หรือให้สลับวันเรียน
3. พื้นที่จังหวัดอื่นๆ นอกเหนือจากสมุทรสาคร กรุงเทพฯ และปริมณฑล ให้เปิดโรงเรียนได้ตามปกติ
ณัฏฐพลย้ำว่า โรงเรียนในสังกัดทั่วประเทศจะต้องดำเนินมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดตามหลักของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด ไม่ว่าจะเป็นการใส่หน้ากากอนามัย ล้างมืออย่างสม่ำเสมอ รักษาระยะห่าง งดกิจกรรมที่ต้องรวมตัวกันจำนวนมากหรือในที่อากาศถ่ายเทไม่สะดวก ทำความสะอาดพื้นที่ของโรงเรียนบ่อยๆ เพราะการดูแลในโรงเรียนจะเป็นการชะลอการติดเชื้อในเด็กและเยาวชน ซึ่งถือเป็นการควบคุมการระบาดในชุมชนนอกโรงเรียนได้ด้วย
ณัฏฐพลโพสต์ทิ้งท้ายว่า “และจากการผ่านสถานการณ์ในรอบแรก ผมมั่นใจว่าผู้บริหาร บุคลากรทางการศึกษาทุกท่าน รวมไปถึงผู้ปกครอง เข้าใจในการดูแลเด็กๆ ของเราเป็นอย่างดี ขอขอบคุณความใส่ใจของโรงเรียนและครอบครัว ทางกระทรวงศึกษาธิการจะติดตามสถานการณ์หลังเปิดโรงเรียนอย่างใกล้ชิด และจะทำทุกทางเพื่อดูแลเด็กและเยาวชนของเราให้สามารถเรียนรู้ได้ตามปกติ และควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ครับ”
ทั้งนี้ กระทรวงศึกษาธิการออกประกาศให้สถานศึกษาทุกแห่งของรัฐและเอกชน ทั้งในระบบและนอกระบบซึ่งอยู่ในสังกัดและในกำกับของกระทรวงศึกษาธิการ เปิดการเรียนการสอนตามปกติ ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2564 เป็นต้นไป
โดยต้องดำเนิการตามมาตรการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 สำหรับสถานศึกษา ตามแนวทางของกระทรวงสาธารณสุขและมาตรการของหน่วยงานต้นสังกัดหรือหน่วยงานผู้กำกับดูแลอย่างเคร่งครัด
พิสูจน์อักษร: วรรษมล สิงหโกมล