เช้าวันที่ 31 มีนาคม 2532 หรือวันนี้เมื่อ 30 ปีที่แล้ว… คือเช้าแรกและเช้าสำคัญที่ทุกแผงเทปคาสเซตต์จะได้วางเรียงอัลบั้ม ไม้ม้วน ของ ใหม่ เจริญปุระ เป็นครั้งแรก
ย้อนกลับไปสู่บรรยากาศเวลานั้น ไม้ม้วน คืออัลบั้มเพลงที่ผู้คนจับจ้องสนใจ หลังจาก ใหม่ สิริวิมล นางเอกสาวดาวรุ่ง ทายาทของผู้กำกับชื่อดัง รุจน์ รณภพ เลือกที่จะพลิกเส้นทางสายการแสดงที่กำลังรุ่งโรจน์ของตัวเองไปสู่เส้นทางใหม่สายดนตรี ซึ่งนับตั้งแต่มีข่าวนี้ออกมา เธอก็ต้องเผชิญกับคำปรามาสและคำสบประมาทกับบทบาทใหม่อยู่นาน กว่าที่อัลบั้ม ไม้ม้วน จะสำเร็จออกมาในปี 2532
ไม้ม้วน ได้โปรดิวเซอร์ฝีมือดีอย่าง อภิชัย เย็นพูนสุข มาดูแลอัลบั้ม พร้อมด้วยนักแต่งเพลงชั้นนำ เช่น เทรักคืนไป แต่งเนื้อร้องโดย ดี้-นิติพงษ์ ห่อนาค, ไม่อยากให้เธอรู้, เสี่ยงเป็นเสี่ยงกัน เนื้อร้องโดย สีฟ้า, จริงใจไว้ก่อน เนื้อร้องโดย เขตต์อรัญ เลิศพิพัฒน์
เมื่องานดนตรีและเนื้อเพลงคุณภาพรวมเข้ากับน้ำเสียงแหบห้าวเป็นเอกลักษณ์ ที่สุดมันส่งให้อัลบั้ม ไม้ม้วน ได้รับคำวิจารณ์ที่ยอดเยี่ยม และใครๆ ก็เรียกเธอว่า ‘ใหม่ ไม้ม้วน’
ปลายปี 2532 หลังอัลบั้ม ไม้ม้วน โด่งดังไปทั่วประเทศ ใหม่ เจริญปุระ คว้ารางวัลนักร้องหน้าใหม่ยอดเยี่ยมจากสีสันอะวอร์ดส์ นิตยสารดนตรีชื่อดัง นอกจากนั้น ไม้ม้วน ยังส่งให้เธอได้รับการบันทึกชื่อในฐานะศิลปินหญิงคนแรกและคนเดียวในประวัติศาสตร์เพลงไทยที่มีมิวสิกวิดีโอครบทั้งอัลบั้มคือ 10 เพลง
อัลบั้ม ไม้ม้วน ทำยอดจำหน่ายเทปคาสเซตต์ไปทั้งสิ้น 8.4 แสนชุด ก่อนที่งานเพลงในอัลบั้มต่อมาอย่าง ไม้ขีดไฟ (2533) และอัลบั้มสำคัญคือ ความลับสุดขอบฟ้า (2535) จะสร้างตำนานบทใหม่ให้กับใหม่อีกครั้งในฐานะศิลปินหญิง 2 ล้านตลับคนแรกของเมืองไทย ด้วยยอดจำหน่ายอัลบั้มมากกว่า 2.58 ล้านชุด
ใหม่ เจริญปุระ เจ้าของตำนาน ‘แหบเสน่ห์’ เล่าถึงจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญที่ทำให้ตัดสินใจเปลี่ยนเส้นทางจากนางเอกสาวที่กำลังมาแรงสุดขีดสู่เส้นทางดนตรี ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายกว่าจะฝ่าด่านทดสอบมากมายในวันนั้นมาได้
“ใหม่เปิดฉากตัวเองในวงการบันเทิงด้วยการเป็นนางเอกหนัง แต่พอถึงจุดหนึ่งที่เล่นหนังมา 10 กว่าเรื่อง ใหม่บอกคุณแม่ว่าอยากพักงานไปเรียนต่อต่างประเทศ ตอนนั้นกำลังหลงทางเลย ไม่รู้ว่าจะทำอะไรต่อดี กระทั่งวันหนึ่งใหม่ได้เจอกับ พี่เล็ก-บุษบา ดาวเรือง ในกองถ่าย วัยร็อกเพลงร้อน (2528) วันนั้นพี่เล็กบอกว่าถ้าสนใจร้องเพลงให้ไปหาเขาได้นะ ทุกอย่างมันเหมือนเป็นจิ๊กซอว์ที่ต่อกันอย่างพอดี”
หลังการพบกันระหว่างเธอและบุษบา ดาวเรือง ผู้บริหารคนสำคัญของแกรมมี่ ใหม่ตัดสินใจลงเรียนร้องเพลงอย่างที่เธอเองก็ยังไม่รู้เหนือรู้ใต้หรือรู้อนาคตว่าตกลงจะไปต่อหรือควรถอยหลัง กระทั่งวันหนึ่งเธอก็พบกับจิ๊กซอว์ตัวสำคัญ ไพบูลย์ ดำรงชัยธรรม ประธานกรรมการบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน)
“พี่บูลย์ฟังเทปไปได้ 2-3 ท่อน เขาก็บอกว่ามาเซ็นสัญญาอยู่กับพี่เลยแล้วกัน แต่มีข้อแม้ว่าต้องเคลียร์งานแสดงให้หมด คือเขาอยากให้ใหม่ล้างภาพนักแสดงแล้วไปตั้งใจเรียนร้องเพลง เพราะยุคนั้นคนที่จะเป็นนักร้องออกอัลบั้มได้มักจะต้องมีดีกรีเป็นนักร้องประกวดเวทีสยามกลการอะไรพวกนี้มาก่อน แต่เรามาจากการเป็นนักแสดง
“ใหม่ตัดสินใจยอมล้างบางตัวเอง เทคิวมาฝึกร้องเพลงที่แกรมมี่อยู่ 2 ปี จนถึงวันที่อัลบั้มแรกใกล้จะคลอด ตอนนั้นเริ่มมีข่าวลือกันว่าใหม่จะออกเทป คือตอนนั้นเราก็ฮอตนะ คนก็รู้จักเราเยอะ เสียงก็เซ็งแซ่ตามออกมาอีกว่าแล้วจะร้องเพลงได้เหรอวะ พี่เล็ก บุษบา ซึ่งเป็นหัวเรือใหญ่ในการผลักดันเราเขาก็เรียกไปถามตรงบันไดหนีไฟ
“ใหม่ แกร้องเพลงได้เหรอ” – “ร้องได้สิพี่”
พี่เล็กถามอีก “ร้องสดได้จริงๆ นะ” – “ได้สิพี่”
“ไหนลองร้องให้ฟังสิ”
“เราก็ร้องให้พี่เล็กฟังตรงนั้นเลย อาจจะเป็นทุกข์ อาจจะผิดหวัง… (เพลง ไม่อยากให้เธอรู้) คิดในใจว่าอะไรวะ ฉันอัดเพลงร้องเพลงของฉันมา 10 เพลง แล้วการอัดเพลงในยุคนั้นก็ไม่ได้ใช้เวลารวดเร็วกันแบบยุคนี้ด้วยนะ ร้องเป็นเดือนเป็นปี แล้วอยู่ดีๆ มาท้าให้ฉันร้องเพลง (หัวเราะ)
“พอถึงวันรุ่งขึ้นที่เทปวางแผงเท่านั้นแหละ ไอ้คำเซ็งแซ่ต่างๆ มันกลายเป็นคำชมหมดเลย มันกลายเป็นการยอมรับในตัวเรา จนมาถึงปลายปี นิตยสาร สีสัน ที่เรียกว่าได้รับความเชื่อมั่นในการวิจารณ์เพลงมาก คำวิจารณ์ของเขานี่เรียกว่าฝีปาก คำปากการ้ายแรงมาก ถ้าใครทำงานออกมาไม่ดีนี่กลับบ้านไปตายได้เลย เขาก็มอบรางวัลศิลปินหน้าใหม่ยอดเยี่ยมมาให้ หลังจากนั้นชีวิตเลยพลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือ กลายเป็นว่าคนใส่เสื้อลูกไม้ กางเกงยีนส์ ทำหัวหยิกกันทั้งบ้านทั้งเมือง”
ขอบคุณภาพจาก : pantip.com