ในวันที่คนพื้นที่ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า “นครพนมเติบโตอย่างก้าวกระโดด” บ้างดีใจที่ได้เห็นเมืองพัฒนาไปข้างหน้า บ้างเสียใจที่อะไรหลายอย่างเข้ามาแทนที่ความสงบ แต่หากพูดถึง ‘ซีนกาแฟ’ ในวันนี้ของเมืองนครพนม เท่าที่ได้สัมผัสก็ต้องบอกว่าเติบโตทั้งในเชิงปริมาณและคุณภาพ เหมือนกับคาเฟ่ 3 ร้านนี้ที่ THE STANDARD POP คัดมาแล้วว่ามีคาแรกเตอร์เจนจัด ชนิดที่เราไม่อยากให้คุณพลาด… เมื่อไปเยือนเมืองริมโขงแห่งนี้
- Black Drip
เขาหาว่าผมบ้า
How come?
จากคนที่เคยคิดว่าการดื่มกาแฟซองเป็นเรื่องสามัญของชีวิต จนมีเพื่อนจากกรุงเทพฯ พาเด็กบ้านนอกอย่างเขาเข้าคาเฟ่เป็นครั้งแรก ทำให้ เบิร์ด-ภควัตร พิพัฒนกิจ ได้รู้ว่าโลกของกาแฟนั้นช่างกว้างใหญ่ หลังจากนั้นเขาจึงเดินทางขึ้นเหนือไปทำเวิร์กช็อป เรียนรู้วัฒนธรรมการดื่มกาแฟถึงในไร่ ได้ลองชิมกาแฟพิเศษ (Specialty Coffee) จนติดใจ กระทั่งกลับมานครพนม เขาเห็นร้านกาแฟขายกาแฟดริปอยู่ริมโขง แต่กลายเป็นว่าครั้งนั้นเขาถูกโขกราคาเกินจริง จึงเป็นแรงบันดาลใจให้อยากเปิดร้านกาแฟเป็นของตัวเอง
เบิร์ดเล่าว่าตัวเองไปขอซื้อรถเข็นจากป้าที่เคยขายการ์ดยูกิ (การ์ดเกมญี่ปุ่นยุค 90) ให้เขาตอนเด็กๆ โดยเอามาปรับโฉมใหม่ด้วยการทาสีดำทั้งคันสำหรับเป็นสเตชันขายกาแฟดริปที่เขาหลงใหล ซึ่งช่วงเวลานั้นเองที่คนหาว่าเขาบ้า กับการดริปกาแฟขายบนรถเข็น
“แต่ก็มีคนศรัทธาในความบ้าของผม” นั่นเป็นโอกาสให้เบิร์ดได้ไปเป็นบาริสต้าให้กับคาเฟ่แห่งหนึ่ง แต่จนแล้วจนรอดกลับต้องแยกทางกันด้วยเหตุผลทางธุรกิจ ก่อนจะมาลงเอยด้วยการเปิดคาเฟ่ของตัวเองบริเวณตลาดวินเทจ ซึ่งเปิดให้บริการมาได้กว่าครึ่งปีแล้ว
Concept
เบิร์ดเล่าให้เราฟังว่า “ร้านอื่นอาจมีคำว่า Café มีคำว่า Slow Bar แต่ผมอยากนิยามร้านผมให้เป็น Home Coffee อย่างในแง่ของคนขาย มันหมายถึงว่าถ้าคุณขยัน คุณตื่นมาทำ คุณถึงมีรายได้ แต่ถ้ามองในมุมลูกค้า เราอยากให้เขาได้บรรยากาศและความรู้สึกเหมือนมานั่งดื่มกาแฟที่บ้านเพื่อน เพราะอย่างที่เห็น คือร้านผมเล็กๆ ขนาดแค่ประมาณ 12 ตารางเมตร เล็กจริงๆ เข้ามา 5 คนก็เหมือนลูกค้าเต็มแล้ว (หัวเราะ)”
What to order?
ด้วยความเป็นบาริสต้าสายดริปมาตั้งแต่ต้น เมนูแนะนำของ Black Drip จึงต้องเป็น Standard Drip (เริ่มต้น 60 บาท) เท่านั้น ซึ่งเท่าที่สังเกตดู เบิร์ดคนที่พูดคุยกับเรากับเบิร์ดคนที่ดริปกาแฟนั้น เหมือนเป็นคนละคนกัน เพราะในจังหวะที่ดริปนั้น เขาดูจะมีสมาธิและความละเอียดลออมากเป็นพิเศษ โดยเบิร์ดนิยามสไตล์การดริปของตัวเองว่า “เร็วและสั้นเหมือนตวัดพู่กัน” ทำให้กาแฟที่ออกมามีความสะอาด ดื่มได้คล่องคอ โดยเราสามารถเลือกเมล็ดกาแฟซึ่งผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนไปทุกสัปดาห์ แต่จะมีตัวยืนเป็นของโรงคั่ว Gem Forest Coffee บ้านมณีพฤกษ์ จังหวัดน่าน และ Alexkoff Roaster จังหวัดสกลนคร
Contact
เวลาเปิด-ปิด: ทุกวัน เวลา 08.00-17.00 น.
ข้อมูลเพิ่มเติม: www.facebook.com/Black.Drip.01
พนม บุ๊คสโตร์
หนังสือ กาแฟ ภาพถ่าย (และดนตรี)
How come?
จะเป็นไปได้ไหม? ที่บทชีวิตเราจะไปละม้ายคล้ายกับหนังสือเล่มโปรด เหมือนกับชีวิตของ แมน-ธรรมนิตย์ พนมศักดิ์ ผู้มีหนังสือโปรดชื่อ Jonathan Livingston Seagull ที่เล่าเรื่องของนกนางนวลหนุ่มที่ออกโบยบินค้นหาความหมายและเส้นทางชีวิตของตัวเอง ในแบบที่ไม่ยึดติดกับวิธีหรือกรอบสังคมแบบเดิมๆ
ที่บอกอย่างนั้น เพราะแมนเองก็เป็นคนที่ลาออกจากหน้าที่การงานที่มั่นคงกับการเป็นวิศวกรของบริษัทชั้นนำ แล้วกลับมาบ้านเกิดในจังหวัดนครพนมเพื่อเตรียมตัวสอบเป็นอาจารย์ แต่เมื่อยังไม่มีตำแหน่งว่าง ระหว่างรอเขาจึงหาอะไรทำแก้ขัด ซึ่งด้วยเป็นคนชอบอ่านหนังสือ เลยตัดสินใจเปิดร้านหนังสือในตึกเก่าของคุณพ่อที่มีอาชีพเป็นช่างตัดผมมาก่อน จากพนม บาร์เบอร์ จึงกลายมาเป็นพนม บุ๊คสโตร์ในปี 2561
แต่ในยุคที่สื่อสิ่งพิมพ์ได้รับความนิยมน้อยลงเรื่อยๆ แมนจึงต้องมองหาช่องทางในการหารายได้เสริม ซึ่งด้วยเป็นคนชอบดื่มกาแฟเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เลยเกิดเป็นมุมกาแฟเล็กๆ ในร้านหนังสือขึ้นมา ที่แน่นอนว่าต่างก็เกื้อหนุนซึ่งกันและกัน
Concept
“ที่นี่เหมือนเป็นจุดรวมความชอบของตัวเอง ชอบอ่านหนังสือ ชอบกินกาแฟ ชอบถ่ายรูป ชอบอะไรก็เอามารวมกันตรงนี้ แล้วทำไปทำมาก็กลายเป็นจุดลงตัวของชีวิตไปเลย เพราะเป็นงานที่หล่อเลี้ยงได้ทั้งตัวเองและจิตวิญญาณ อย่างบางวันผมก็ปิดร้านไปวิ่งเทรล” เราฟังที่แมนเล่าให้ฟังในขณะที่ลูกค้าเดินเข้าออกร้านไม่ขาดสาย ก็รู้สึกยินดีไปด้วยกับเส้นทางชีวิตใหม่ที่ค้นพบ ชีวิตที่ไม่ต่างอะไรกับเจ้านกนางนวลหนุ่มในหนังสือเล่มโปรดของเขา
ในส่วนของหนังสือที่เลือกมาจำหน่ายนั้น มีพื้นฐานมาจากที่แมนชื่นชอบ มีทั้งหมวดวรรณกรรม บทกวี และเรื่องสั้น โดยทั้งหมดเรียงรายอยู่บนชั้นหนังสือที่ประกอบขึ้นเอง เคียงข้างภาพถ่ายฟิล์มขาวดำแนวสารคดีที่เป็นฝีมือของเขาอีกเช่นกัน โดยนอกจากกาแฟ หนังสือ และภาพถ่ายแล้ว แมนยังบอกด้วยว่า ที่ร้านจะจัดงานดนตรีโฟล์กปีละ 2 ครั้ง อย่างที่ผ่านมาก็เคยมีทั้งเขียนไขและวานิช หรืออย่าง Selina and Sirinya ก็มาบรรเลงสดให้ฟังกันมาแล้ว
What to order?
จุดเด่นของพนมอยู่ที่เมล็ดกาแฟที่มีให้เลือกหลากหลาย ทั้งที่ปลูกในไทยและนำเข้าจากต่างประเทศ ก่อนจะนำมาคั่วเองแบบมือหมุน แมนจึงบอกว่าที่ร้านไม่มีเมนูแนะนำ แต่จะขึ้นอยู่กับเมล็ดและวิธีการชง (ดริป / ROK) ที่ลูกค้าแต่ละคนชื่นชอบมากกว่า เหมือนกันกับขนมอบแบบโฮเมด ทั้งเค้ก สโคน คุ้กกี้ และคอร์นเฟลกที่ก็สามารถเลือกได้ตามใจชอบอีกเช่นกัน
Contact
เวลาเปิด-ปิด: ทุกวัน เวลา 09.00-16.00 น. (ปิดวันอังคาร)
ข้อมูลเพิ่มเติม: www.facebook.com/PhanomBookstore
76A The Space
เสกบ้านเก่าริมโขงให้เป็นคาเฟ่สุดอาร์ต
How come?
แม้จะเป็นคนกรุงเทพฯ แต่การมาเปิดธุรกิจโชว์รูมรถยนต์ที่นครพนมของ บิ๊ก-ธนพัต และบิ๋ม-อลิศา ทีฆธนานนท์ ทำให้คนทั้งคู่เห็นลู่ทางในการทำธุรกิจร้านกาแฟเพิ่มเติม โดยเริ่มต้นจากการเอากาแฟของรุ่นน้องที่โรงคั่วภว (Bhava) มาเสิร์ฟให้กับลูกค้าที่โชว์รูม ต่อมาวันหนึ่งทั้งสองมานั่งกินข้าวที่ร้านครัวชฎา ซึ่งบิ๋มเล่าให้ฟังถึงความรู้สึกในวันนั้นว่า “เราเห็นบ้านหลังข้างๆ แล้วรู้สึกว่าทำไมบ้านหลังนี้สวยจัง รู้สึกว่ามันมีอัตลักษณ์ของนครพนมฝังอยู่ตรงนี้ เสียดายที่มันถูกทิ้งเอาไว้ ก็เลยลองไปจีบเจ้าของบ้านที่ชื่อลุงเหวียด แกเป็นคนเวียดนามขายของอยู่ในตลาด เราก็เขียนแผนบูรณะบ้านอายุร้อยกว่าปีซึ่งเป็นบ้านมรดกของแกให้ดู ว่าเราจะอนุรักษ์โครงสร้างเดิมเอาไว้อย่างไร ทำให้เห็นว่าเราอยากให้คนได้มานั่งชิล ดูแม่น้ำโขง ได้มาทำความรู้จักนครพนมอีกมุมหนึ่งในบ้านของแก แล้วหลังหมดสัญญา 10 ปี แกยังคงมาใช้งานต่อได้ด้วย ซึ่งแกคงเห็นถึงความตั้งใจของเรา เลยออกมาเป็น 76A The Space อย่างที่เห็นกันทุกวันนี้”
Concept
ด้วยความที่บิ๊กเป็นสถาปนิก โจทย์แรกคือต้องอนุรักษ์โครงสร้างอาคารเดิมเอาไว้ให้ได้มากที่สุดแบบที่ให้คำมั่นไว้กับลุงเหวียด เราจึงได้เห็นอาคารของ 76A The Space เป็นสถาปัตยกรรมแบบ French Colonial ที่สมบูรณ์ที่สุดหลังหนึ่งในโซนตัวเมืองนครพนม อีกทั้งประตูบานเฟี้ยม บานหน้าต่าง ตลอดจนกระเบื้องดินเผาที่ใช้มุงหลังคาก็ทำเหมือนของเดิมทั้งหมด เช่นเดียวกับการคำนึงถึงภูมิสถาปัตยกรรม โดยขณะที่บูรณะอาคาร ไม่มีการตัดต้นไม้เดิมออกแม้แต่ต้นเดียว
ด้านบิ๋มเองที่เป็นกราฟิกดีไซเนอร์ก็มีแนวคิดว่า อยากให้นักท่องเที่ยวได้รู้จักนครพนมในมุมอื่นๆ นอกเหนือจากมุมมองด้านพุทธศาสนาดูบ้าง โดยเฉพาะในมุมศิลปะเหมือนกับที่เกิดขึ้นที่น่านหรือเชียงคาน นั่นเลยเป็นเหตุผลให้ที่นี่มีงานศิลปะของ Bloody Hell Big Head ศิลปินรุ่นใหม่ สอดแทรกไว้ตามมุมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นงานประติมากรรมบริเวณ Event Space รวมถึงภาพวาดรูปน้องไมค์ เจ้าสุนัขอารมณ์ดีบนผนังด้วย
What to order?
เมนูซิกเนเจอร์ของ 76A The Space เป็น Americano (70 บาท) ที่ทางโรงคั่วภวคั่วให้เป็นพิเศษ ใช้เมล็ดกาแฟจากปางขอน เชียงราย เบลนด์กับเมล็ดจากรวันดา ส่วนใครชอบดื่มกาแฟนม บิ๋มแนะนำ Dirty (75 บาท) ที่นมเย็นๆ กับกาแฟช็อตร้อนๆ จะมาบรรจบกันแบบพอดิบพอดี โดยความพิเศษอีกอย่างอยู่ที่กาแฟทุกแก้วของทางร้านจะไหลผ่านเครื่องชงสัญชาติดัตช์ Kees van der Westen รุ่น Slim Jim ราคาครึ่งล้าน! ซึ่งหากจะให้เข้าที จะสั่งเค้กแครอตนำเข้าจากนิวซีแลนด์ หรือสโคนของคนในพื้นที่มากินละเลียดวิวแม่น้ำโขง ในมุมที่เห็นภูเขาของประเทศลาวได้ชัดเจนที่สุด… ก็ดีเหมือนกัน
Contact
เวลาเปิด-ปิด: ทุกวัน เวลา 07.00-18.00 น.
ข้อมูลเพิ่มเติม: www.facebook.com/76ATheSpace
พิสูจน์อักษร: วรรษมล สิงหโกมล